ทดลองขับ(formula)
รีวิว+ทดลองขับ Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic (ราคา 2,320,000 บาท) ปรับเปลี่ยนหลายจุดเกินคาด !

ซีดานมาดสปอร์ท
Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic ยังคงมีรูปทรงโดยรวมใกล้เคียงกับรุ่นก่อนปรับโฉม แต่เมื่อสังเกตดีๆ แล้วมีการปรับปรุงในหลายส่วนให้มีความลงตัวยิ่งขึ้น เริ่มจากด้านหน้า ชุดไฟหน้ารูปทรงเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนการจัดวางของชุดไฟแอลอีดี ให้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น กระจังหน้ารูปทรงเดิมเช่นกัน แต่เปลี่ยนรูปแบบการสะท้อนแสงเป็นแบบ ดาว 3 แฉก นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนรูปทรงของกันชนหน้าให้ดูโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม คล้ายกับอนุกรมรถยนต์ไฟฟ้าของค่าย รหัส EQ
รายละเอียดอื่นๆ ที่สังเกตได้ คือ รูปทรงของฝากระโปรงหน้ามีการเพิ่มสันเหลี่ยมตรงกลาง มีชื่อเรียกว่า “Power Dome” ปกติจะเป็นรูปแบบที่เห็นได้ในรถสปอร์ทของค่ายเท่านั้น (รุ่นก่อนปรับโฉมเป็นฝากระโปรงทรงเรียบ) ล้อแมกมีขนาด 18 นิ้ว ลายเดิม แต่เปลี่ยนสีทูโทนเป็นแบบสีเงิน และสีดำ (รุ่นก่อนปรับโฉมเป็นแบบสีเงิน และสีเทาเข้ม) ส่วนยางของ Continental EcoContact 6 ส่วนท้ายรถมีการปรับปรุงเล็กน้อย ไฟท้ายทรงเดิม แต่เปลี่ยนการจัดวางไฟแอลอีดีใหม่ และเปลี่ยนรูปทรงของด้านล่างกันชนท้าย
อุปกรณ์ใช้งานภายนอกที่เพิ่มเข้ามา
นอกจากรูปทรงภายนอกโดยรวมแล้ว มีอุปกรณ์ใช้งานที่เพิ่มเข้ามา คือ หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค (ติดตั้งเข้ามาเป็นครั้งแรก) ช่วยเพิ่มความหรูหราให้แก่ซีดานรุ่นเล็กคันนี้อย่างได้ผล นอกจากนี้ ยังติดตั้งฝากระโปรงหลังแบบเปิดด้วยระบบ Hand Free เพียงมีกุญแจอยู่ใกล้ตัวผู้ใช้งาน และกวาดเท้าให้ตรงกับจุดเซนเซอร์ ประตูบานท้ายจะปลดสลักออก และเปิดขึ้นได้เองด้วยระบบสปริงในตัว แต่การปิดยังต้องใช้มือเหมือนประตูบานท้ายทั่วไป
ห้องโดยสารเรียบหรู อัพเกรด MBUX7
เมื่อเข้ามานั่งห้องโดยสาร การตกแต่งโดยรวมของ Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic ยังใกล้เคียงกับรุ่นก่อนปรับโฉม แต่ปรับเปลี่ยนในเรื่องการใช้งานบางส่วน เราสังเกตว่า แป้นควบคุมการทำงานของจอแสดงผลหลักไม่มีอีกต่อไปในรุ่นปรับโฉมนี้ ทางผู้ผลิตระบุว่า ซีดานรุ่นนี้อัพเกรดมาใช้ระบบ MBUX7 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุด มีการทำงานกับระบบ AI (สามารถเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานรถของผู้ขับได้) ช่วยให้การใช้งานมีความหลากหลายยิ่งขึ้น รวมถึงการสั่งงานด้วยเสียงที่ครอบคลุมหลายภาษา และใช้ประโยคคำพูดแบบธรรมดา ดังนี้แล้ว การใช้งานระบบต่างๆ สามารถทำได้ผ่านการสั่งงานด้วยเสียง และการหน้าจอระบบสัมผัส ทำให้แป้นควบคุมแบบเดิมไม่จำเป็นต้องมีอีกต่อไป นอกจากนี้ ยังรองรับการเชื่อมต่อระบบ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สายเป็นครั้งแรก ช่วยให้การเชื่อมต่อสะดวกขึ้น (แต่อาจต้องระวังการกินแบทเตอรีของมือถือมากยิ่งขึ้น)
