1. เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย
แม้จะเป็นการเปิดตัวแบบออนไลน์ แต่ก็มาพร้อมกับราคา และสเปคที่ชัดเจน “ที่แรกในโลก” แม้เอาเข้าจริง ครอสส์โอเวอร์อย่าง Nissan Kicks เริ่มทำตลาดไปแล้วในบางภูมิภาค แต่ขุมพลังแบบ e-Power ถูกนำมาใช้กับรถรุ่นนี้เป็นครั้งแรก โดยมีประเทศไทยเป็นแห่งแรกของโลกที่จะได้ใช้งาน Kicks e-Power และยังเป็นประเทศที่ 2 ของโลก ต่อจากประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ผลิตรถยนต์ที่ใช้ e-Power (ทั้ง Note e-Power และ Serena e-Power ผลิตที่ประเทศญี่ปุ่นทั้งนั้น)
2. ขุมพลังแบบ e-Power ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
ลักษณะของขุมพลัง e-Power คือ การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ เสมือนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า แต่การป้อนกระแสไฟฟ้าเป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์สันดาป แบบเบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร จุดแตกต่างจากระบบไฮบริดทั่วไป อยู่ตรงที่ลักษณะการขับขี่จะเหมือนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นั่นคือ แรงบิดที่ตอบสนองตั้งแต่ช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำ รวมถึงระบบคันเร่งแบบ One-Pedal เมื่อยกคันเร่ง ตัวรถจะหน่วงความเร็วลงมาค่อนข้างมาก (แต่ไม่มากเท่าระบบ e-Pedal ของ Nissan Leaf) เพื่อใช้แรงหน่วงแปลงเป็นกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังรับประกันแบทเตอรีเป็นเวลาถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฟฟ้า e-Power เป็นเวลา 5 ปี
3. เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ราคาโดยรวมย่อมเยากว่าคู่แข่ง
Nissan Kicks e-Power มีทางเลือก 4 รุ่นย่อย ได้แก่
หมายเหตุ: ราคาช่วงเปิดตัว ตั้งแต่ 15 พค.-31 สค. 2563
ขณะที่คู่แข่งครอสส์โอเวอร์ระดับเดียวกัน Mazda CX-30 มีราคาที่ 989,000-1,199,000 บาท (แต่กำลังสูงสุดมากกว่า และออพชันบางรายการมากกว่า) และ Toyota C-HR มีราคาที่ 979,000-1,159,000 บาท (มีทางเลือก 2 เครื่องยนต์)
4. รูปทรงมีความสดใหม่ ปรับโฉมล่าสุด
แม้ Nissan Kicks จะเริ่มทำตลาดในบางภูมิภาคมาก่อนหน้านี้ แต่รูปทรงของ Kicks e-Power เป็นการปรับโฉมล่าสุด รูปทรงของไฟหน้ามีความเพรียวมากขึ้น รวมถึงกระจังหน้าที่มีขนาดใหญ่ ไฟหน้า และไฟท้ายแบบแอลอีดี ภายใต้รูปทรงที่เน้นสันเหลี่ยม มีความบึกบึนในระดับที่เหมาะสม ล้อแมกขนาด 17 นิ้ว ทุกรุ่นย่อย
นอกจากนี้ มิติตัวถังเน้นความกะทัดรัดเมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกัน โดย Nissan Kicks e-Power มีความยาว/กว้าง/สูง ที่ 4,290/1,760/1,615 มม. และระยะฐานล้อ 2,615 มม. ขณะที่คู่แข่งที่เปิดตัวได้ไม่นานอย่าง Mazda CX-30 มีมิติตัวถังที่ 4,395/1,795/1,540 และ 2,655 มม. หรือ Toyota C-HR มีมิติตัวถังที่ 4,360/1,795/1,565 และ 2,640 มม. ตามลำดับ สังเกตได้ว่าความสูงของ Kicks e-Power จะมากกว่ารถรุ่นอื่น แม้ความยาว และระยะฐานล้อจะน้อยกว่าก็ตาม
5. สเปคของมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์สำหรับป้อนกระแสไฟฟ้า
Nissan Kicks e-Power ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 4,000-8,992 รตน. แรงบิดสูงสุด 26.5 กก.-ม. ที่ 500-3,008 รตน. (ขณะที่ C-HR เครื่องยนต์ไฮบริด มีกำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 122 แรงม้า) ตัวเลขของรอบการทำงานเครื่องยนต์อาจไม่คุ้นตา เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาปทั่วไป เพราะมอเตอร์ไฟฟ้ามีรอบการทำงานที่สูง แต่มีจุดเด่น คือ แรงบิดสูงสุดที่มีช่วงการตอบสนองที่กว้างมาก และมาตั้งช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำ
