ธุรกิจ
Royal Enfield เปิดตัว Classic 350
Royal Enfield (รอยัล เอนฟีลด์) เป็นสัญลักษณ์ของความยืดหยุ่น การมีอายุยืนยาวอย่างมีเป้าประสงค์ และความเป็นของแท้ มาตั้งแต่ปี 1901 โดยได้สืบสานมรดกของการสร้างรถจักรยานยนต์แนวคลาสสิคที่เรียบง่าย และกลมกลืน ผสมผสานงานฝีมือแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่รถจักรยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบ ในโอกาสฉลองครบรอบปีที่ 120 นี้ Royal Enfield ได้คิดค้น และสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่เป็นสัญลักษณ์ของตัวเองในมุมใหม่ นั่นคือ รุ่น Classic ด้วยการเปิดตัว All-New Royal Enfield Classic 350 (รอยัล เอนฟีลด์ คลาสสิค 350) ใหม่ ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์คลาสสิคเหนือกาลเวลา ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาพร้อมมุมมองใหม่ เพื่อตอบสนองแรงบันดาลใจยุคใหม่ ความงามล้ำเลิศ และความมั่นใจของรถรุ่น Classic ซึ่งบัดนี้ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอีกขั้น เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล แม่นยำ และสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
All-New Royal Enfield Classic 350 สร้างตำนานบทใหม่ให้แก่ Royal Enfield ในการสร้างรถจักรยานยนต์ตามแบบฉบับของอังกฤษยุคหลังสงคราม ซึ่งเป็นที่รักของผู้ที่ชื่นชอบจักรยานยนต์ทั่วโลก มรดกตกทอดของรุ่น Classic นี้มีความเป็นมาย้อนไปถึงปี 1948 ที่รถจักรยานยนต์สุดล้ำในเวลานั้นอย่าง Royal Enfield Model G2 (รอยัล เอนฟีลด์ โมเดล จี 2) เป็นรุ่นแรกที่มีระบบกันสะเทือนหลังแบบสวิงอาร์มในรถจักรยานยนต์ที่ผลิตเต็มรูปแบบ ซึ่งทั้งสวยงาม และมีสมรรถนะที่เชื่อถือได้ Model G2 จึงเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบอันแรงกล้าสำหรับ Classic 500 และ Classic 350 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเปิดตัวในปี 2008 ปรัชญาการออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย หากแต่ดูสง่างาม พร้อมรายละเอียดต่างๆ ที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานกับการสื่อถึงลีลาท่าทางที่ออกแนวขึงขัง และเป็นผู้สั่งการ แต่กลับขับขี่ได้สะดวกสบาย และวางใจได้ด้วยเครื่องยนต์ UCE ทำให้ขึ้นแท่นเป็นจักรยานยนต์ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่จักรยานยนต์เป็นกิจกรรมยามว่าง
นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่น Classic นี้ได้กลายเป็นรถจักรยานยนต์ที่ให้นิยามใหม่แก่รถจักรยานยนต์รุ่นมิดเดิลเวท และก่อให้เกิดการฟื้นคืนชีพของ Royal Enfield โดยเริ่มก้าวเป็นผู้นำระดับโลกในเซกเมนท์นี้ ในอีก 12 ปีต่อมา และหลังจากจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 3 ล้านคัน รุ่น Classic ได้สร้างตำนวนที่เป็นของตัวเอง และ Classic 350 ใหม่ ก็พร้อมแล้วที่จะสานต่อตำนานบทนี้ไปข้างหน้า
