ระเบียงรถใหม่
New Mercedes GLC 2023

หลังการรีแบรนด์อย่างเป็นทางการของ "Daimler AG" สู่ "Mercedes-Benz Group AG" ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 Mercedes-Benz ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดยานยนต์หรูด้วยยอดขายมากกว่า 2 ล้านคัน ในปี 2564 กลุ่มผลิตภัณฑ์เอสยูวีจำนวนมากหมายความว่า รถยนต์ประเภทนี้คิดเป็น 49 % ของ Mercedes-Benz ทั้งหมดที่จำหน่ายทั่วโลกในปี 2564
Mercedes-Benz GLC เป็นรถยนต์ Crossover Utility Vehicle (CUV) ที่สร้างยอดขายให้แก่ Mercedes-Benz อย่างมาก นับตั้งแต่เปิดตัวในตลาดโลก จนบัดนี้เป็นเวลา 7 ปี ตอนนี้ทาง Mercedes-Benz ได้เตรียมเปิดตัว New Mercedes-Benz GLC เจเนอเรชันที่ 2 หลังจากมีภาพแอบถ่าย Spyshot ออกมาเป็นระยะ และในตอนนี้ Mercedes-Benz ได้ส่งรถยนต์ GLC ที่ปกปิดด้วยลายพรางที่น้อยลงให้แก่สื่อมวลชนในยุโรปได้ทดสอบ และรีวิวกันแล้ว (ภาพจาก autoexpress.co.uk)
New Mercedes-Benz GLC แม้จะถูกพรางแต่ก็เห็นรูปร่างหน้าตาได้ค่อนข้างชัดเจน มีความคล้ายกับ New C-Class ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้า นำมาขยายตัวรถให้เป็นเอสยูวี พร้อมกระจังหน้า Diamond Radiator Grille ตราสัญลักษณ์รูปดาวถูกวางไว้ตรงกลาง ไฟหน้า LED กันชนหน้าออกแบบใหม่
ภายในคาดว่าจะถูกยกชุดงานดีไซจ์นแผงคอนโซลหน้า และแผงประตูมาจาก Mercedes-Benz C-Class ใหม่ มาตรวัดดิจิทอลขนาด 12.3 นิ้ว คอนโซลกลางหน้า/หลัง ติดตั้งจอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ OLED ขนาด 12 นิ้ว ระบบควบคุมการทำงาน MBUX เบาะหนังแท้ และไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Lights
ขุมพลังก็คาดว่าใช้ร่วมกับ C-Class เครื่องยนต์เบนซิน Plug-in Hybrid 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบอินเตอร์คูเลอร์ กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 6,100 รตน. แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-4,000 รตน. ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 129 แรงม้า
เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งระบบ ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ความจุ 25.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนระยะทางสูงสุด 100 กม. (มาตรฐาน WLTP) สามารถชาร์จไฟได้เต็มใน 30 นาที วิ่งไกลสุดได้ 100 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง และทำความเร็วได้สูงสุด 140 กม./ชม. ในโหมดใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน
ส่วนเครื่องดีเซล เทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมระบบ Mild Hybrid 48 โวลท์ เสริมกำลังด้วย EQ Boost ที่เพิ่มกำลังได้ถึง 20 แรงม้า ในระยะเวลาสั้น โดยให้กำลังมากถึง 200 แรงม้า ที่ 4,200 รตน. แรงบิด 440 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รตน. และเกียร์อัตโนมัติ แบบ 9G-Tronic มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 4 ล้อ (4MATIC) และขับเคลื่อนล้อหลัง
The New GLC ถูกสร้างขึ้นบนโครงสร้างวิศวกรรม Platform ใหม่ MRA2 ( Modular Rear Architecture) เช่นเดียวกับ C-Class รุ่นล่าสุด แต่ถูกพัฒนาให้มีน้ำหนักเบาขึ้น การบังคับควบคุมที่เฉียบคมมากขึ้น โดยมีขนาดตัวถังยาวกว่ารถรุ่นก่อน แต่มีการออกแบบที่ดูสปอร์ท และคล่องตัวกว่า เพื่อลดกระแสลมที่ไหลผ่านตัวถัง และค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศให้ต่ำสุด โดยมีพื้นที่วางขาด้านหลังที่มากขึ้น
ในโหมด Sport จะมีความนิ่งมากกว่าเมื่อก่อน เข้าโค้งได้ราบเรียบ และรู้สึกควบคุมได้ดีกว่ารถรุ่นปัจจุบัน ระบบเลี้ยว 4 ล้อ อัตโนมัติ เพื่อช่วยเพิ่มความคล่องแคล่ว ล้อหลังสามารถหมุนได้ถึง 4.5 องศา ที่ความเร็วสูง เพื่อความมั่นคง ในการเลี้ยวโค้ง มีการตอบสนองที่เฉียบคมยิ่งขึ้น วงเลี้ยวที่ลดลงเหลือเพียง 10.8 ม. และมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ การเชื่อมตัวถังแบบ Aluminum to Steel Welding
Mercedes-Benz GLC เจเนอเรชันใหม่นี้ จะเปิดตัวภายในปี 2022 นี้ ส่วนเมืองไทยอาจพบกันในปี 2023

บทความแนะนำ

