ทดสอบ
TANK 300 ULTRA เอสยูวีเรทโรสายลุย เติมเต็มกับขับ 4 ไฮบริด
TANK ผสมผสานรูปแบบ และจุดเด่นของเอสยูวีพันธุ์แกร่งเจ้าของตำนาน เอาไว้ในรถเอสยูวีทรงเหลี่ยมอย่าง TANK 300 (แทงค์ 300) ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานหน้าใหม่ ที่สามารถบ่งบอกการเป็นรถสายพันธุ์ลุยเต็มพิกัด มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด แรงบิดสูง และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ทันสมัย
EXTERIOR ภายนอก
TANK 300 คล้ายตัวลุยในตำนาน ไฟหน้าทรงกลม และขอบซุ้มล้อคู่หน้าที่ยื่นออกมา ทำให้นึกถึง JEEP WRANGLER (จีพ แรงเลอร์) ส่วนด้านข้างของตัวรถก็ทำให้คิดถึง JEEP CHEROKEE (จีพ เชอโรคี) รวมไปถึง ยางอะไหล่ ที่ติดตั้งบริเวณฝาท้ายแบบเอสยูวีสายลุย
มิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,760/1,930/1,903 มม. เทียบกับ JEEP GRAND CHEROKEE (จีพ กแรนด์ เชอโรคี) ตัวล่าสุด (4,915/1,969/1,798 มม.) FORD EVEREST (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) เจ้าตลาด (4,914/1,923/1,842 มม.) แล้ว TANK 300 จะมีสัดส่วนที่กระชับ แต่สูงกว่า และมีมุมปะทะถึง 33 องศา มุมจาก 34 องศา มุมคร่อม 23.1 องศา กับยางแบบ ALL TERRAIN ของ CONTINENTAL CROSS CONTACT (คอนทิเนนทัล ครอสส์ คอนแทคท์) ขนาด 265/65 R17 ทำให้การลุยทางสมบุกสมบัน เส้นทางหิน กลายเป็นเรื่องง่าย
INTERIOR ภายใน
ห้องโดยสารของ TANK 300 รุ่น ULTRA (อุลทรา) ซึ่งเป็นตัวทอพ มีความแตกต่างจากรูปทรงภายนอกอย่างชัดเจน มีความทันสมัย เต็มไปด้วยการใช้งาน และการแสดงผลแบบดิจิทอล จอแสดงผลหลักมีขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว มีความคมชัด แสดงผลได้หลากหลายรูปแบบ รวมทั้งขณะลุยทางสมบุกสมบัน การตกแต่งมีความหรูหรา ปุ่มควบคุม และคันเกียร์ทันสมัย
ส่วนระดับเสียงในห้องโดยสาร จากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. วัดได้ 56/59/63/65 เดซิเบล ยังป้องกันเสียงรบกวนได้ไม่เท่า FORD EVEREST (48/51/54/58 เดซิเบล) ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร
ENGINE เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ของ TANK 300 เป็นระบบไฮบริด ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร 244 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 106 แรงม้า มีแรงบิดที่สูงทั้ง 2 รูปแบบ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 9.0 วินาที อัตราเร่ง 0-400 ม. ในเวลา 16.6 วินาที ช่วงตีนปลายกับระยะ 0-1,000 ม. ทำเวลาได้ 31.9 วินาที
ส่วนอัตราเร่งยืดหยุ่นที่ 60-100 และ 80-120 กม./ชม. TANK 300 ทำอัตราเร่งได้ที่ 4.0 และ 5.2 วินาที
ทำได้ดีกว่าคู่แข่งอย่าง FORD EVEREST ที่ทำไว้ 10.9/17.8/32.8 วินาที เร่งแซง 6.0 และ 8.0 วินาที MITSUBISHI PAJERO SPORT (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท) ที่ทำไว้ 12.4/18.7/33.8 วินาที เร่งแซง 6.4 และ 8.2 วินาที และ NISSAN TERRA (นิสสัน แตร์รา) 11.6/18.2/33.5 วินาที เร่งแซง 6.0 และ 7.8 วินาที TOYOTA FORTUNER 2.8 LEGENDER (โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ 2.8 เลเจนเดอร์) ที่ทำอัตราเร่งไว้ 12.0/18.3/33.7 วินาที เร่งแซง ทำไว้ 5.8 และ 7.4 วินาที