สิทธัตถะ ลาล กรรมการผู้จัดการ ไอเชอร์ มอเตอร์ส กล่าวถึงตำนานที่ยังสืบสานมาถึงปัจจุบันของรุ่น Classic และให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดตัว Royal Enfield Classic 350 ใหม่ ว่า “Classic 350 ซึ่งเปิดตัวในปี 2008 ในครั้งนั้นนับเป็นรถจักรยานยนต์ที่ทันสมัย และมีขีดความสามารถที่เป็นสัญลักษณ์ของรถสไตล์หลังสงครามที่ไร้กาลเวลา จากยุครุ่งเรืองของอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ของอังกฤษ เป็นภาษาการออกแบบที่น่าดึงดูดใจ และความเรียบง่าย ควบคู่ไปกับความน่าเชื่อถือ ผลักดันให้ Classic เป็นที่นิยมไปทั่วโลก และได้สร้างนิยามใหม่ของเซกเมนท์รถจักรยานยนต์รุ่นมิดเดิลเวท (250-750 ซีซี) อีกด้วย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการสร้างรถจักรยานยนต์ที่มีรูปลักษณ์สวยงามเหนือกาลเวลา คลาสสิค และขับขี่ได้อย่างเพลิดเพลิน และ All-New Royal Enfield Classic 350 ก็เป็นอย่างนั้น โดย All-New Royal Enfield Classic 350 ผสมผสานการออกแบบที่ถือเป็นต้นแบบ และไร้กาลเวลานี้เข้ากับประสบการณ์การขับขี่ที่ทันสมัย และประณีตอย่างแท้จริง ทั้งหมดถูกพัฒนาขึ้นโดยมีจุดเริ่มต้นจากเครื่องยนต์ J-series อันทันสมัย พร้อมแชสซีส์ใหม่ทั้งหมด Classic 350 จึงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ และไร้ที่ติ ซึ่งแทบรู้สึกเหมือนได้กลับมาขับขี่อีกครั้งเป็นครั้งแรก เราให้ความสำคัญกับทุกแง่มุมของรถจักรยานยนต์เป็นอย่างมาก ตั้งแต่รูปลักษณ์อันน่าทึ่ง ไปจนถึงความสมบูรณ์แบบในชิ้นส่วน และจุดสัมผัส ไปจนถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่ไร้ที่ติ เครื่องยนต์ที่ได้รับการสอบเทียบอย่างดีเยี่ยมนั้นมีความราบรื่นเป็นพิเศษ ตอบสนองตามสัญชาตญาณ และให้การตอบรับต่อการบังคับรถของผู้ขับขี่เป็นอย่างดี และให้เสียงดังของเครื่องยนต์ที่ไม่รำคาญโสตประสาทเมื่อเร่งความเร็ว ในส่วนของแชสซีส์ก็ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด สร้างความมั่นใจอย่างมากในขณะบังคับควบคุม ทั้งยังทรงตัวได้ดีโดยเฉพาะในสถานการณ์การจราจรคับคั่ง และในมุมที่คดเคี้ยว Classic เป็นรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่สบายที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยเบาะนั่ง และระบบกันสะเทือนที่นุ่มสบาย และด้วยการออกแบบเชิงการยศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าจักรยานยนต์จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มจักรยานยนต์ระดับเดียวกัน และทั้งยังให้ความละเมียดละไม และขับขี่สบายอย่างน่าทึ่ง เรามั่นใจว่า All-new Classic 350 ที่ได้รับการขัดเกลามาดีอย่างเหลือเชื่อนี้จะสร้างนิยามใหม่ให้วงการรถจักรยานยนต์ขนาดกลางทั่วโลกอีกครั้ง”
