BYD Seagull รถไฟฟ้าหน้าหล่อขนาดกะทัดรัด เผยโฉมให้เห็นแล้วในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ที่เป็นหนึ่งในรถตระกูล Ocean Series โดยนำชื่อของสัตว์ทะเลมาใช้ โดยวางตำแหน่งตัวเองอยู่ต่ำกว่า BYD Dolphin และ Atto 3 ทั้งด้านขนาดมิติตัวถัง และราคาจำหน่าย โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าที่อยากทดลองใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรก
BYD Seagull เป็นรถแฮทช์แบค 5 ประตู ขนาดกะทัดรัด ใช้โครงสร้างพแลทฟอร์มที่ออกแบบสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ e-Platform 3.0 มีความยาวตัวรถ 3,780 มม. กว้าง 1,715 มม. สูง 1,540 มม. ความยาวฐานล้อจากหน้าถึงหลัง 2,500 มม. เมื่อเปรียบเทียบกับ BYD Dolphin ตัวรถจะสั้นกว่า 345 มม. เเคบกว่า 55 มม. และเตี้ยกว่า 30 มม. จึงคล่องแคล่วกว่า เหมาะกับการใช้งานในเมืองที่มีขนาดที่จอดรถจำกัด
การออกแบบดูสวยงามลงตัว ไฟหน้ารูปทรงลิ่ม กระจกบังลม ถูกออกแบบให้ใช้ที่ปัดน้ำฝนอันเดียว ด้านหลังเสา B มีการออกแบบที่ทำให้กระจกหลังเล็กลง เพิ่มความเป็นรถครอสส์โอเวอร์ด้วยการหุ้มซุ้มล้อสีเทา และล้อแมก แบบรถครอสส์โอเวอร์ มือจับประตูออกแบบให้แนบสนิทกับตัวถัง
ดีไซจ์นโคมไฟท้ายทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมแถบไฟเชื่อมต่อไฟท้ายทั้ง 2 ข้าง แบบเต็มความกว้าง สปอยเลอร์หลังคามาพร้อมไฟเบรค
ภายในห้องโดยสารของ BYD Seagull มีความคล้ายคลึงกับ BYD Dolphin และ Seal พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน แผงหน้าปัดเป็นจอแสดงผลขนาดเล็ก แต่มีช่องแอร์ทรงกลมซึ่งแตกต่างออกไป
ระบบขับเคลื่อนของ Seagull คาดการณ์ว่าใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบซิงเกิลสปีด กำลังสูงสุดผลิตได้ประมาณ 75 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุด 130 กม./ชม. แบทเตอรีมีความจุ 30.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง
แบทเตอรีเป็นแบบลิเธียม-ไอออน สามารถวิ่งได้ระยะทาง 400 กม. โดยปกติแล้ว ชุดแบทเตอรีโซเดียม-ไอออน จะไม่มีส่วนประกอบของลิเธียม โคบอลต์ ทองแดง ซึ่งเป็นโลหะ ที่ใช้ผลิตแบทเตอรี ที่มีราคาแพง และเริ่มหายากขึ้น เซลล์แบทเตอรีโซเดียม-ไอออนรุ่นแรก มีความหนาแน่นของพลังงานสูงถึง 160 Wh/kg
ราคาจำหน่ายของ BYD Seagull ในประเทศจีน อยู่ที่ 78,800-95,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3.95-4.8 แสนบาท หากนำเข้ามาจำหน่ายจริงๆ ราคาอาจใกล้เคียงประเทศจีนได้