ธุรกิจ
Royal Enfield เปิดตัว Meteor 350 มอเตอร์ไซค์สไตล์อีซี ครูเซอร์
Royal Enfield (รอยัล เอนฟีลด์) เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์สไตล์อีซี ครูเซอร์ ใหม่ Royal Enfield Meteor 350 (เมทีออร์ 350)
สิทธตถะ ลาล กรรมการผู้จัดการ ไอเชอร์ มอเตอร์ ลิมิเทด บริษัทแม่ของ Royal Enfield กล่าวว่า Meteor 350 ได้รับการพัฒนา และปรับปรุงมาอย่างดี ให้ความสบายขณะขับขี่ และเข้าถึงได้ รถรุ่นนี้เป็นการผสมผสานอย่างมีเสน่ห์ของสไตล์การขับขี่ของมอเตอร์ไซค์คลาสสิค ที่มาพร้อมสมรรถนะที่ทันสมัย เราต้องการผลิตมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่สร้างประสบการณ์การขับขี่แบบท่องเที่ยวได้อย่างยอดเยี่ยม แม้แต่ในหมู่นักขับขี่ที่มากประสบการณ์ Meteor 350 คือ ความสมบูรณ์แบบ ที่ได้มีการนำหลักการทางสรีรวิทยามาช่วยในการออกแบบให้ขับขี่ได้ง่าย และสบาย ขับขี่ได้สนุก ทั้งบนถนนไฮเวย์ระยะไกล อีกทั้งยังเหมาะกับการขับขี่ในเมือง ตัวรถมีความมั่นคง มือจับคันเร่งที่บิดง่าย และระบบเบรคที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน Meteor ยังมาพร้อม Royal Enfield Tripper ซึ่งเป็นหน้าจอนำทางแบบ Turn-by-Turn ที่ใช้งานได้สะดวก เราได้ใช้เวลาคิดค้น และทดลองไปกับการพัฒนาระบบนำทางด้วยตัวเอง ซึ่งเรียบง่าย และฉลาด ผ่านการผนวกเข้ากับระบบ Google Maps ที่จะช่วยให้นักขับขี่ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องบนท้องถนน ผ่านการแจ้งข้อมูลที่จำเป็น ขณะที่การแสดงผลจะไม่สร้างการรบกวนขณะเดินทาง ทำให้ Royal Enfield Tripper เป็นระบบนำทางสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้ Meteor 350 ยังเป็นรถที่มีสมรรถนะรอบคัน ได้รับการพัฒนามาอย่างเหนือชั้น และเราก็มั่นใจว่า Meteor 350 จะปลุกกระแสความนิยมในการขับขี่เพื่อการท่องเที่ยวได้อย่างแน่นอน"
Meteor 350 ได้รับการออกแบบจากทีมดีไซจ์เนอร์ และพัฒนาขึ้นโดยทีมวิศวกรรมเครื่องยนต์ผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์เทคโนโลยีอันล้ำสมัยทั้ง 2 แห่งของ Royal Enfield ในเมืองเชนไน รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย และเมืองบรันทิงธอร์พ สหราชอาณาจักร ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถรุ่นนี้ เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีเอกลักษณ์น่าดึงดูด การปรับโฉมในครั้งนี้ ทั้งในแง่ของเครื่องยนต์ การประกอบที่เข้ากันได้อย่างกลมกลืน ทำให้รถรุ่นนี้มีความทันสมัย ยกระดับขึ้นสู่ทอพคลาสส์ได้อย่างแท้จริง ด้วยระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ (Air-Oil Cooled) กระบอกสูบเดี่ยว ขนาด 349 ซีซี
ทำให้ Meteor สามารถสร้างขุมพลังสูงสุด 20.2 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 27 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รตน. ทำให้เกิดเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของรถมอตอร์ไซค์ครูเซอร์ บาลานเซอร์ชาร์พออกแบบใหม่ ช่วยให้รู้สึกขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล ระบบจ่ายน้ำมันแบบไฟฟ้ามีผลต่ออัตราการตอบสนองของคันเร่งที่ดีขึ้น ในแง่ของสมรรถนะที่รอบด้าน เครื่องยนต์ใหม่มีเกียร์ 5 จังหวะ โดยที่เกียร์ 5 จะทำหน้าที่ Overdrive ให้ขับขี่ได้อย่างไร้กังวล และช่วยประหยัดน้ำมันเมื่อเดินทางระยะไกล ยังมาพร้อมแผ่นเหล็กคลัทช์ 7 ชั้น ที่ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ง่ายขึ้น ท่ามกลางการจราจรที่หนาแน่น
