ระเบียงรถใหม่
Polestar เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 3 รุ่น ภายในปี 2024

Polestar ปัจจุบันมีวางจำหน่ายแล้ว 2 รุ่น คือ Polestar 1 และ 2 โดยมีแผนที่จะเปิดตัวรถไฟฟ้าอีก 3 รุ่น ภายในปี 2024 โดยวางเป้าหมายว่าจะสร้างยอดขายเพิ่มเป็น 2 เท่า ในอีก 2 ปีข้างหน้า จากยอดขายปัจจุบัน 29,000 คัน ในปีนี้ และเพิ่มเป็น 290,000 คันทั่วโลก ภายในปี 2568
รถที่จะเปิดตัวถัดไปคือ Polestar 3 ซึ่งเป็นเอสยูวีไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ Thomas Ingenlath ซีอีโอของ Polestar กล่าวว่า Polestar 3 จะมีขนาดใกล้เคียงกับ Porsche Cayenne (โพร์เช คาเยนน์) โดยคาดว่ามีราคาเริ่มต้นที่ 75,000 ยูโร ซึ่งเป็นรถรุ่นเรือธง เอสยูวีพลังไฟฟ้า ที่จะคล้ายกับ Volvo XC90 (โวลโว เอกซ์ซี 90) เจเนอเรชันถัดไป และจะแชร์พแลทฟอร์ม SPA2 ร่วมกัน แต่สไตล์จะต่างกัน โดยเฉพาะการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ที่รถไฟฟ้าจะได้เปรียบมากกว่า มีพละกำลังที่มากกว่า แต่จะมีราคาสูงกว่า และมีเป้าหมายที่จะเข้าแข่งขันกับเอสยูวีระดับพรีเมียมอย่าง Porsche Cayenne
ตามมาด้วย Polestar 4 ซึ่งเป็นเอสยูวีขนาดเล็กกว่า และมีความสปอร์ทมากกว่า Polestar 3 จะมีแนวหลังคาลาดลงสไตล์คูเปเอสยูวี โดยจะเป็นรุ่นเอสยูวีของ Polestar 2 และจะดึงดูดตลาดด้วยราคาที่ถูกกว่า โดยเริ่มต้นราคาที่ 45,000 ยูโร
Polestar 4 จะมีขนาดใกล้เคียงกับ Porsche Macan (โพร์เช มาคัน) และเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Tesla Model Y (เทสลา โมเดล วาย) โดย Polestar 4 จะเป็น Polestar ตัวแรก ที่ใช้สถาปัตยกรรมพแลทฟอร์มใหม่ที่เรียกว่า PMA ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 402 แรงม้า จาก Polestar 2
Polestar 5 จะมีกำหนดเปิดตัวในปี 2024 เป็นรถซีดานที่มีขนาดใกล้เคียงกับ Teala Model S (เทสลา โมเดล เอส) และ Porsche Taycan (โพร์เช ไทย์คาน) โดยใช้พแลทฟอร์ม SPA2 ร่วมกับ Volvo Series 90 ในเจเนอเรชันถัดไป
Thomas Ingenlath กล่าวว่า เราต้องการให้แบรนด์ Polestar เป็นแบรนด์ที่ราคาไม่แพง คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ สำหรับปัจจุบันรถ Polestar ทำตลาดใน 14 ประเทศ ใน 3 ทวีป โดยจะขยายการวางจำหน่ายไปยัง 30 ประเทศ ภายในปี 2024
Polestar บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้ Volvo และ Geely เตรียมเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วยวิธี SPAC ย่อมาจาก Special Purpose Acquisition Companies ซึ่งเป็นบริษัทที่ระดมทุนเงินจากตลาดหลักทรัพย์ เพื่อที่จะควบรวมกิจการ หรือลงทุนบางส่วนในบริษัทเป้าหมาย และตัว SPAC อาจใช้เวลาในการหาบริษัทเป้าหมายตามที่ได้แจ้งกับนักลงทุนไว้ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาราวๆ 1-2 ปี ถ้าหากกรณีที่ไม่เจอบริษัทเป้าหมายที่จะควบรวมกิจการ หรือลงทุน เงินทั้งหมดที่ระดมทุนมาก็จะคืนให้กับนักลงทุนบวกกับดอกเบี้ย
โดยคาดว่าหลังจากดีลเสร็จสิ้น จะทำให้บริษัทมีมูลค่าราว 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และหลังจากปิดดีลแล้ว บริษัทใหม่จะใช้ชื่อว่า Polestar Automotive Holding UK Limited 

