Japanese BEV รุ่นใหม่ๆ เตรียมขายในบ้านเรา จะมีบ้างไหม !?

รถยนต์ไฟฟ้า หรือที่เรียกกันว่า BEV กำลังได้รับความสนใจในบ้านเราอย่างกว้างขวาง จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ หรือ มาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ ทั้งอัตราภาษีพิเศษ และส่วนลดของสรรพสามิตของรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถผลิตในประเทศได้ในอนาคตอันใกล้ โดยมีค่ายรถจากประเทศจีนเปิดตัวกับราคาพิเศษดังกล่าวไปแล้ว นั่นคือ GWM (หรือ Great Wall Motor) กับรุ่น Ora Good Cat และ MG กับรุ่น ZS EV รุ่นปรับโฉมล่าสุด และ EP ราคาใหม่   บางคนอาจเกิดคำถามขึ้นมาว่า “แล้วจะมีรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ๆ จากค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่นบ้างไหม ?” เพราะต้องยอมรับว่าตลาดรถยนต์ของบ้านเรามีความคุ้นเคยกับค่ายรถญี่ปุ่นเป็นอย่างดี ทำตลาดกันมาช้านาน แต่กับกระแสรถยนต์ไฟฟ้า BEV ค่ายรถจากแดนอาทิตย์อุทัยดูจะยัง “สงวนท่าที” ซะงั้น มาดูกันว่าแต่ละค่ายเขามีทีเด็ดอะไรบ้าง และมีโอกาสมาทำตลาดในบ้านเรามากน้อยแค่ไหน !?   Honda e:NP1 หนึ่งในค่ายรถที่มีจุดเด่นเรื่องรถยนต์นั่ง และครอสส์โอเวอร์ มียอดจำหน่ายในระดับหัวแถวของบ้านเราเสมอมา ในแง่ของรถยนต์ไฟฟ้า มีการเปิดตัว Honda E มาหลายปีแล้ว กับแฮทช์แบคขนาดเล็ก ผสมความย้อนยุค แต่รุ่นที่น่าสนใจในปัจจุบัน คือ Honda e:NP1 ครอสส์โอเวอร์ที่ใช้รูปทรงส่วนใหญ่กับ HR-V แต่รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้มีห้องโดยสารที่ล้ำสมัยกว่า สเปคเบื้องต้น คือ มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 201 แรงม้า แบทเตอรีความจุ 68.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง เพิ่งเปิดตัวทำตลาดในประเทศจีน โอกาสทำตลาดในบ้านเรา: เป็นไปได้น้อย เพราะตอนนี้ Honda ดูจะเน้นการเปิดตัวกับขุมพลังไฮบริด e:HEV ก่อน การจะข้ามขั้นมาเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแทบไม่มีวี่แวว แผนงานด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราอาจต้องใช้เวลาอีก 3-4 ปีเป็นอย่างเร็ว อีกทั้งแผนงานการทำตลาดทั่วโลกของ e:NP1 ยังไม่มีข่าวคราวจากทางผู้ผลิตแต่อย่างใด   Mazda MX-30 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของค่าย Mazda กับ MX-30 นำมาโชว์ตัวในบ้านเราไม่นานมานี้ กับรูปทรงที่สวยลงตัวในสไตล์ครอสส์โอเวอร์ แต่มีจุดสังเกต คือ ระยะทำการสูงสุดเมื่อชาร์จแบทเตอรีเต็ม ทำได้ที่ 200 กม. เท่านั้น ส่วนหนึ่งเพราะการใช้แบทเตอรีขนาดเล็ก และถูกพัฒนาเพื่อเน้นการใช้งานในตัวเมืองเป็นหลัก โดยในประเทศญี่ปุ่น MX-30 จะถูกวางเครื่องยนต์ไฮบริดแบบ Range Extended แทน นั่นคือ มีเครื่องยนต์เบนซินสำหรับทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าให้มอเตอร์ โอกาสทำตลาดในบ้านเรา: ไม่มา รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ถูกระบุจากทางผู้ผลิตในบ้านเราแล้วว่า Mazda MX-30 “ยังไม่ทำตลาดในบ้านเรา” อาจจะด้วยความพร้อมของการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว ผนวกกับสเปคที่ไม่เหมาะกับการใช้งานในประเทศไทย (ที่มีการใช้งานทางไกลด้วย) แต่นำมาจัดแสดงเพื่อให้เห็นว่า Mazda ก็มีรถยนต์ไฟฟ้าประจำการอยู่ด้วย ทิศทางการทำตลาดของบ้านเรา น่าจะมุ่งเน้นที่ขุมพลังพลัก-อิน ไฮบริด มากกว่า   Mitsubishi Airtrek EV อีกหนึ่งค่ายสัญชาติญี่ปุ่นที่มีการเปิดตัวรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริด หรือ PHEV มาแล้วในบ้านเรา กับ Mitsubishi Outlander แต่หากในแง่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ต้องข้ามไปยังประเทศจีน กับ Airtrek EV ครอสส์โอเวอร์ขนาดตัวเหมาะสม แต่เส้นสายตามแบบฉบับของค่ายรถ “สามเพชร” ทุกประการ แบทเตอรีความจุ 69.