แชสซีส์แบบ Twin Downtube Spin Frame ของ Meteor 350 ออกแบบให้เกิดความมั่นใจในการขับขี่บนทางคดเคี้ยว และแข็งแรงดุจหินขณะขับขี่ในระยะไกล แต่ก็ควบคุมได้อย่างง่ายดายบนถนนในเมืองที่วุ่นวาย เบาะนั่ง และศูนย์ถ่วงที่ลดความสูงลง ประกอบกับความแข็งแรงของตัวรถ ทำให้เกิดสภาพที่เหมาะสมสำหรับทั้งนักขับขี่ในเมือง และผู้แสวงหาการผจญภัยบนส้นทางระยะไกล ระบบกันสั่นสะเทือนหน้าแบบเทเลสโคพิคขนาด 41 มม. พร้อมระยะยุบ 130 มม. และชอคอับคู่ปรับระดับได้ 6 ระดับ และปรับพรีโหลดได้ ช่วยให้วางมือได้อย่างกระชับ และนุ่มสบาย และเพื่อให้เกิดประสบการณ์ในการขับขี่ท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ จึงได้มีการออกแบบที่พักเท้าให้เยื้องไปด้านหน้า เพื่อให้การขับขี่สบายมากขึ้นตามหลักสรีรศาสตร์
หน้าจอที่ผสานระบบนำทางแบบ TBT (Turn-by-Turn) เปิดตัวพร้อมให้ไรเดอร์ได้ใช้งานครั้งแรกกับรุ่น Meteor 350 หรือมีชื่อเรียกว่า Royal Enfield Tripper เป็นเครื่องมือแสดงผลการนำทางที่มีความแม่นยำสูง แสดงผลได้แบบเรียลไทม์ โดยนำเทคโนโลยี Google Maps มาใช้ Tripper จะแสดงเส้นทางไปยังจุดหมายปลายทางสำหรับมอเตอร์ไซค์ที่ดีที่สุด ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมแรกของรถมอเตอร์ไซค์จากประเทศอินเดีย นอกจากนี้ Tripper ยังสามารถใช้งานได้ง่าย เพียงจับคู่กับแอพพลิเคชัน Royal Enfield เข้ากับโทรศัพท์มือถือของผู้ขับขี่ ก็จะให้ข้อมูลที่ต้องการได้อย่างชัดเจน และมีประสิทธิภาพ และไม่แสดงผลที่รบกวนสายตาขณะขับขี่
Royal Enfield Meteor 350 พร้อมจำหน่ายใน 3 รุ่น ประกอบด้วย Fireball (ไฟร์บอลล์) Stellar (สเตลลาร์) และ Supernova (ซูเพอร์โนวา)
- Meteor 350 รุ่น Fireball มีให้เลือกทั้ง สีแดง และสีเหลือง มาพร้อมกับล้อสีดำ และขอบล้อสีเดียวกับตัวรถตัดกับสีดำเข้มของเครื่องยนต์ และส่วนอื่นๆ ของตัวรถ
- Meteor 350 รุ่น Stellar มีให้เลือกทั้ง สีแดงร่วมสมัย สีน้ำเงิน และสีดำด้าน รับกับส่วนประกอบต่างๆ ของตัวรถได้อย่างพอดี แฮนด์มือจับแบบ Chrome มีที่พักหลังที่ให้ความรู้สึกสบายสำหรับที่นั่งซ้อนท้าย
- สำหรับรุ่นทอพอย่าง Meteor 350 Supernova มีให้เลือก 2 สี คือ สีน้ำตาล และสีฟ้าทูโทน เข้ากับรูปลักษณ์แบบพรีเมียมของตัวรถได้เป็นอย่างดี มีรายละเอียดมากขึ้นที่ชุดล้อ พร้อมเบาะนั่งแบบพรีเมียมพิเศษ
Meteor 350 ทุกรุ่น ใช้ล้ออัลลอย และยางแบบไม่มียางใน (Tubeless) ตามมาตรฐาน ให้นักขับขี่ได้รับความสะดวกสบาย โดยเฉพาะเมื่อต้องขับบนเส้นทางที่มีระยะไกล ความสบายที่เพิ่มขึ้นและรูปทรงของรถเพื่อการขับขี่ขนานแท้ เกิดจากการใช้ชุดล้อหน้า 100/90-19 และชุดล้อหลัง 140/70-17 ระบบเบรคที่มีความปลอดภัยสูง ABS (Anti-Lock Braking System) แบบ Dual Channel ทั้งล้อหน้า และล้อหลัง เบรคหน้าแบบจาน ขนาด 300 มม. และเบรคหลังแบบจาน ขนาด 270 มม.