สิ่งที่น่าพอใจสำหรับ A200 รุ่นปรับโฉม คือ การหันมาใช้พวงมาลัยทรงสปอร์ท ก้านพวงมาลัยจะเป็นสีดำแวววาว มีรูปทรงที่เรียวบาง สามารถมองเห็นจอแผงหน้าปัดได้ง่าย แม้การใช้งานระบบสัมผัสอาจต้องใช้ความคุ้นเคยในระยะแรก เมื่อสังเกตเพิ่มเติม เราพบว่าประตูฝั่งผู้โดยสารข้างผู้ขับมีการเมมระบบหน่วยความจำตำแหน่งเบาะมาให้ด้วย (รุ่นก่อนปรับโฉมมีติดตั้งเฉาะฝั่งผู้ขับเท่านั้น) ส่วนเบาะด้านแถวที่ 2 มีการเพิ่มช่องแอร์ด้านหลังมาให้ด้วย (ติดตั้งเข้ามาเป็นครั้งแรก) ช่วยเรื่องความสะดวกสบายได้ดีมากสำหรับเมืองร้อนอย่างบ้านเรา ส่วนพนักพิงหลังของเบาะแถวที่ 2 สามารถพับเก็บได้ แต่ต้องใช้สลักที่อยู่บริเวณด้านในของที่เก็บสัมภาระท้ายเท่านั้น หากเป็นไปได้น่าจะทำสลักปลดลอคจากด้านในห้องโดยสารด้วย
ทดลองขับแล้ว ช่วงล่างนุ่มนวล ขับสบาย
เมื่อเราได้ลองขับรถยนต์รุ่นนี้ พบว่าระบบรองรับ และการบังคับเลี้ยวยังคงให้ความรู้สึกที่เบาแรง แต่มีความมั่นคงที่ความเร็วสูง หรือขณะใช้อัตราเร่ง การเข้าโค้งมีอาการโคลงเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ส่วนหนึ่งมาจากการใช้ระบบรองรับแบบ Lowered Comfort นั่นคือ การปรับแต่งระบบรองรับให้ลดความสูงลงมาเล็กน้อย แต่ยังมีคุณสมบัติด้านความนุ่มนวล และความหนึบที่เหมาะสม การขับขี่โดยรวมจึงรองรับได้สบายในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ขณะขับขี่เรามีความรู้สึกว่า เสียงของยางค่อนข้างชัดเจน ส่วนหนึ่งมาจากยางที่เน้นการประหยัดเชื้อเพลิง หากเป็นไปได้ การหันมาใช้ยางแบบนุ่มเงียบน่าจะมีความเหมาะสมเช่นกัน
ส่วนสมรรถนะโดยรวมมาจากขุมพลังแบบเบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.3 ลิตร 4 สูบเรียง กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 25.5 ก.-ม. ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ อัตราเร่งโดยรวมมีความทันใจ เร่งแซงแบบหายห่วง ในกรณีที่กดคันเร่งลึกทันที ระบบของเครื่องยนต์อาจมีช่วงดีเลย์เล็กน้อย ผนวกกับการใช้เวลาเปลี่ยนจังหวะเกียร์ลงมา แต่หลังจากนั้นพละกำลังก็ปลดปล่อยออกมามากพอ มีอัตราเร่งที่ไหลลื่น เหมาะสมกับตัวรถ ส่วนการประหยัดเชื้อเพลิงมีระบบตัดการทำงานของลูกสูบเมื่อใช้โหมด Eco และยกคันเร่งจนรถค่อยๆ ไหลด้วยแรงเฉื่อย ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงบางส่วนขณะชะลอความเร็ว
สรุปเบื้องต้นกับ Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic
แม้เป็นซีดานรุ่นเล็กของค่าย แต่ Mercedes-Benz A200 ก็มีคุณสมบัติหลายประการที่ได้รับต่อเนื่องจากรุ่นใหญ่กว่า ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งตัวถังบางส่วน เพิ่มความโฉบเฉี่ยวอย่างได้ผล หรูหรากว่าเดิมด้วยการติดตั้งหลังคาซันรูฟพาโนรามิค (และเป็นครั้งแรกของรถยนต์รุ่นนี้) การใช้งานที่หลากหลายขึ้นของระบบ MBUX7 ส่วนการขับขี่โดดเด่นด้วยความสะดวกสบาย สมรรถนะเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปได้ดี แม้จะเหลือเพียงรุ่นย่อยเดียว คือ AMG Dynamic กับราคาที่ 2,320,000 บาท แต่เชื่อว่าจะโดนใจลูกค้าส่วนใหญ่อย่างแน่นอน