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทำการสูงสุด 520 กม. มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 181 แรงม้า แต่การทำตลาดจริงจะเริ่มในปีหน้า โอกาสทำตลาดในบ้านเรา: ยังไม่มี ค่าย Mitsubishi ในบ้านเรายังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า หรือต้องมองย้อนกลับไปหลายปีก่อน กับรถยนต์ขนาดเล็กชื่อ i-MIEV ปัจจุบันยังคงเน้นทำตลาดกับรถยนต์สายลุยอย่าง กระบะ และเอสยูวี มีเพียง Outlander PHEV (รุ่นเก่าในตลาดโลก) ที่มีความใกล้เคียงที่สุด   Nissan Ariya ค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่นที่ทำตลาดกับรถยนต์ไฟฟ้ามาแล้ว นั่นคือ Nissan Leaf แต่การตั้งราคาที่สูงลิบ (เกือบ 2 ล้านบาทตอนเปิดตัว) ทำให้ความนิยมอยู่ในวงจำกัด นอกจากนี้ Leaf ก็เปิดตัวมาหลายปีแล้ว หากจะยังทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยรุ่นใหม่ๆ ความเป็นไปได้น่าจะเป็น Ariya ครอสส์โอเวอร์สไตล์เอสยูวีขนาดใหญ่ รูปทรงสุดล้ำ มอเตอร์ขับเคลื่อนมีกำลังสูงสุดที่หลากหลาย ตั้งแต่ 218-394 แรงม้า พร้อมรุ่นย่อยที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาแบบใหม่ มีชื่อว่า e-4orce โอกาสทำตลาดในบ้านเรา: ยังมีความเป็นไปได้ แต่..จะเป็นการนำเข้าคล้ายกับ Leaf ดังนั้น ต้องทำใจล่วงหน้าว่า Ariya อาจจะไม่มีราคาที่ย่อมเยาอย่างที่หลายคนคาดหวัง เพราะไม่ได้สิทธิ์ของการประกอบในประเทศ เพื่ออัตราภาษีพิเศษ และเงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าจากภาครัฐ แต่ตัวถังที่ใหญ่โตแบบครอสส์โอเวอร์น่าจะเสริมภาพลักษณ์ของค่าย Nissan ในบ้านเราได้ดี   Subaru Solterra ค่ายรถที่มีจุดเด่นเรื่องระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา แต่เพื่ออนาคตของรถยนต์ไฟฟ้า ต้องยอมวางเครื่องยนต์แบบสูบเรียง Boxer เอาไว้ และแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Subaru Solterra คือ อนาคตใหม่ของค่าย ภายใต้รูปทรงของครอสส์โอเวอร์ที่เน้นสันเหลี่ยมบึกบึน สเปคเบื้องต้น คือ มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 2 ตัว กำลังสูงสุดทั้งระบบ 215 แรงม้า แบทเตอรีความจุ 71.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทำการสูงสุด 460 กม. พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา (ทุกรุ่นย่อย) และมี X-Mode เหมือนรถยนต์ของ Subaru หลายรุ่น ทำให้มีประสิทธิภาพของการส่งกำลังที่หลากหลาย ทั้งทางเรียบ และทางลุยปานกลาง โอกาสทำตลาดในบ้านเรา: ยังพอมี ค่าย Subaru ของบ้านเราอิงความเคลื่อนไหวจากทาง Motor Image ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวรถสปอร์ทคูเป BRZ ไปหมาดๆ และเน้นรถยนต์ในสไตล์ครอสส์โอเวอร์ เข้าทางกับตัวถังของ Solterra ที่อาจจะถูกนพเข้ามาทำตลาดในอนาคตอันใกล้ หากราคาอยู่ในระดับไม่เกิน 1 ล้านบาทปลายๆ โอกาสที่จะได้รับความสนใจในบ้านเราน่าจะยังพอมี   Toyota bZ4X ค่าย Toyota ดูจะเป็นเจ้าเดียวที่เผยให้เห็นแผนงานการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ชัดเจนที่สุด โดยมี bZ4X เป็นหัวหอกในการทำตลาดทั่วโลก “รวมถึงบ้านเรา” ! กับการโชว์ไปแล้วก่อนหน้านี้ในงาน Motor Show 2022 แม้จะเป็นรถต้นแบบก็ตาม แต่คันจริงจะมีสเปคตามนี้ คือ กำลังสูงสุด 201-214 แรงม้า มีทางเลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า และ 4 ล้อตลอดเวลา ระยะทำการสูงสุดที่ประมาณ 403 กม. แน่นอนว่า นี่คือ ครอสส์โอเวอร์พลังงานไฟฟ้าที่ถูกพัฒนาร่วมกับ Subaru Solterra แต่ทาง bZ4X จะมีรูปทรงด้านหน้าที่เรียบง่ายกว่าเล็กน้อย โอกาสทำตลาดในบ้านเรา: มาแน่นอน ทาง Toyota เผยออกมาแล้วว่า bZ4X จะถูกเปิดตัวเพื่อทำตลาดในบ้านเราภายในปีนี้ นับเป็นความเคลื่อนไหวของหนึ่งในค่ายรถที่รับความนิยมในระดับหัวแถวของบ้านเรามาเป็นเวลาหลายปี และถูกจับตามองว่า จะมีความเคลื่อนไหวของรถยนต์ไฟฟ้ามากน้อยแค่ไหน bZ4X จึงเป็นการตอกย้ำว่า ค่ายรถแห่งนี้พร้อมก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าเสมอ อย่างไรก็ตาม หากเป็นการนำเข้า ราคาอาจแตะระดับเกือบ 2 ล้านบาทก็เป็นได้ หากคาดหวังให้ bZ4X มีราคาย่อมเยากว่านี้ คงต้องลุ้นให้มีการประกอบในประเทศ !