ชุดไฟหน้าและไฟหลังของ Meteor 350 เป็นแบบ LED เพื่อให้เกิดความคมชัด ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ ใช้หลอดไฟฮาโลเจนที่ให้ลุคสุดคลาสสิค ปุ่มบนแฮนเดิลบาร์ที่เรียบง่ายแต่ดูพรีเมียม พร้อมสวิทช์แบบโรตารีให้
ความรู้สึกคลาสสิคตามสไตล์ Royal Enfield
Meteor 350 ทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมแผงหน้าปัดแบบใหม่ที่ใช้เข็มวัดความเร็วแอนาลอค "Dancing Needle" ให้ความสง่างามเหนือกาลเวลา ที่เข้ากับการใช้งานหน้าจอ LCD ที่แสดงข้อมูลสำคัญ เช่น ระดับเกียร์ ที่วัดน้ำมัน นาฬิกา และเลขวัดระยะทาง นอกจากนี้ ยังมีช่องเสียบสาย USB ที่ซ่อนอยู่ใต้แฮนเดิลบาร์ ให้คุณชาร์จไฟได้ง่ายขณะขับขี่
วิมัล ซัมบลีย์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค Royal Enfield กล่าวว่า "การเปิดตัว Meteor รุ่นใหม่ในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการแนะนำรถมอเตอร์ไซค์รุ่นล่าสุดจากทางบริษัทฯ เท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งสำคัญในพันธกิจของเราที่จะสร้างแรงบันดาลใจ ในแนวคิด "การขับขี่ที่แท้จริง" ในกลุ่มสาวกนักขับขี่ไม่ว่าจะใหม่ หรือเก่า รถรุ่นใหม่นี้ถือเป็นข้อพิสูจน์ความสำเร็จของ Royal Enfield ในตลาดรถขนาดกลางเพื่อการพักผ่อน และได้ก้าวไปอีกขั้นในเรื่องของการพัฒนาสมรรถนะและคุณภาพ สืบเนื่องจากการเปิดตัวรถ Twin 650 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เรายินดีเป็นอย่างมากที่ได้เปิดเรื่องราวบทใหม่ของ Royal Enfield ที่เริ่มหน้าแรกในปี 2544
Royal Enfield Meteor 350 มาพร้อมกับชุดอุปกรณ์ตกแต่งมอเตอร์ไซค์ของแท้ (Genuine Accessories) ที่ออกแบบ และคิดค้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถสั่งเพิ่มได้ในระหว่างการซื้อรถ ทั้งชุดประกอบด้วย อุปกรณ์ใช้งาน เช่น เบาะพักหลังของที่นั่งซ้อนท้าย แผ่นกันลมทัวริงสกรีน ที่เก็บสัมภาระ การ์ดป้องกันเครื่องยนด์ และอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์คลาสสิค ท่อไอเสียที่มีให้เลือกทั้งแบบสเตนเลสส์ และแบบเคลือบสีฝุ่น เบาะรองนั่งขับขี่แบบทัวริงที่ออกแบบและผลิตอย่างสวยงาม ซึ่งทั้งหมดจะมาพร้อมประกัน 3 ปี นอกจากนี้ นักขับขี่ยังสามารถเลือกสรรอุปกรณ์ และเครื่องแต่งกายอื่นๆ ที่สะท้อนสไตล์ในแบบของตัวเองด้วยชุดเกียร์ หมวกกันนอคที่มีให้เลือกหลายสี เสื้อยืด และของใช้ส่วนบุคคลที่ล้วนแต่ออกแบบมาเพื่อ Meteor คันโปรด ตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับขี่ท่องเที่ยวระยะไกล
เรื่องโดย : สุดาภรณ์ ไกรแก้ว
ภาพโดย : จินดา ลัยนันท์
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/348670