เหตุผลที่ค่ายญี่ปุ่นยังล้าหลังเรื่องรถไฟฟ้า

 

ในปัจจุบัน แม้ว่า Trend ของอุตสาหกรรมรถยนต์จะมุ่งไปสู่ถนนของรถพลังงานไฟฟ้าแล้วก็ตาม จะเห็นได้ว่า ค่ายรถยนต์จากแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศญี่ปุ่น ยังคงสงบเงียบ ไม่ค่อยจะมีข่าวคราวในการพัฒนารถไฟฟ้าออกสู่สาธารณชนมากเท่าไรนัก

เหตุผลแรก น่าจะเป็นเพราะอุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่น ได้ทุ่มลงทุนในด้านรถยนต์ไฮบริด และไฮบริด-ไฟฟ้า หรือ พลัก-อิน ไฮบริด กันเป็นจำนวนมาก  ทำให้ไม่มีความสนใจที่จะพัฒนารถไฟฟ้า ที่แต่ละบริษัทจะต้องลงทุนกันอีกอย่างมหาศาล เหตุผลข้อที่ 2 เป็นความห่วงใยที่เกิดขึ้น ว่าเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในรถไฟฟ้า จะไปกระทบกระเทือนกับอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในรูปแบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน มากมายขนาดไหน เมื่อราวต้นศตวรรษที่ผ่านมา ค่าย Nissan นับเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้า ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากชุดแบทเตอรีเป็นเจ้าแรก ด้วยรุ่น Leaf ได้รับความนิยมอย่างมาก จนถึงสิ้นปี 2563 สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 500,000 คัน แต่ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก กำลังมุ่งสู่ถนนสายรถไฟฟ้า นับว่าค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่น ตกอยู่ในสถานะอันตราย ในความล้าหลังทางเทคโนโลยี แม้ว่าหลายประเทศจะประกาศให้ปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมรถยนต์ ไปสู่การผลิตรถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ขณะที่บรรดาผู้ผลิตจากญี่ปุ่น ยังเดินหน้าแนะนำรถยนต์เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม ด้วยระบบไฮบริด-ไฟฟ้า ความหวังที่จะเก็บเกี่ยวเม็ดเงินที่ลงทุนในการพัฒนาระบบไฮบริด จำนวนมหาศาล กลับคืนให้มากที่สุด Masato Inoue หัวหน้าฝ่ายออกแบบ Nissan Leaf  ระบุว่า “ในปัจจุบัน นับเป็นความเสี่ยงที่อุตสาหกรรมสำคัญของประเทศญี่ปุ่น จะตก Trend ขบวนเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี” พร้อมเสริมว่า “เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ย่อมทำให้เกิดความกลัว แม้ว่าคลื่นของรถไฟฟ้า กำลังจะถาโถมเข้าใส่อุตสาหกรรมรถยนต์ก็ตาม” แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ยอดขายของรถไฟฟ้า ยังมีน้อยกว่า 3 % ของยอดขายรถทั่วโลก เพราะยังมีปัญหาในแง่ราคาขาย ระยะการเดินทาง และเวลาที่ใช้ในการชาร์จชุดแบทเตอรี ที่ทำให้ต้องยอมรับว่า มีเพียงรถไฟฟ้ายี่ห้อหรูบางรายเท่านั้นที่มีประสิทธิภาพมาก แต่กระนั้น ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมรถยนต์ และภาครัฐ ต่างก็ตั้งคำถามง่ายๆ ถึงแนวโน้มของรถไฟฟ้า ทั้งแผนงานระยะสั้นและระยะยาว อย่างน้อยก็มีการออกข่าวว่าเตรียมที่จะระงับการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน นับแต่ปี 2573 เป็นต้นไป แม้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่น ยังคงให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีไฮบริด รวมทั้งไม่มีความตั้งใจที่จะประกาศระงับการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ในแบบที่อังกฤษ และแคลิฟอร์เนีย ประกาศอย่างเป็นทางการ โดยระบุเพียงว่า จะชี้แจงรายละเอียดในภายหลัง ในเรื่องนี้ Akio Toyoda ประธานสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่น และประธาน Toyota Motor ซึ่งถือเป็นผู้นำในการผลิตรถไฮบริด ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ค่าย Toyota ซึ่งเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น อย่าง Daihatsu, Subaru, Suzuki และ Mazda โดยเฉพาะ 3 ค่ายหลัง ที่มียอดการผลิตมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์ในญี่ปุ่น เคยยอมรับในความเห็นด้านสิ่งแวดล้อม ที่จะเปลี่ยนรถยนต์ไฮบริดให้เป็นรถไฟฟ้ามาแล้ว ขณะเดียวกัน เขาก็ระบุด้วยว่า การจะเปลี่ยนถ่ายเป็นรถไฟฟ้า ที่ใช้ชิ้นส่วนในการผลิตน้อยกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน รวมทั้งเพิ่มความสะดวกในการผลิต จะทำให้ผู้คนนับล้านคนต้องตกงาน และทำลายระบบการผลิตชิ้นส่วนทั้งระบบ ซึ่งรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย Kota Yuzawa นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมรถยนต์ Goldman Sachs ระบุว่า “ไม่ต้องตั้งคำถามว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่น จะสามารถเปลี่ยนถ่ายได้สำเร็จเมื่อใด เพราะเขาเหล่านั้นมีเทคโนโลยีในระดับโลกอยู่แล้ว รวมทั้งได้ทุ่มลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีมากมาย เขาเพียงแต่รอคอยเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น”