ทดสอบ
MG HS
MG HS (เอมจี เอชเอส) ครอสส์โอเวอร์รุ่นใหญ่บแรนด์คลาสสิค ที่ไม่เพียงสร้างความนิยมกับขุมกำลังเบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร ยังทำให้ไฮบริดเสียบปลั๊กดูจะเป็นสิ่งที่ไม่ไกลเกินไปอีกต่อไปแล้ว MG HS PHEV (เอมจี เอชเอส พีเอชอีวี) ที่เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 122 แรงม้า ลงไปบนเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบ TGI ความจุ 1.5 ลิตร 162 แรงม้า ให้กำลังสูงสุดรวม 284 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ
EXTERIOR ภายนอก
MG HS รุ่นใหม่ที่มาทำตลาดในกลุ่มซี-เซกเมนท์ ช่วงปลายปีที่แล้ว ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีคันนี้ได้รับการกล่าวถึงอยู่ตลอด ทั้งจากรูปลักษณ์ภายนอก และห้องโดยสารที่โดนใจ รวมถึงเครื่องยนต์เบนซินบลอคเล็กติดเทอร์โบ และระบบความปลอดภัย กับระบบช่วยเหลือการขับขี่ ที่ให้มาแบบจัดเต็ม กับราคาที่น่าคบ โดยแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย เริ่มจาก C (ซี), D (ดี) และรุ่นทอพ X (เอกซ์)
MG HS ผสมผสานความหรูหรากับความสปอร์ทเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เส้นสายตัวถังเน้นความโค้งมน กระจังหน้าดีไซจ์นมีเอกลักษณ์ ไฟหน้า LED PROJECTOR พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน และไฟท้ายแบบ LED โดยใช้ไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้า/หลัง ที่แสดงผลเรียงลำดับ (SEQUENTIAL)
MG HS มีขนาดตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,574/1,876/1,664 มม. ฐานล้อ 2,720 มม. เปรียบเทียบกับคู่แข่ง HONDA CR-V (ฮอนดา ซีอาร์-วี) MAZDA CX-5 (มาซดา ซีเอกซ์-5) และ SUBARU FORESTER (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์) แล้ว MG HS อวบกว่า
MG HS PHEV เป็นรถเอสยูวีที่ผสานเครื่องยนต์เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า ในรูปแบบของพลัก-อิน ไฮบริด ซึ่งกำลังเป็นทเรนด์ของรถในยุคสมัยนี้ และเป็นอีกตัวเลือกของ MG HS ในกลุ่มครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีที่ทั้งจากรูปลักษณ์ภายนอก และห้องโดยสารที่โดนใจ ไม่ต่างจากรุ่นเครื่องยนต์เบน ซินบลอคเล็กติดเทอร์โบ และระบบความปลอดภัย กับระบบช่วยเหลือการขับขี่ ที่ให้มาแบบจัดเต็ม กับราคาที่น่าคบ
MG HS PHEV คงความหรูหรากับเส้นสายโค้งมน กระจังหน้าดีไซจ์นมีเอกลักษณ์ ไฟหน้า LED PROJECTOR พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน และไฟท้ายแบบ LED
MG HS PHEV มีขนาดตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,574/1,876/1,664 มม. ฐานล้อ 2,720 มม. เท่ากับ MG HS เทียบกับคู่แข่งอย่าง MITSUBISHI OUT LANDER PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) ที่มีขนาด 4,695/ 1,800/1,710 มม. ก็จะสั้น และต่ำกว่า แต่อวบกว่า และใหญ่กว่า HONDA CR-V และ MAZDA CX-5 นิดหน่อย
INTERIOR ภายใน
ภายในห้องโดยสารเน้นความโค้งมน บริเวณคอนโซลหน้า และแผงข้างประตู ใช้วัสดุที่ให้สัมผัสนุ่ม (SOFT TOUCH) ในรุ่น X เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ทปรับไฟฟ้าสีดำ (ตัวรถสีดำ เทาดำ และแดง) ส่วนเบาะหลังนั่งสบาย พับแบบ 60:40 พนักพิงปรับองศาได้ และใช้ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบปรับโทนแสงได้มากถึง 64 เฉดสี (INTERACTIVE AMBIENT LIGHT) หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (PANORAMIC SUNROOF) ขนาดใหญ่ยักษ์ มีพื้นที่ถึง 1.1 ตรม.
