ทดสอบ(formula)
PORSCHE CAYENNE E-HYBRID COUPE
ค่ายรถยนต์หรูหลายแห่งต่างก็หันมาทำตลาด เอสยูวี หลายราย ไม่เว้นแม้แต่ค่ายรถสปอร์ทก็ตาม ! หนึ่งในค่ายรถที่ทำการบุกเบิกตลาดกลุ่มนี้เป็นเจ้าแรกๆ และประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม นั่นคือ ค่ายรถสปอร์ทระดับตำนานอย่าง PORSCHE กับรุ่นใหญ่อย่าง CAYENNE เป็นทายาทลำดับที่ 3 ของสายพันธุ์ บ่งบอกว่า การเปลี่ยนแปลงแนวทางที่ยาวนานนับ 10 ปี มีความคุ้มค่าเสมอมา ภายใต้ตัวถังสไตล์ COUPE ครั้งแรกของ เอสยูวี รุ่นนี้ จะขับขี่ดีแค่ไหน เร้าใจหรือไม่ ? เรามาทดสอบกัน
EXTERIOR ภายนอก
เอสยูวี มาดสปอร์ทขนานแท้
PORSCHE CAYENNE (โพร์เช คาเยนน์) จัดเป็น เอสยูวี ระดับหรู มาดสปอร์ท รุ่นล่าสุดจัดเป็นทายาทลำดับที่ 3 แต่ถือเป็นครั้งแรกของอนุกรมที่มีทางเลือกกับตัวถังแบบ COUPE เห็นได้ชัดจากตัวถังส่วนท้ายที่มีแนวหลังคาลาดเท ดูปราดเปรียวกว่ารุ่นตัวถัง เอสยูวี ลักษณะของแนวหลังคาที่ลาดเท บางมุมดูคล้ายกับสปอร์ทร่วมค่ายอย่าง 911 CARRERA (911 คาร์เรรา) อย่างไรก็ตาม รุ่นที่เรานำมาทดสอบมีความพิเศษขึ้นมาอีกขั้น กับรุ่น PLATINUM EDITION (พแลทินัม เอดิชัน) เสริมมาดเข้มให้กับตัวรถรอบคัน ด้วยโทนสีเทาเข้มในหลายจุด เช่น ชุดตกแต่งกันชนหน้า บริเวณกันชนหลัง มือเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ กระจกมองข้างโทนสีเข้ม นอกจากนี้ โลโกของรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด นั่นคือ E-HYBRID (อี-ไฮบริด) ยังใช้สีบริเวณขอบเป็นสีเทาเข้มเช่นกัน (จากเดิมจะเป็นสีเขียวอ่อน) ล้อแมกลายพิเศษ ขนาด 20 นิ้ว ลวดลายเฉพาะสำหรับรุ่นนี้ และยังใช้สีน้ำตาลอ่อน แทนที่สีเงินโครเมียมของรุ่นย่อยอื่นๆ ถือเป็นความแตกต่างของรูปทรงภายนอกที่ทำให้ PORSCHE CAYENNE COUPE PLATINUM EDITION (โพรเช คาเยนน์ คูเป พแลทินัม เอดิชัน) มีความพิเศษกว่ารุ่นอื่นๆ และมีจำนวนจำกัด
INTERIOR ภายใน
สไตล์สปอร์ท ผสมความอเนกประสงค์
ห้องโดยสารของ PORSCHE CAYENNE COUPE (โพร์เช คาเยนน์ คูเป) ผสมผสานระหว่างส่วนหน้าของห้องโดยสารที่มีเอกลักษณ์ของ PORSCHE ในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดแบบดิจิทอล โดยการแสดงผลหลักจะมีรูปทรงหน้าจอแบบทรงกลมซ้อนหลายวง แต่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้หลากหลาย และแสดงผลข้อมูลการขับขี่ หรือระบบเนวิเกเตอร์ได้เช่นกัน ส่วนบริเวณคอนโซลเกียร์มีพื้นผิวลักษณะเป็นแผ่นเรียบมันแวววาว ติดตั้งปุ่มใช้งานหลากหลายรูปแบบ เป็นระบบกึ่งสัมผัส นั่นคือ พื้นผิวแบบเรียบ แต่ต้องอาศัยแรงกดลงไปเล็กน้อยขณะใช้งาน แม้เป็นรูปแบบการใช้งานที่มีความทันสมัย แต่พื้นผิวดำแวววาวอาจต้องอาศัยการเช็ดทำความสะอาดค่อนข้างบ่อย ส่วนพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน เอกลักษณ์อีกประการของ PORSCHE ติดตั้งปุ่มปรับโหมดการขับขี่ทรงกลมที่ด้านในของพวงมาลัย ใช้งานได้รวดเร็วทันสมัย (เหมาะสำหรับคนที่ชอบขับขี่แบบเน้นสมรรถนะ) อีกจุดหนึ่งที่ยังคงถูกรักษาเอาไว้ คือ นาฬิกาแบบแอนาลอก ติดตั้งด้านบนของคอนโซลกลาง บ่งบอกระดับความหรูหราของ PORSCHE ได้เป็นอย่างดี ส่วนการตกแต่งโดยรวมมีคุณภาพการประกอบที่ดีมาก พนักพิงศีรษะของตัวเบาะมีลายนูนต่ำเป็นโลโกของค่ายรถสปอร์ทแห่งนี้ ห้องโดยสารมีความโปร่งโล่งด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค เบาะด้านหลังกว้างขวาง แม้ส่วนหลังคาจะมีลักษณะลาดเทลงมาตามสไตล์รุ่น CAYENNE COUPE แต่พื้นที่เหนือศีรษะยังมีเหลือพอสมควร (แม้จะไม่มากเท่ารุ่นตัวถัง เอสยูวี ก็ตาม) ที่เก็บสัมภาระท้ายอาจเสียเนื้อที่เล็กน้อยจากส่วนท้ายที่ลาดเท แต่การพับเบาะแถวที่ 2 ได้แบบ 40:20:40 ทำให้ความอเนกประสงค์ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ สมกับการเป็นสายพันธุ์ตัวลุย อาจต้องระมัดระวังเล็กน้อยสำหรับคนที่ต้องการเก็บสัมภาระทรงสูงบริเวณท้ายรถ แต่การขนสัมภาระทำได้สะดวก เนื่องจากระบบรองรับแบบถุงลมสามารถปรับความสูงได้ โดยจะลดความสูงลงมาหากต้องการ (รวมถึงตามแต่โหมดการขับขี่)
ENGINE เครื่องยนต์
ตัวแรง เสริมพลังไฟฟ้า
เครื่องยนต์ของ PORSCHE CAYENNE COUPE รุ่นนี้เป็นรหัส E-HYBRID นั่นคือ รูปแบบขุมพลัง พลัก-อิน ไฮบริด กับการส่งกำลังร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 340 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 136 แรงม้า คิดเป็นกำลังสูงสุดทั้งระบบถึง 462 แรงม้า นับว่ามหาศาลตามสไตล์รถยนต์ที่มีความสปอร์ทในตัว ส่วนคู่เปรียบเทียบสมรรถนะ เรานำรถยนต์ร่วมค่าย แต่ต่างสไตล์กัน ใช้เครื่องยนต์ พลัก-อิน ไฮบริดร่วมกัน นั่นคือ PORSCHE PANAMERA E-HYBRID SPORT TURISMO (โพร์เช พานาเมรา อี-ไฮบริด สปอร์ท ตูริสโม) สเตชันแวกอนที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่ารุ่นซีดานอย่างชัดเจน กำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 462 แรงม้า เช่นกัน แต่จะมีสมรรถนะเทียบเคียง เอสยูวี มาดสปอร์ทได้หรือไม่ ? มาพิสูจน์กันเลย
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. CAYENNE COUPE ทำเวลาที่ 5.8 วินาที ขณะที่ PANAMERA SPORT TURISMO คือ 5.6 วินาที รถยนต์อเนกประสงค์ทั้ง 2 รูปแบบ มีอัตราเร่งตีนต้นที่ฉับไวไม่แพ้กัน เรามีความรู้สึกว่าการส่งกำลังหลักยังเป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมซุ่มเสียงที่เร้าใจ ไม่เสียทีการเป็นรถยนต์จากค่ายรถสปอร์ทขนานแท้
อัตราเร่ง 0-1,000 ม. รถยนต์สไตล์ เอสยูวี มาดสปอร์ท ทำเวลาที่ 26.8 วินาที (ที่ความเร็ว 206.8 กม./ชม.) ส่วนสเตชันแวกอนปราดเปรียว ทำเวลาที่ 27.0 วินาที (ที่ความเร็ว 210.2 กม./ชม.) จัดเป็นรถยนต์ร่วมค่ายที่ไม่น้อยหน้าเรื่องอัตราเร่ง ! โดยในช่วงตีนปลายการไต่ความเร็วอาจมีอาการแผ่วเล็กน้อย แต่เครื่องยนต์สันดาปยังแผดเสียงได้อย่างต่อเนื่อง ผนวกกับระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ของ PORSCHE ที่ติดตั้งเข้ามาทำให้ส่งกำลังได้อย่างแม่นยำ ช่วงแรกที่ออกตัวให้ความรู้สึกกระแทกกระทั้นพอสมควร ราวกับรถยนต์สมรรถนะสูงขนานแท้ การส่งกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าทำได้นานเกินคาดจนถึงช่วงความเร็วสูง