บี โกวินดาราจาน กรรมการบริหาร Royal Enfield กล่าวย้อนถึงความสำเร็จของ Classic ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดตัวครั้งนี้ว่า "Classic เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีบทบาทสูงมากในการเติบโต และขยายเซกเมนท์ผลิตภัณฑ์มิดเดิลเวทในอินเดีย ในขณะเดียวกันก็มีบทบาทสำคัญในการปลดลอควัฒนธรรมย่อยที่เฟื่องฟูในส่วนของการขับขี่แบบสบายๆ ทั้งในหมู่นักขับอายุน้อย และกลุ่มที่มีประสบการณ์ทั่วโลก All-New Royal Enfield Classic 350 สืบสานตำนานนี้ต่อเนื่องไป และสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถึงภาษาการออกแบบที่เหนือกาลเวลาอย่างที่เราเคยได้สัมผัสมาแล้ว พร้อมประสบการณ์การขับขี่ที่ทันสมัย และเป็นจินตนาการใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ Classic 350 ใหม่ ยังคงรักษารูปลักษณ์ย้อนยุคไว้ได้ครบถ้วน โดยมีเป้าหมายที่จะนำพามรดกตกทอดนี้เดินไปข้างหน้าด้วยการตกแต่งระดับพรีเมียม และลงตัว แชสซีส์ และเครื่องยนต์ที่ยึดเกาะพื้นถนน บวกกับการขับขี่ และการควบคุมรถที่เหนือชั้น ด้วยการมุ่งเน้นที่เฉียบคมที่จะเจาะตลาดรถจักรยานยนต์ในกลุ่มมิดเดิลเวท และความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ของเราในแนวโน้มการชื่นชอบความพรีเมียมในอุตสาหกรรมยานยนต์ของอินเดีย เรามั่นใจว่า Classic 350 ใหม่ จะขับเคลื่อนการเติบโต และความทะเยอทะยานมุ่งมั่นของเราต่อไป
Classic 350 ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สูบเดียว 349 ซีซี ชนิดระบายความร้อนด้วยอากาศ ที่ทันสมัย และได้รับความนิยมทั่วโลก ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในงาน Meteor เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้ All-New Royal Enfield Classic 350 สามารถนำเสนออีกระดับของความสะดวกสบาย ความนุ่มนวล และความประณีตในประสบการณ์การขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 349 ซีซี แบบฉีดเชื้อเพลิง ระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมัน Classic ให้กำลัง 20.2 แรงม้า ที่ 6,100 รตน. และแรงบิด 27 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รตน. ส่งผลให้เกิดเสียงดังรบกวนน้อย ขณะที่การส่งกำลังเชิงเส้นเป็นไปอย่างราบรื่นสุดๆ ทั่วทั้งแบนด์ ทำให้การขับขี่สนุก และง่าย และด้วยเพลาบาลานเซอร์หลักที่ลดการสั่นสะเทือน ทำให้ Classic ใหม่ ให้ความรู้สึกนุ่มนวล และมีการทรงตัวดีบนท้องถนน การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างแม่นยำ และราบรื่น ด้วยกระปุกเกียร์ 5 จังหวะ ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ซึ่งรับประกันการเร่งความเร็วในเมืองอย่างแม่นยำได้เป็นอย่างดี ตลอดจนการขับขี่ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายที่ความเร็วระดับ Cruising Speed และเพื่อความสุขของผู้ที่ชื่นชอบ Royal Enfield อย่างมาก Classic 350 ใหม่ ยังคงรักษาเสียงกระหึ่มของท่อไอเสียไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ชัดเจน