SUSPENSION ระบบรองรับ
ส่วนการลุยทางสมบุกสมบัน การตอบสนองของเครื่องยนต์ทำได้น่าพอใจ สามารถขับเคลื่อนที่ความเร็วต่ำได้อย่างมั่นคง ไร้อาการสะดุด โหมดการขับขี่ของ TANK 300 สามารถลุยทางสมบุกสมบันได้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นถนนลื่น หรือพื้นหิน นอกจากนี้ ระบบ TANK TURN ช่วยให้วงเลี้ยวแคบกว่าปกติอย่างได้ผล โดยระบบจะทำการเบรคล้อด้านหลังฝั่งที่ด้านในของการตีโค้ง เสมือนเป็นจุดหมุนของตัวรถขณะทำการเลี้ยว เป็นระบบที่ช่วยให้การเลี้ยวในที่แคบมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เราไม่ได้วัดออกมาเป็นตัวเลข แต่สังเกตจากการทดสอบ และขับเป็นระยะทางไกล พบว่า TANK 300 มีการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่าครอสส์โอเวอร์ที่เน้นการขับขี่บนทางเรียบ เนื่องจากการเป็นรถที่เน้นการลุยทางสมบุกสมบัน ผนวกกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ตัวถังมีน้ำหนักค่อนข้างมาก และรูปทรงกล่องที่ค่อนข้างต้านลม แต่หากแลกกับพละกำลังที่ตอบสนองได้ดีในช่วงความเร็วต่ำ และการลุยทางสมบุกสมบัน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลักษณะดังกล่าวยังถือเป็นสิ่งที่พอยอมรับได้
จุดสำคัญของเอสยูวีรุ่นนี้ คือ การใช้งานขณะลุยทางสมบุกสมบัน บริเวณคอนโซลเกียร์ ทางซ้ายมือเป็นปุ่มหมุนสำหรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ต่างๆ ตามลักษณะของเส้นทางในการลุย ฝั่งขวามือเป็นปุ่มปรับโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ความเร็วต่ำ (4L) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน แต่ที่น่าสนใจ คือ TANK TURN (4L เท่านั้น) ระบบเลี้ยวในวงแคบ
ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ ดับเบิลครอสส์อาร์ม ด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ หนึบแน่น แต่ยังให้ระยะยืด/ยุบตัวได้ดีในการลุยทางสมบุกสมบัน พวงมาลัยมีน้ำหนักตามการปรับโหมด NORMAL ECO และ SPORT
ประสิทธิภาพของระบบเบรค ที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. ใช้ระยะ 16.4/28.7/46.5 ม. เทียบน้ำหนักตัวรถ และยางที่ใช้เป็นแบบ ALL TERRAIN ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ อยู่ในเกณฑ์ดี เทียบกับคู่แข่ง FORD EVEREST (17.5/32.6/50.2 ม.) MITSUBISHI PAJERO SPORT (17.0/31.0/46.7 ม.) และ NISSAN TERRA (17.5/32.6/50.2 ม.) แต่ยังไม่เท่า TOYOTA FORTUNER (16.2/28.4/44.0 ม.)
TANK 300 ตัวลุยระดับคลาสสิค มุมปะทะ และมุมจากที่ช่วยให้ผ่านอุปสรรคได้สบาย ระบบขับเคลื่อนบนทางสมบุกสมบันที่สามารถใช้งานได้จริง ห้องโดยสารที่มีความทันสมัย ทำให้การใช้งานมีความสะดวกสบาย TANK 300 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับเอสยูวียุคใหม่ มีความครบครัน และเมื่อเทียบราคา TANK 300 HEV ULTRA ที่ 1,799,000 บาท กับเจ้าตลาดอย่าง FORD EVEREST 2.0L BI-TURBO WILDTRAK 4x4 10AT ที่ 1,899,000 บาท ก็ต้องหาคำตอบว่าต้องการอะไร