อัตราเร่งยืดหยุ่นที่ความเร็ว 60-100 และ 80-120 กม./ชม. CAYENNE COUPE ทำเวลาที่ 3.2 และ 5.1 วินาที ตามลำดับ ขณะที่ PANAMERA SPORT TURISMO ทำเวลาได้ที่ 3.8 และ 5.8 วินาที บ่งบอกว่าการตอบสนองของคันเร่งของตัวถัง เอสยูวี ถูกปรับแต่งมาอย่างลงตัว ระบบไฟฟ้าที่เสริมกำลังอย่างได้ผล มีอัตราเร่งยืดหยุ่นเสมือนการเร่งแซงที่รวดเร็ว แม้ตัวถังจะมีขนาดใหญ่กว่าสเตชันแวกอนอย่าง PANAMERA SPORT TURISMO ก็ตาม
นอกจากนี้ปัจจัยสำคัญ คือ ความสามารถในการชาร์จกระแสไฟฟ้าจากภายนอกได้ตามแบบฉบับรถยนต์ พลัก-อิน ไฮบริด โดยทาง CAYENNE COUPE รหัส E-HYBRID มีความจุแบทเตอรีที่ 35.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จไฟฟ้าแบบกระแสสลับ (AC) ส่วน PANAMERA SPORT TURISMO รหัส E-HYBRID เช่นกัน มีความจุของแบทเตอรีที่ 37.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง หากแบทเตอรีเต็ม ระบบขับเคลื่อนสามารถใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเน้นสมรรถนะเต็มที่ หรือสามารถแล่นด้วยไฟฟ้าล้วนเพื่อการประหยัดเชื้อเพลิงชั่วขณะหนึ่งเช่นกัน
SUSPENSION ระบบรองรับ
หนึบพอเหมาะ ยังมีความนุ่มนวล
ระบบรองรับของ PORSCHE CAYENNE COUPE ถูกปรับแต่งมาอย่างพอเหมาะ มีความหนึบแน่นตามสไตล์รถยนต์สายพันธุ์สปอร์ท แต่เน้นการตอบสนองที่หลากหลาย ด้วยระบบรองรับแบบถุงลม นอกจากจะปรับความสูงได้แล้ว ยังสามารถแปรผันการตอบสนองได้อีกด้วย โดยเฉพาะโหมด SPORT ระบบจะลดความสูงลงมา แต่มีความหนึบแน่นเพิ่มขึ้น ส่วนโหมด NORMAL ความสูงเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมกับระบบรองรับที่ตอบสนองได้นุ่มนวลขึ้น แต่น้ำหนักของพวงมาลัยยังมีค่อนข้างมาก ตอบสนองแม่นยำแทบทุกโหมดการขับขี่ จุดที่น่าพอใจ คือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา 1 ในจุดเด่นของ PORSCHE สามารถแปรผันการทำงานได้ดี ไม่ว่าจะเป็นทางฝุ่น หรือทางเรียบบนถนน ตัวรถสามารถข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ขับสนุกในแง่ของการเป็น เอสยูวี ขนาดใหญ่ แต่อาจไม่ถึงขั้นรถสปอร์ทขนานแท้ร่วมค่าย
ร่างบึกบึน เส้นสายหล่อเหลา
PORSCHE CAYENNE COUPE จัดเป็นรถยนต์ที่รวมจุดเด่นเอาไว้ในตัวหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อชั้นของการเป็นค่ายรถหรูระดับตำนาน เส้นสายของตัวรถที่มีทั้งความบึกบึน และความสปอร์ทปราดเปรียวในเวลาเดียวกัน สมรรถนะที่ดุดัน ซุ่มเสียงเร้าใจ ห้องโดยสารกว้างขวาง การใช้งานแบบดิจิทอลตามสมัยนิยม และยังมีความพิเศษอีกระดับกับรุ่นพิเศษ PLATINUM EDITION ตกแต่งให้มีมาดเข้ม และเสริมอุปกรณ์ใช้งานที่คุ้มค่าเกินราคา คุณจะมองรถยนต์คันนี้เป็นของน่าสะสม ผลิตจำนวนจำกัดก็ไม่ผิดอะไร แต่อยากจะบอกว่า นี่คือ ของสะสมที่ไม่ควรจดอยู่กับที่ แต่มีความอเนกประสงค์ ใช้งานทั่วไปได้ดีเช่นกัน นับเป็นคุณสมบัติที่หากันไม่ได้ง่ายๆ !