Classic 350 ถูกออกแบบ และพัฒนาโดยทีมนักออกแบบ และวิศวกรมากความสามารถ ที่ศูนย์เทคโนโลยีล้ำสมัย 2 แห่งของ Royal Enfield ในประเทศอินเดีย และสหราชอาณาจักร โดยมีการดูแลใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่จะได้ประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเมื่อขับ Classic 350 ใหม่ แชสซีส์ก็ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อความสะดวกสบาย และความคล่องตัวที่เหนือกว่า ทั้งยังมีความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการทำความเร็วสูงขึ้นขณะเข้าโค้ง และให้ความรู้สึกมั่นคง และยึดเกาะถนนทางตรงได้ดีเยี่ยมเช่นกัน ระบบกันสะเทือนด้านหน้า และด้านหลัง ได้รับการพัฒนาอย่างครบถ้วนทุกรายละเอียด เพื่อให้นั่งบนอานได้อย่างสบายยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการใช้หลักการยศาสตร์ในการขับขี่ที่ดีขึ้น และการเบรคที่มั่นใจมากขึ้น Classic ให้ความรู้สึกคล่องตัวและตอบสนองได้ดี จึงมั่นใจได้ว่าประสบการณ์การขับขี่ในแต่ละครั้งจะเป็นประสบการณ์ที่ดีขึ้น
Royal Enfield Classic 350 มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยโทนสี 11 สี เริ่มด้วย Redditch Series, the Halcyon Series, the Classic Signals, the Dark Series และ Classic Chrome
● Classic Chrome Series เป็นรุ่นพรีเมียมที่โดดเด่น Classic Chrome สะท้อนถึงรูปลักษณ์ และความรู้สึกที่สวยน่ามองทุกรายละเอียดของรถจักรยานยนต์อังกฤษนับตั้งแต่ปี 1950 มีให้เลือกในสีทูโทนใน 2 คู่สี คือ Chrome Red และ Chrome Bronze โดย Chrome Series สื่อสัญลักษณ์ที่แท้จริงของอดีตด้วยตรารถถังที่โดดเด่น ซึ่งเสริมแต่งโดยรถจักรยานยนต์ Royal Enfield ในยุคปี 1950
● Classic Dark Series เป็นรุ่นที่สะท้อนความเป็นหนุ่มสาวทันสมัย ในแบบฉบับชีวิตเมือง โดยมาในสี Stealth Black และ Gunmetal Grey มาพร้อมกับล้ออัลลอย และยางแบบไม่มียางใน
● Classic Signals Series มีให้เลือกในสี Marsh Grey และ Desert Sand ส่วนรูปลักษณ์จะเน้นความเกี่ยวพันระหว่าง Royal Enfield กับกองทัพ แต่ละคันจะมาพร้อมกับตราสัญลักษณ์ และกราฟิค รวมถึงติดหมายเลขเฉพาะที่จะพิมพ์ลายฉลุบนถังน้ำมัน
● Halcyon Series ตามชื่อ คือ การเฉลิมฉลองมรดกตกทอดของ Classic และสะท้อนถึงรูปลักษณ์คลาสสิคย้อนยุคอันรุ่งโรจน์ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Green, Grey และ Black
● Classic 350 Redditch Series ได้รับแรงบันดาลใจจากความคลาสสิคที่แท้จริงในอดีต และมาพร้อมสีรถถัง ได้แก่ Redditch Grey และ Redditch Sage Green พร้อมชิ้นส่วนที่เป็นสีดำสนิท
ทุกรุ่นติดตั้งระบบเบรค ABS แบบ Dual Channel ABS และ Dual Disc Brakes ยกเว้นรุ่น Redditch ที่มีระบบเบรค ABS แบบช่องเดี่ยว และดิสค์เบรคที่ด้านหน้า
แม้รูปลักษณ์ และขนาดของ All-new Royal Enfield Classic 350 ยังคงรักษาความงาม และแก่นแท้ที่เหนือกาลเวลา ทุกแง่มุมของรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ได้รับการอกแบบใหม่ทั้งคัน โดยมีรูปลักษณ์ที่ดูสดใหม่ ไม่ซ้ำกับรุ่นก่อนๆ ทั้งยังมีความลงตัวพอดี และการตกแต่งระดับพรีเมียมทั้งหมด สะท้อนสไตล์ของรถจักรยานยนต์อังกฤษยุคหลังสงคราม อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ พร้อมความกลมกลืนของเส้นสาย และลวดลายที่ไหลจากด้านหน้าไปยังส่วนท้าย ที่ยังคงทำให้ Classic 350 เป็นจักรยานยนต์ที่มีรูปลักษณ์ที่สวยงามโดดเด่น รถจักรยานยนต์รุ่นนี้มาพร้อมถังทรงหยดน้ำแบบ Casquette ที่เป็นซิกเนเจอร์สไตล์ของ Royal Enfield และมีไฟหน้า รวมถึงไฟสัญญาณนำร่องแบบใหม่อีกด้วย