สิ่งอำนวยความสะดวกติดตั้งมาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลที่มีมาตรวัดขนาด 12 นิ้ว แสดงข้อมูลทั้งเรื่องการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง พร้อมหน้าจอหลักแบบทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ I-SMART และกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกโซน พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ฝาท้ายเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า และเสริมความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัย 6 จุด
ผลการวัดระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสารของ MG HS ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. มีตัวเลขเพียง 62 เดซิเบล จัดว่าเงียบ และดีกว่าคู่แข่ง HONDA CR-V และ MAZDA CX-5
ภายในห้องโดยสารเน้นความโค้งมน บริเวณคอนโซลหน้า และแผงข้างประตู ใช้วัสดุที่ให้สัมผัสนุ่ม (SOFT TOUCH) ในรุ่น X เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ทปรับไฟฟ้าสีขาวสลับน้ำเงิน (MONACO BLUE) ส่วนเบาะหลังนั่งสบาย พับแบบ 60:40 พนักพิงปรับองศาได้ และใช้ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบปรับโทนแสงได้มากถึง 64 เฉดสี (INTERACTIVE AMBIENT LIGHT) หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (PANORAMIC SUNROOF) ขนาดใหญ่ยักษ์ มีพื้นที่ถึง 1.1 ตรม.
สิ่งอำนวยความสะดวกติดตั้งมาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลที่มีมาตรวัดขนาด 7 นิ้ว แสดงข้อมูลทั้งเรื่องการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง พร้อมหน้าจอหลักแบบทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ I-SMART และกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกโซน พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ฝาท้ายเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า และเสริมความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัย 6 จุด
ผลการทดสอบระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสารของ MG HS PHEV ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. มีตัวเลขเพียง 62 เดซิเบล จัดว่าเงียบ ดีกว่า MITSUBISHI OUTLANDER PHEV รถในกลุ่มพลัก-อิน ไฮบริด และเงียบกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียวอย่าง HONDA CR-V และ MAZDA CX-5
ENGINE เครื่องยนต์
ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรง ม้า แรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. แบบฟแลททอร์ค ที่ 1,700-4,400 รตน. รองรับแกสโซฮอล อี 85 ส่งกำลังด้วยเกียร์ TST (TWIN CLUTCH SPORTRONIC TRANSMISSION) แบบ 7 จังหวะ มีโหมดการขับขี่ให้เลือก ได้แก่ NORMAL, ECO, SPORT, CUSTOM และยังมีปุ่ม SUPER SPORT บนพวงมาลัย ซึ่งเป็นโหมดที่ให้ความสนุกสนานในการขับ ขี่สูงสุด
ผลทดสอบด้วยดาทรอน อัตราเร่งช่วงต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. ความเร็วปลาย 0-1,000 ม. MG HS ทำได้ 10.6/17.9/32.4 วินาที ใกล้เคียง HONDA CR-V 2.4 EL (ฮอนดา ซีอาร์-วี 2.4 อีแอล) (11.0/18.1/ 32.2) ดีกว่า SUBARU FORESTER (12.8/19.1/34.1)
ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ความเร็ว 60/80/100/120 กม./ชม. MG HS อยู่ที่ 23.8/19.2/14.7/11.0 กม./ลิตร แม้ไม่ประหยัดเท่ากับเครื่อง ยนต์ดีเซล เทอร์โบ ใน MAZDA CX-5 ที่ทำได้ 30.1/24.5/18.6/14.5 กม./ลิตร และ HONDA CR-V ที่ทำได้ 25.3/20.5/17.4/13.9 กม./ลิตร
