ทดสอบ(formula)
FORD EVEREST WILDTRAK
เดิมทีชื่อ WILDTRAK (ไวลด์ทแรค) ถูกนำมาใช้กับรถกระบะของค่าย FORD (ฟอร์ด) นั่นคือ RANGER (เรนเจอร์) บ่งบอกการเป็นตัวลุยที่ยกระดับขึ้นมาอีกขั้น ด้วยการเสริมความคมเข้มให้แก่ตัวถังภายนอก รวมถึงการตกแต่งห้องโดยสารที่แตกต่างจากรุ่นปกติ และนับเป็นครั้งแรกกับการนำชื่อนี้มาใช้กับเอสยูวีคันเก่งของค่าย กับ FORD EVEREST WILDTRAK (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไวลด์ทแรค) จะมีความแตกต่างจาก EVEREST รุ่น TITANIUM (ไททาเนียม) แค่ไหน มาดูกันเลย
EXTERIOR ภายนอก
เอสยูวีหรู เสริมมาดสปอร์ท
FORD EVEREST WILDTRAK ยังคงมีเส้นสายที่ใกล้เคียงกับรุ่นทอพเดิมอย่าง TITANIUM ภายนอกยังคงเด่นด้วยไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี ปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ ระบบป้องกันไฟแยงตา และระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ทั้งกระจังหน้าดีไซจ์นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่น WILDTRAK เช่นเดียวกับ RANGER เน้นโทนสีดำรวมถึงส่วนประกอบอื่นๆ ของตัวถัง มีมาดเข้มมากกว่าเดิมพอสมควร พร้อมตัวอักษร WILDTRAK สีดำบนฝากระโปรงหน้า หลังคา PANORAMIC MOONROOF และล้อแมกขนาด 20 นิ้ว ยาง 255/55 R20 ราวหลังคา และบันไดข้าง กระจกมองข้างปรับ และพับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว และไฟส่องสว่างข้างตัวรถ
มิติตัวถังภายนอกของ FORD EVEREST WILDTRAK ความยาว 4,914 มม. กว้าง 1,923 มม. สูง 1,842 มม. และระยะฐานล้อ 2,900 มม. ยังคงเป็นเอสยูวีสไตล์พีพีวี ที่มีตัวถังค่อนข้างใหญ่กว่าคู่แข่งในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น TOYOTA FORTUNER (โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์) มีมิติตัวถังที่ 4,795/1,855/1,835 มม. และ 2,750 มม. ตามลำดับ หรือ ISUZU MU-X (อีซูซุ มิว-เอกซ์) มีมิติตัวถังที่ 4,850/1,870/1,875 ม. และ 2,855 มม. ตามลำดับเช่นกัน
INTERIOR ภายใน
กว้างขวาง หรู ผสมสปอร์ท
FORD EVEREST WILDTRAK ติดตั้งเบาะหนัง 7 ที่นั่งสีดำ เบาะคู่หน้าปรับทิศทางด้วยไฟฟ้า เบาะนั่งแถว 2 แยก 60:40 และแถว 3 แยก 50:50 สามารถพับเก็บด้วยไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความสะดวกสำหรับการใช้งานอย่างได้ผล โดยเฉพาะการบรรทุกสัมภาระจากท้ายรถ บรรทุกสัมภาระได้ถึง 2,010 ลิตร สำหรับเบาะหน้า/หลัง และตัวยึดเบาะนั่งพิเศษสำหรับเด็กเล็กบริเวณเบาะนั่งแถว 2 และ 3 จุดที่ทำได้ดีกว่าคู่แข่ง คือ จอแสดงผลบนมาตรวัดแบบสีขนาด 12.4 นิ้ว มีขนาดใหญ่กว่าใคร และเป็นหน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว ใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียงรุ่นที่ 4 ของ FORD มีชื่อว่า SYNC 4A รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ ANDROID AUTO และ APPLE CAR PLAY นอกจากนี้ ยังมีกล้องมองภาพรอบคัน และแท่นชาร์จมือถือแบบไร้สาย ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย/ขวา และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง แถว 2 และ 3 พร้อมช่องแอร์เหนือศีรษะ ประตูท้ายรถเปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
ENGINE เครื่องยนต์
ดีเซลพละกำลังสูง ประหยัดสมตัว
FORD EVEREST WILDTRAK ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 51.0 กก.-ม. ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์ (ขณะทดสอบใช้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง) ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะแบบ E-SHIFTER มีรูปทรงของคันเกียร์ที่กระชับสั้น และใช้งานกับระบบช่วยจอดอัตโนมัติได้ดี แม้การเปลี่ยนเกียร์ในช่วงแรกอาจต้องทำความคุ้นเคยเล็กน้อย ส่วนคู่เปรียบเทียบสมรรถนะ คือ TOYOTA FORTUNER GR SPORT อีกหนึ่งเอสยูวีมาดสปอร์ท เพิ่มแรงม้ามาอีกขั้นกับเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.8 ลิตร กำลังสูงสุดถึง 224 แรงม้า