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาช่วงเวลาสบายๆ บนอานรถ Classic ใหม่ มีเบาะนั่งใหม่ที่กว้างขึ้น พร้อมเบาะรองนั่งบุด้วยโฟมนุ่ม นอกจากนี้ยังมาพร้อมแฮนด์แบบใหม่ ตำแหน่งการขี่ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียด เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ควบคู่กับความรู้สึกคลาสสิคที่คุ้นเคย แผงหน้าปัดแบบ Digi-Analog ใหม่ มีจอแสดงผล LCD ที่ทันสมัย มีจุดชาร์จ USB อยู่ใต้แฮนด์ เพื่อความสะดวกในการชาร์จอย่างรวดเร็วขณะเดินทาง ระบบนำทาง Tripper แบบ turn-by-turn มีให้ใช้งานเป็นอุปกรณ์เสริม Make It Yours (MiY) ใน Chrome Series ทั้งนี้ MiY เป็นเครื่องมือเฉพาะของ Royal Enfield ที่ส่งเสริมการแสดงออกถึงตัวตนของผู้ขับขี่ ช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับแต่งรถจักรยานยนต์ได้ตามความต้องการเฉพาะของตนเอง
Classic 350 ใหม่ จะวางจำหน่ายพร้อมกับชุดอุปกรณ์เสริม Genuine Motorcycle Accessories มากมาย ซึ่งได้รับการออกแบบ และพัฒนาเพื่อเสริมความเก่งกาจ รวมทั้งเพิ่มความสะดวกสบาย ประโยชน์ใช้สอย และเสริมสไตล์ ชุดอุปกรณ์เสริมใหม่สำหรับ Classic 350 มีมาให้เลือกตามวัตถุประสงค์การใช้งาน และมีตัวเลือก 35 แบบ ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับแต่ละธีม ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเสริมรูปลักษณ์ และฟังค์ชันของรถจักรยานยนต์ได้ตามความต้องการ หรือความชอบส่วนตัว ทั้งนี้ อุปกรณ์เสริมสำหรับรถจักรยานยนต์ของ Royal Enfield มาพร้อมการรับประกัน 3 ปีแบบครอบคลุม และได้รับการออกแบบ พัฒนา และรับรองเพื่อใช้ควบคู่ไปกับรถจักรยานยนต์ และเพื่อการแสดงออกถึงตัวตนของผู้ขับขี่แต่ละคน อุปกรณ์การขี่ที่ได้รับการคัดสรร รวมทั้งหมวกกันนอค เสื้อยืด และอุปกรณ์ไลฟ์สไตล์ ได้รับการออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Classic 350 ด้วยเช่นกัน
Classic 350 ใหม่ นำพาตำนานความคลาสสิคสมัยใหม่เสริมเข้าไปไว้ในขอบข่ายผลิตภัณฑ์ของ Royal Enfield การออกแบบที่เป็นแบบฉบับ และไร้กาลเวลาของรถจักรยานยนต์ จะสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ ในขณะที่การยศาสตร์ และความประณีตจะเพิ่มความสุนทรีย์ทุกครั้งที่ผู้ขับขี่ขึ้นนั่งบนอาน
Classic 350 ใหม่ ทุกรุ่น มีให้จอง และทดลองขับแล้ววันนี้ ที่ตัวแทนจำหน่ายในประเทศอินเดีย ยกเว้น Redditch Series ซึ่งจะวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 เป็นต้นไป
ABOUT THE AUTHOR

นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี พร้อมได้ เปิดโลก ได้พัฒนาตัวในแวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
คำค้นหา