ธุรกิจ
Honda เดินหน้าลดการปล่อยแกส CO2 ให้เป็น 0
Honda กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจตามเป้าหมาย Honda ปี พศ. 2593 (Honda Target 2050) ภายใต้ 2 ทิศทางหลัก ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม และด้านความปลอดภัย โดยภายในปี พศ. 2593 มุ่งมั่นที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์และกิจกรรมต่างๆ ของ Honda มีปริมาณการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์เป็น 0 เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่สังคมปลอดมลพิษ (Carbon Neutrality) รวมถึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุ และลดการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ Honda ทั่วโลกให้เป็น 0 (Zero Traffic Collision Fatalities) ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันขณะที่ทั่วโลกเกิดความเปลี่ยนแปลงทางด้านสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติ และภูมิอากาศ ทำให้ทุกภาคส่วนต้องตระหนัก และมีการปรับตัว สำหรับ Honda เรามุ่งมั่นรักษาสมดุลในการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องในทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อสร้างสรรค์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป
โนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)ฯ ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลสภาพแวดล้อมอย่างสมดุล เราให้ความสำคัญตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ วิจัย พัฒนา การผลิต ครอบคลุมถึงการขาย และบริการ โดยเน้น 3 ด้าน ได้แก่ ลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็น 0 ใช้พลังงานสะอาด และการหมุนเวียนทรัพยากรเพื่อใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งยังมีการนำเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในกระบวนการผลิต รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และยังคงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างเทคโนโลยีการขับเคลื่อน E:HEV ระบบฟูลล์ไฮบริดประสิทธิภาพสูงที่มอบสมรรถนะการขับขี่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน และมีอัตราการปล่อยมลพิษที่ต่ำ โดยติดตั้งอยู่ในยนตรกรรมหลากหลายรุ่น อาทิ Honda HR-V E:HEV ใหม่ และ Honda Civic E:HEV ใหม่ โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda Sensing ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยป้องกัน และลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุในท้องถนน โดย Honda จะยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง”
ที่โรงงานผลิตรถยนต์ Honda ทั้งที่ จ. ปราจีนบุรี และ จ. พระนครศรีอยุธยา ในทุกขั้นตอนมีการเปลี่ยนทรัพยากรธรรรมชาติ และนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีการดำเนินงานบางส่วน ได้แก่ เปลี่ยน…แสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานที่ยั่งยืน
Honda ได้มีการติดตั้งโซลาร์ รูฟทอพ บนหลังคาทั้งที่โรงงาน Honda อยุธยา และปราจีนบุรีในเฟส 1 รวม 5 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงงาน Honda อยุธยาติดตั้ง 2.5 เมกะวัตต์ และโรงงาน Honda ปราจีนบุรีติดตั้ง 2.5 เมกะวัตต์ เพื่อนำกระแสไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานสะอาดไปใช้ในกระบวนการผลิต รวมถึงใช้เป็นไฟส่องสว่างในช่วงกลางคืนแทนการใช้พลังงานไฟฟ้า สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 7,862 ตัน/ปี หรือเทียบ เท่าการปลูกต้นไม้ถึง 875,539 หรือคิดเป็นการปลูกต้นไม้มากกว่า 8,800 ไร่ (ข้อมูลอ้างอิงปี พศ. 2564) และมีแผนขยายการติดตั้งในเฟส 2 ให้ครอบคลุมการใช้ไฟฟ้าทั้ง 2 โรงงาน ภายในปี 2566 โดยแบ่งเป็นโรงงาน Honda อยุธยา ติดตั้ง 8.6 เมกะวัตต์ และโรงงาน Honda ปราจีนบุรี ติดตั้ง 3.8 เมกะวัตต์ รวมการติดตั้งทั้ง 2 เฟส กว่า 17 เมกะวัตต์
เปลี่ยน…น้ำให้มีคุณค่าไม่สิ้นสุด
โรงงานผลิตรถยนต์ Honda ทั้ง 2 โรงงาน มีระบบบำบัดน้ำเสียที่ทันสมัย เพื่อให้น้ำที่ผ่านการบำบัดมีคุณภาพ พร้อมหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่เพื่อประโยชน์สูงสุด อาทิ การนำน้ำที่บำบัดได้คุณภาพแล้วมาใช้รดน้ำต้นไม้ในโรงงาน และอีกส่วนหนึ่งนำไปผลิตน้ำ RO (RO Recycle Water) เพื่อใช้ในกระบวนการหล่อเย็นเครื่องจักร (Cooling Tower) นอกจากนี้ ยังมีการนำพลังงานน้ำมาช่วยในการขับเคลื่อนระบบสายพานลำเลียงชิ้นส่วน (Water Conveyor) ในสายการผลิต ซึ่งช่วยลดแรงงานคนในการขับเคลื่อนเครื่องจักร โดยน้ำที่ถูกปล่อยจากโรงงาน Honda จะเป็นน้ำดีที่ผ่านการบำบัดแล้ว ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน
เปลี่ยน…อนาคตให้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี
โรงงาน Honda มีพนักงานในสายการผลิตที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และปฏิบัติงานภายใต้มาตรฐานอันเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยอย่างสูงสุด โดยได้นำเอาเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมาใช้ ทำให้การผลิตมีความรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูง อาทิ สายงานการพ่นสี Painting Line ใช้เทคโนโลยี Waterborne Paint ซึ่งใช้น้ำเป็นตัวทำละลายแทนการใช้ทินเนอร์ และใช้กระบวนการเคลือบสี 3 ชั้น อบสีให้แห้ง 2 ครั้ง ช่วยเพิ่มประ สิทธิภาพการพ่นสี ลดการปล่อยสารระเหยที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และช่วยประหยัดพลังงาน สายงานการฉีดขึ้นรูปพลาสติค Polymer Injection ใช้เครื่องฉีดขึ้นรูป มีการใช้ระบบ Eco-Servo Pump ช่วยลดพลังงานไฟฟ้า และมีความแม่นยำในการฉีดขึ้นรูปชิ้นงานสายงานการควบคุมการรับ-ส่งชิ้นส่วน Material Service Line มีการใช้ระบบ Digital Picking System ลำเลียงชิ้นส่วนสู่สายการผลิตอย่างรวดเร็วแม่นยำ สายงานการประ กอบรถยนต์ Assembly Line & Arc Line มีการนำแนวคิดการทำงานแบบ Kaizen มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้พนักงาน 1 คน สามารถประกอบได้หลายขั้นตอน ประหยัดเวลา ลดการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่าในสายงานประกอบรถยนต์ สายงานการผลิตเครื่องยนต์ Engine Plant ยังมีระบบ Automated Guided Vehicles ช่วยลำเลียงเครื่องยนต์สำเร็จรูปสู่สายการประกอบอย่างรวดเร็ว
และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากหลายสิ่งที่ Honda ได้ลงมือทำ เพื่อดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงมุ่งมั่นในการลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีการใช้พลังงานสะอาด และหมุนเวียนการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด พร้อมยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพราะ Honda เชื่อว่า อนาคต คือ การเริ่มต้นทำทุกสิ่งในวันนี้ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท เพื่อสิ่งที่ดีกว่าในวันข้างหน้าด้วยกัน และยั่งยืนตลอดไป
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/412955