อัตราเร่งช่วงตีนต้น 0-100 กม./ชม. FORD EVEREST WILDTRAK ทำเวลาที่ 10.9 วินาที ส่วน TOYOTA FORTUNER GR SPORT คือ 10.2 วินาที ถือว่าใกล้เคียงพอสมควร แม้เอสยูวีมาดสปอร์ทของ TOYOTA จะมีพละกำลังมากกว่าพอสมควรก็ตาม แต่ทาง FORD ก็มีระบบเทอร์โบคู่มาชดเชย
ต่อกันด้วยอัตราเร่งช่วงตีนปลายกับระยะ 0-1,000 ม. FORD EVEREST WILDTRAK ทำเวลาได้ 32.8 วินาที (ที่ความเร็ว 158.5 กม./ชม.) ขณะที่ TOYOTA FORTUNER GR SPORT คือ 31.4 (ที่ความเร็ว 169.3 กม./ชม.) การใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีความจุมากกว่า อาจเป็นจุดได้เปรียบของ TOYOTA ในช่วงความเร็วปลายที่สูงกว่าทาง FORD แม้ในช่วงออกตัว และความเร็วต่ำจะไม่ต่างกันมาก แต่หากวัดกันยาวๆ แล้ว จะเห็นความแตกต่างของเอสยูวีพละกำลังสูงทั้ง 2 รุ่น
อัตราเร่งยืดหยุ่นที่ความเร็ว 60-100 และ 80-120 กม./ชม. FORD EVEREST WILDTRAK ทำเวลาได้ที่ 6.0 และ 8.0 วินาที ตามลำดับ ขณะที่ TOYOTA FORTUNER GR SPORT มีตัวเลขที่ 5.1 และ 6.3 วินาที การตอบสนองของอัตราเร่งยืดหยุ่นในช่วงความเร็วไม่สูงมาก ความแตกต่างยังไม่มากนักจากเอสยูวีทั้ง 2 รุ่น แต่พอช่วงความเร็วที่สูงขึ้น ทาง FORTUNER เริ่มทิ้งห่างมากขึ้น แม้ระบบเกียร์จะมีเพียง 6 จังหวะ แต่อาศัยความกระชับสั้นของอัตราทดเกียร์ และพละกำลังของเครื่องยนต์ อัตราเร่งจึงเริ่มทิ้งห่างอย่างที่เห็น อย่างไรก็ตาม ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะของ EVEREST มีการเปลี่ยนจังหวะที่ไหลลื่น เหมาะกับการขับทางไกล สามารถทดรอบเครื่องยนต์ได้ต่ำมาก
SUSPENSION ระบบรองรับ
หนึบแน่น ระบบช่วยเหลือมากมาย
ระบบรองรับของ FORD EVEREST WILDTRAK ให้ความรู้สึกที่หนักแน่น ราวกับเป็นเอสยูวีหรู ราคาสูงกว่า 2 ล้านบาท พวงมาลัยมีน้ำหนักที่พอเหมาะ อย่างไรก็ตาม การปรับแต่งระบบรองรับไม่ต่างจากรุ่น TITANIUM มากนัก แม้จะเปลี่ยนชื่อรุ่นย่อยเป็น WILDTRAK ก็ตาม ต่างจากคู่แข่งบางรายเช่น TOYOTA FORTUNER GR SPORT มีการปรับปรุงระบบรองรับให้มีความหนึบยิ่งขึ้น ภายใต้ชื่อตัวแรง GR SPORT อย่างไรก็ตาม การขับขี่ทั่วไปแล้ว FORD EVEREST WILDTRAK ยังคงตอบสนองได้ดี นิ่งในทางโค้ง และมั่นคงในทางตรง ผนวกกับการติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่มากมายมาให้ ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (เป็นเจ้าเดียวที่ติดตั้งมาให้ในเอสยูวีแบบพีพีวี) มีการทำงานที่ฉลาดกว่าเดิม กะระยะได้แม่นยำ เว้นระยะห่างอย่างเหมาะสมขณะทำการจอด ไม่ว่าจะเป็นการจอดแบบคู่ขนาน หรือการถอยจอดเข้าซอง รวมถึงการช่วยเคลื่อนตัวรถออกจากช่องจอดก็ทำได้เช่นกัน มีประโยชน์มากสำหรับเอสยูวีขนาดใหญ่เช่นนี้ ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ฟูลล์ไทม์ เลือกปรับรูปแบบการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ คือ NORMAL สำหรับพื้นถนนทั่วไป SAND สำหรับพื้นทราย SNOW OR MUD สำหรับพื้นหิมะ โคลน หรือทุ่งหญ้า และ ROCK CRAWL สำหรับพื้นหินขรุขระ พร้อมโหมด 4L และระบบลอคเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน ระบบวัตต์ลิงค์ ที่ช่วยให้หน้ายางตั้งฉากกับพื้นถนนเมื่อรถเข้าโค้ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ให้รถเกาะถนน และทรงตัวดี พวงมาลัยไฟฟ้า ควบคุมได้ง่าย และแม่นยำมาก ใช้ในเมือง
เอสยูวีมาดเข้ม กับงบไม่ถึง 2 ล้านบาท
FORD EVEREST WILDTRAK มีราคาที่ 1,899,000 บาท มีตัวถังที่ดูสปอร์ทกว่ารุ่น TITANIUM รวมถึงห้องโดยสารที่มีมาดคมเข้มยิ่งกว่า กับเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร 210 แรงม้า มีอัตราเร่งที่ดีสำหรับการใช้งานทั่วไป เร่งแซงได้สบาย ระบบรองรับหนึบแน่น ราวกับเอสยูวีหรูราคาสูงกว่านี้ พร้อมระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ มากมายหลายรายการเดินหน้าคู่แข่งระดับเดียวกัน ใครที่กำลังมองหาเอสยูวีที่มีความหรูหรา ออพชันที่ดี และสามารถลุยทางสมบุกสมบันได้อย่างจริงจัง กับงบประมาณที่ไม่เกิน 2 ล้านบาท FORD EVEREST WILDTRAK คันนี้ คือ หนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจมาก กับทีเด็ดที่ไม่น้อยหน้าคู่แข่งระดับเดียวกัน !