Harley-Davidson เปิดตัวสุดยอดรถมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 2021

Harley-Davidson (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน) เผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 2021 ที่ทุกคนรอคอย อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ และเทคโนโลยีทันสมัย ผ่านการเปิดตัวในรูปแบบเสมือนจริง โดยในปีนี้ Harley-Davidson มุ่งเน้นการพัฒนาทางด้านสมรรถนะ และเทคโนโลยี เพื่อให้เหล่าผู้ขับขี่มีทางเลือกมากขึ้น และได้เป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซต์ที่ถูกออกแบบด้วยความใส่ใจในราคาที่น่าดึงดูด โดยเริ่มต้นเพียง 516,000 บาท สำหรับรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่าง Sportster Iron 883™ (สปอร์ทสเตอร์ ไอรอน 883) ซาจีฟ รัชเกคาราน กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย และอินเดีย กล่าวว่า เราตั้งใจพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ของเราเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเสมอ ดังนั้นมอเตอร์ไซค์ของ Harley-Davidson จึงพร้อมมอบประสบการณ์ด้านการขับขี่ที่เหนือไปกว่าเดิม ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และคุณสมบัติอันน่าเหลือเชื่อในราคาที่เอื้อมถึง ซึ่งมั่นใจว่าสมาชิกผู้หลงใหลในพาหนะสองล้อของเราจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเราตั้งใจจะทำให้การขับขี่มอเตอร์ไซค์เป็นกิจกรรมที่เข้าถึงได้ และเราจะช่วยให้พวกเขาได้เดินทางสู่อิสรภาพสมดังใจ Harley-Davidson 2021 เริ่มด้วยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser Street Bob® 114 (ครูเซอร์ สตรีท บอบ 114) ที่มีความดุดันและ Fat Boy 114 (แฟท บอย 114) โฉมใหม่แต่ยังคงความคลาสสิค โดยจักรยานยนต์รุ่น Street Bob® 114 ใหม่นั้น ได้รับการออกแบบในสไตล์อเมริกันแท้ และยังเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ไร้ที่ติ โดยใช้เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight® 114 อันทรงพลังซึ่งมีความจุของกระบอกสูบมากขึ้น และรถรุ่นนี้ยังเป็นรถตระกูล Softail (ซอฟเทล) ที่มีน้ำหนักเบาที่สุด Street Bob® 114 ที่มีรูปโฉมอันโฉบเฉี่ยวนี้ มีราคาเริ่มต้นที่ 849,000 บาท ในขณะที่รถรุ่นเก๋าอย่าง Fat Boy® 114 นั้น ได้รับการปรับโฉมใหม่ด้วยผิวโครเมียมแบบขึ้นเงา และจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 1,119,000 บาท อีก 2 รุ่นคือ Softail Standard™ (ซอฟเทล สแตนดาร์ด) และ Low Rider S (โลว์ ไรเดอร์ เอส) ที่หลายคนรอคอย โดยรุ่น Softail Standard™ นั้นมีราคาเริ่มต้นเพียง 769,000 บาทเท่านั้น ส่วนรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider S ที่ใช้เฟรมรถชนิดเดียว Harley-Davidson Softail® รุ่นอื่นๆ แต่ได้เพิ่มความพิเศษขึ้นโดยการเสริมระบบกันสะเทือนอันยอดเยี่ยม ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาเพื่อรองรับการขับขี่อย่างดุดัน ด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์สุดแกร่งอย่าง Milwaukee-Eight® 114 มีการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการขับขี่แนวชายฝั่งทะเล และมีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson โดยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นนี้มีลักษณะเด่นประกอบไปด้วย แฮนด์บาร์แบบยกสูง และมีเครื่องยนต์ที่พร้อมจะพาคุณตะลุยไปในทุกสถานการณ์ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 989,000 บาท ตามมาด้วยรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Touring (ทัวริง) ซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะสำหรับการขับขี่ในระยะทางไกลของ Harley-Davidson และยังเป็นสามารถเก็บสัมภาระที่ข้างรถได้ ในปีนี้ Harley-Davidson ได้เพิ่มลูกเล่น และความพิเศษในรถตระกูลนี้มากมาย โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,189,000 บาท รถมอเตอร์ไซค์ในตระกูลนี้ประกอบด้วย Road King® Special (โรด คิง สเปเชียล), Road Glide® Special (โรด กไลด์ สเปเชียล) และ Street Glide® Special (สตรีท กไลด์ สเปเชียล) ซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีลักษณะโหลดต่ำ และใช้เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 114 อันทรงพลัง และมีสมรรถนะที่เหมาะแก่การขับขี่ทางไกลด้วยเฟรมรถ Harley-Davidson® Touring (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ทัวริง) รถมอเตอร์ไซค์แบบมีช่องเก็บสัมภาระยอดนิยม 3 รุ่นนี้ มีสไตล์ที่ทันสมัย และแสดงถึงตัวตนของ Harley-Davidson ได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ Harley-Davidson ยังเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ระดับพรีเมียม 3 รุ่นซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นโดยทีมงาน Custom Vehicle Operations (CVO) รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO™ (ซีวีโอ) ปี 2564 เป็นสัญลักษณ์แห่งการออกแบบขั้นสุดยอดของ Harley-Davidson ซึ่งรังสรรค์ขึ้นเพื่อผู้ขับขี่ที่อยากสัมผัสความเป็น Harley-Davidson อย่างเต็มที่ และครั้งแรกกับการเปิดตัวของ Harley-Davidson Audio ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมดโดย Rockford Fosgate ซึ่งเป็นบริษัทผลิตระบบเสียงชั้นนำ โดยมีลำโพง และเครื่องขยายเสียงซึ่งออกแบบสำหรับจักรยานยนต์ Harley-Davidson โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีผิวสัมผัสที่น่าดึงดูด และเทคโนโลยีที่ทันสมัย แสดงให้เห็นความใส่ใจในรายละเอียดของ Harley-Davidson มอเตอร์ไซค์เหล่านี้ได้รับการออกแบบ และผลิตตามมาตรฐานด้านคุณภาพของโรงงาน และยังมีการรับประกันแบบมีเงื่อนไขโดย Harley-Davidson อีกด้วย