Ford หวนคืนสนาม ฟอร์มูลา วัน

New York ประเทศสหรัฐอเมริกา-Ford ประกาศลงสนาม ฟอร์มูลา วัน อีกครั้งหลังจากห่างหายไปกว่า 2 ทศวรรษ โดยจับมือเป็นพันธมิตรระยะยาวกับ Red Bull Powertrains พัฒนาเครื่องยนต์ไฮบริด เจเนอเรชันใหม่เพื่อลงสนามแข่ง ฟอร์มูลา วัน ในฤดูกาลปี 2026 เป็นต้นไป ทีม Red Bull Ford จะพัฒนาเครื่องยนต์ให้แก่ทีม Oracle Red Bull Racing และทีม Scuderia Alphatauri ตั้งแต่ปี 2026-2030 เป็นอย่างน้อย บิล ฟอร์ด ประธานบริหาร Ford Motor Company กล่าวว่า นี่คือ ตำนานบทใหม่ของ Ford ในประวัติศาสตร์วงการมอเตอร์สปอร์ทที่ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ทวดของผมได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาหลังจากชนะการประลองความเร็ว Ford ได้ร่วมกับทีมแชมพ์โลกอย่าง Oracle Red Bull Racing เพื่อกลับสู่จุดสูงสุดของวงการ โดยนำนวัตกรรมของ Ford ความยั่งยืน และระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นจุดแข็งของ Ford มาอย่างยาวนานกลับสู่สนามแข่งที่คนให้ความสนใจมากที่สุดเวทีหนึ่งในโลก นับตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป Ford และ Red Bull Powertrains จะร่วมกันพัฒนาเครื่องยนต์ตามกฎระเบียบใหม่ ซึ่งประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 350 กิโลวัตต์ และเครื่องยนต์สันดาปแบบใหม่ที่รองรับเชื้อเพลิงทางเลือก พร้อมลงสนามในฤดูกาล 2026 จิม ฟาร์ลีย์ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ford Motor Company กล่าวว่า การที่ Ford จับมือกับทีม Red Bull Racing กลับมาลงสนาม ฟอร์มูลา วัน ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของบริษัทที่มุ่งเน้นการนำเสนอรถยนต์ ประสบ การณ์ด้านยานยนต์ไฟฟ้า และ Software ที่ทันสมัย ฟอร์มูลา วัน จะเป็น Platform ที่คุ้มค่าในการพัฒนานวัตกรรม แบ่งปันแนวคิด เทคโนโลยี และช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าใหม่อีกกว่า 10 ล้านราย Ford จะมอบความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคทุกด้านที่จะเป็นประโยชน์ต่อทีมแข่งที่มีศักยภาพในการแข่งขันชิงแชมพ์โลก โดยจะร่วมกันพัฒนาเครื่องยนต์สันดาป เทคโนโลยีเซลล์แบทเตอรี มอเตอร์ไฟฟ้า Software ควบคุมเครื่องยนต์ และการวิเคราะห์ คริสเตียน ฮอร์นเนอร์ หัวหน้าทีม และ CEO ของ Oracle Red Bull Racing กล่าวว่า การร่วมมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีในการต้อนรับ Ford กลับสู่สนาม ฟอร์มูลา วัน ในฐานะผู้ผลิตเครื่องยนต์อิสระ การได้ความรู้ความเชี่ยวชาญจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Ford โดยตรง ทำให้เราได้เปรียบคู่แข่ง Ford อยู่ในประวัติศาสตร์วงการมอเตอร์สปอร์ทมายาวนานหลายชัวอายุคน ตั้งแต่ จิม คลาร์ก ไปจนถึง ไอร์ตัน เซนนา และไม เคิล ชูมัคเกอร์ การที่ Red Bull Powertrains จะเปิดประวัติศาสตร์บทใหม่กับ Ford ในนาม Red Bull Ford จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างมาก ปี 2026 อาจดูเหมือนยังอีกไกล แต่งานของเราได้เริ่มขึ้นแล้ว และเราพร้อมสร้างอนาคตใหม่ให้ทีม Oracle Red Bull Racing ทั้งนี้ Ford ลงทุนกว่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.65 ล้านล้านบาท เพื่อปฏิวัติวงการรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก โดยปัจจุบันเป็นบริษัทที่มียอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในสหรัฐอเมริกา จากความสำเร็จของรถกระบะ F-150 Lightning และรถ Ford Mustang Mach-E นอกจากนี้ รถ Ford E-Transit ยังเป็นผู้นำตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในหลายประเทศทั่วโลก Ford พร้อมตอบสนองความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และมีเป้าหมายที่จะส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ปีละ 600,000 คันทั่วโลก ภายในสิ้นปีนี้ และปีละ 2 ล้านคันทั่วโลก ภายในปี 2026 ตามนโยบาย Ford+ นอกจากนี้ ในปี 2026 Ford จะเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียวที่มีรถเข้าร่วมการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ทตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึง ฟอร์มูลา วัน ประกอบด้วยสนาม WEC และ IMSA รวมถึงการส่ง Mustang GT3 ลงสนามแข่งขัน Le Mans 24 Hours รถ Ford M-Sport Puma Hybrid Rally 1 ลงสนาม WRC รถ Ranger Raptor และ Bronco ลงสนาม Baja 1000 และ Ford Mustang ลงสนาม Nascar NHRA และ Supercars โดย Ford จะใช้ความรู้ และประสบการณ์จากการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ทมาช่วยเร่งการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี และ Software ให้แก่ผู้บริโภค พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตร ณ จุดสูงสุดของวงการมอเตอร์สปอร์ทเพื่อส่งเสริมการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าของ Ford ต่อไป “Ford Performance กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้น” ฟาร์ลีย์ กล่าว “เรามุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะในสนาม ฟอร์มูลา วัน ซึ่งเป็นสุดยอดสนามมอเตอร์สปอร์ทร่วมกับทีม Red Bull Racing คุณจะได้เห็นรถ Sport Coupe ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกอย่าง Mustang ลงแข่งในสนามเริ่มต้นไปจนถึงสนามแข่ง Supercar ของ Australia สนาม Nascar Le Mans และ Ford จะสานต่อการเป็นผู้นำด้านการแข่งขันบนเส้นทางทางออฟโรด ทั้งในการแข่งขัน World Rally Championship, King of Hammers และ Baja 1000 และอีกหลายสนาม และเราจะสร้างความตื่นเต้นต่อเนื่องด้วยรถโชว์สุดเท่อย่าง Super Van 4 และ Mustang Mach-E 1400”