ขุมพลัง MG HS PHEV มีกำลังสูงสุดรวม 284 แรงม้า โดยแบ่งเป็นกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบ TGI ความจุ 1.5 ลิตร 162 แรงม้า ที่ 5,500 รตน. แรงบิด 25.0 กก.-ม. ที่ 1,700-4,300 รตน. ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 122 แรงม้า แรงบิด 23.0 กก.-ม. ถ่าย ทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ EDU ควบคุมด้วยไฟฟ้า ช่วยให้จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ทำได้ฉับไว และนุ่มนวล ในโหมดขับขี่สามารถเลือกปรับได้หลายโหมด เช่น EV, ECO, NORMAL, SPORT และ SU PER SPORT เหมือนเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร
ผลทดสอบด้วยดาทรอน อัตราเร่งช่วงต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. ความเร็วปลาย 0-1,000 ม. MG HS PHEV ทำได้ 9.8/17.1/30.2 วินาที ซึ่งดีกว่า MG HS เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ติดเทอร์โบ ที่ทำไว้ 10.6/17.9/ 32.4 วินาที ดีกว่า MITSUBISHI OUTLANDER PHEV ทำได้ภายในเวลา 9.9/17.5/31.2 วินาที แต่ช้ากว่า HAVAL H6 HEV ที่ทำได้ 9.3/16.6/30.6 วินาที เล็กน้อย
SUSPENSION ระบบรองรับ
ระบบรองรับที่พัฒนาตามแบบ EURO TUNING SUSPENSION ได้รับการปรับตั้งให้เหมาะสมกับทุกสภาวะ การยึดเกาะถนนอย่างมีประสิทธิ ภาพแม้เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ซึมซาบแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนได้ดี พวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันมีน้ำหนักเหมาะสม
จากผลทดสอบเบรค ที่ความเร็ว 60/80/100-0 กม./ชม. MG HS ทำได้ 15.0/27.1/41.8 อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย ใกล้เคียงกับ HONDA CR-V, MAZDA CX-5 และ SUBARU FORESTER
นอกจากนี้ MG ยังเสริมความปลอดภัยให้ MG HS ด้วยระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ (FCW) ระบบควบคุมความ เร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน (LDP) ระบบช่วยควบ คุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
ระบบรองรับที่พัฒนาตามแบบ EURO TUNING SUSPENSION ได้รับการปรับตั้งให้เหมาะสมกับทุกสภาวะ การยึดเกาะมีประสิทธิภาพแม้เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ซึมซาบแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนได้ดี พวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันมีน้ำหนักเหมาะสม
จากผลทดสอบเบรค ที่ความเร็ว 60/80/100-0 กม./ชม. MG HS PHEV ทำได้ 14.8/26.4/40.5 ม. ดีกว่า MG HS ทำไว้ 15.0/27.1/41.8 ม. HAVAL H6 HEV ที่ทำได้ 15.3/26.7/40.7 ม. และคู่แข่ง MITSUBISHI OUTLANDER PHEV ที่ทำไว้ 16.4/29.1/45.6 ม. โดยอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย ใกล้เคียงกับ HONDA CR-V และ MAZDA CX-5
นอกจากนี้ MG ยังคงเน้นระบบความปลอดภัยให้ MG HS PHEV ด้วยระ บบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ (FCW) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน (LDP) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
MG HS
MG HS ก็ถือว่าเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานในครอบครัว ระบบความปลอดภัยเพียบ ผสมผสานความเป็นยุโรป และเอเชียได้อย่างลงตัว บวกกับราคา 1,159,000 บาท ในรุ่นทอพ X กับสิ่งที่ให้ ทำให้มันเอาชนะคู่แข่งที่มีราคาแพงกว่าได้อย่างสบายๆ หรือจะเริ่มที่รุ่น C ราคา 939,000 บาท ก็ใช้งานได้แล้ว เพิ่มฟังค์ชันฝาท้ายไฟฟ้าในรุ่น D กับราคา 1,089,000 บาท
MG HS PHEV
MG HS PHEV ก็ถือว่าเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานในครอบครัว ระบบความปลอดภัยเพียบ ผสมผสานความเป็นยุโรป และเอเชีย ได้อย่างลงตัว บวกกับราคารุ่น D 1,299,000 บาท รุ่น X ราคา 1,379,000 บาท ถูกสุดในกลุ่ม PHEV โดยถูกกว่าคู่แข่ง MITSUBISHI OUTLANDER PHEV ที่มีราคาเริ่มต้น 1,640,000 บาท ในรุ่น GT (จีที) แต่แพงกว่า HEV จากจีนอย่าง HAVAL H6 ที่มีราคาเริ่มต้น 1,149,000 บาท ในรุ่น PRO (โพร)