ขณะที่เครื่องยนต์สำหรับสร้างกระแสไฟฟ้าป้อนสู่ชุดแบทเตอรี คือ เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร (1,198 ซีซี) กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 11.0 กก.-ม. ที่ 3,600-5,200 รตน. เป็นเครื่องยนต์รหัส HR12DE บลอคเดียวกับที่เคยใช้งานในอีโคคาร์อย่าง March , Almera (รุ่นก่อนหน้านี้) และ Note แต่ปรับปรุงให้มีการทำงานที่เหมาะสมกับการทำหน้าที่ป้อนกระแสไฟฟ้าสู่ชุดแบทเตอรี ให้มอเตอร์ขับเคลื่อนใช้งานต่อไป ดังนั้น Kicks e-Power ยังคงต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิง กับความจุถังน้ำมันที่ 41 ลิตร กับอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 23.8 กม./ลิตร
6. ออพชันเรื่องระบบความปลอดภัยมีความน่าสนใจ
แม้ราคาโดยรวมจะย่อมเยากว่าคู่แข่งระดับเดียวกันเล็กน้อย แต่ Nissan Kicks e-Power ติดตั้งระบบความปลอดภัยได้น่าสนใจ
เริ่มจากออพชันที่ติดตั้งทุกรุ่นย่อย (S , E , V และ VL) ได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ , ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน , ระบบลดอาการโคลงของตัวรถบนทางขรุขระ และระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง
ออพชันที่ติดตั้งในรุ่น E , V และ VL คือ ระบบเตือนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ , ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัจฉริยะ และระบบเตือนอาการเมื่อยล้าของผู้ขับ
ออพชันที่ติดตั้งในรุ่น V และ VL คือ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง และระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวระยะใกล้รอบรถ
ออพชันที่ติดตั้งเฉพาะรุ่นทอพ VL ได้แก่ ระบบครูสคอนทโรลแปรผันความเร็ว , ระบบเตือนจุดอับสายตาของรถที่อยู่เลนข้างๆ และระบบเตือนเมื่อมีรถแล่นมาด้านหลังขณะถอยรถ (แต่ไม่มีระบบช่วยเบรคเหมือน Mazda CX-30)
7. ห้องโดยสารสวยล้ำ กว้างขวางพอเหมาะ
การเป็นครอสส์โอเวอร์ขุมพลัง e-Power ห้องโดยสารย่อมมีความแตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป หรือแม้แต่ระบบไฮบริด การตกแต่งโดยรวมใช้วัสดุคุณภาพดี ทั้งหนังสังเคราะห์ และโทนสีดำแวววาว (ตามแต่รุ่นย่อย) ชุดคันเกียร์มีลักษณะโค้งมน สั้นกระชับ รูปแบบการเปลี่ยนเกียร์จะเหมือนกับรถพลังงานไฟฟ้าร่วมค่ายอย่าง Leaf พร้อมโหมดขับเคลื่อนได้แก่ EV Mode , S Mode และ Eco Mode แผงมาตรวัดฝั่งซ้ายเป็นแบบดิจิทอล (คล้ายกับซีดานร่วมค่ายอย่าง Almera รุ่นล่าสุด แต่ของ Kicks e-Power มีความทันสมัยมากกว่า) แสดงผลได้หลากหลาย รวมถึงรูปแบบการทำงานของระบบ e-Power เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 และแม้จะใช้งานเบาะหลัง แต่พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายก็มีความจุถึง 432 ลิตร
Nissan Kicks e-Power รูปแบบใหม่ของขุมพลังขับเคลื่อน ประเทศไทยของเรานับว่าโชคดีที่มีโอกาสใช้งานรถยนต์รุ่นนี้เป็นแห่งแรกของโลก แม้ในปัจจุบันสถานการณ์ โควิด-19 (COVID-19) ยังคงต้องเอาใจใส่ให้ดี แต่จากแนวโน้มที่เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ รวมถึงการค่อยๆ ฟื้นตัวด้านกำลังซื้อของผู้บริโภค ครอสส์โอเวอร์จาก Nissan เป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้