ระเบียงรถใหม่
New Kia Grand Carnival 2020...มีคลิพ

Kia เปิดตัว Carnival เจเนอเรชันที่ 1 เป็นครั้งแรกในเดือนมกราคม 1998 จนมาถึงรุ่นปัจจุบันซึ่งนับเป็นรุ่นที่ 3 เป็นรถ MPV ขนาดใหญ่ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่แล้ว ยังมีจุดเด่นอยู่ที่เครื่องยนต์ และช่วงล่างที่แน่นหนึบ ทำให้รถมีสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น ตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี แม้ว่า Kia Grand Carnival จะมีอายุตลาดเพียง 6 ปี แต่เพราะค่ายรถ Hyundai (ฮันเด) ที่ได้ควบรวมกิจการ Kia Motor ไปนั้น ได้เตรียมเปิดตัว Hyundai H-1 (เอช-1) ซึ่งใช้พแลทฟอร์มเดียวกัน ซึ่งรุ่นเดิมได้ทำตลาดตั้งแต่ ปี 2009 จึงส่งผลให้ Kia ต้องเร่งการเปิดตัว New Grand Carnival ให้เร็วขึ้น
ไฟหน้าของ New KIA Grand Carnival รุ่นใหม่ เป็นแบบ Projector LED มีไฟ Daytime Running Light แบบ LED อยู่ชิดกับกระจังหน้า Tiger Nose อันเป็นเอกลักษณ์ของค่าย ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ Peter Schreyer ดีไซจ์เนอร์รถสปอร์ทระดับโลก
ภายในห้องโดยสาร ดีไซจ์นใหม่ทั้งหมด โดยมีให้เลือกทั้ง 3 แถว 7 ที่นั่ง และ 4 แถว 11 ที่นั่ง แดชบอร์ดหน้าถูกออกแบบให้มีความพรีเมียมมากกว่าเดิม ใช้โทนสีภายในห้องโดยสาร ทำให้บรรยากาศดูมีความอบอุ่น และหรูหรามากขึ้น เบาะผู้โดยสารมีขนาดใหญ่ รองรับแผ่นหลังกระชับตัวมากกว่าเดิม ช่องเก็บของหลังที่พักแขนตอนหน้า ออกแบบให้เก็บของใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
จากแหล่งข่าวในเกาหลี เครื่องยนต์ใน All-New Grand Carnival อาจใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร 294 แรงม้า แทนรุ่นเดิม V6 ขนาด 3.3 ลิตร 280 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลจะใช้เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ตัวใหม่รหัส D2.2 CRDi l4 ที่ให้กำลัง 200 แรงม้า ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Kia Sorento ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาเมื่อช่วงต้นปี แทนเครื่องยนต์เดิม Diesel CRDi 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 45.0 กก.-ม. (441 นิวตัน-เมตร) ที่ใช้ใน KIA Grand Carnival รุ่นปัจจุบัน วัสดุถูกเปลี่ยนให้เป็นอลูมินัมมากขึ้น ทำให้ลดน้ำหนักลงจากเครื่องยนต์ในรุ่นเก่าได้ 38.2 กก. และจะมีเครื่องยนต์ Hybrid ตามมาในภายหลัง โดยทั้ง 2 ทางเลือกเครื่องยนต์จะจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
ภายในของ Grand Carnival โฉมใหม่ มาพร้อมกับจอแสดงผลการขับขี่ และจอ Infotainment แบบดิจิทอล และเกียร์ไฟฟ้าแบบหมุนปุ่มเพื่อเปลี่ยนเกียร์ พร้อมกับเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ Kia’s Advanced Driver Assistance Systems ได้แก่
– Forward Collision-Avoidance Assist (FCA) ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ ตรวจจับรถยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้
– Rear Cross-traffic Collision-Avoidance Assist (RCCA) ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อมีรถผ่านมาด้านหลัง ขณะถอยออกจากมุมอับ
– Lane Following Assist (LFA) ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ใช้เซนเซอร์และกล้องเพื่อรักษาระยะรถยนต์ ให้อยู่กลางช่องจราจร พร้อมเพิ่มและลดความเร็วได้ แปรผันตามยานพาหนะคันหน้า
– Remote Smart Parking Assist (RSPA) ระบบถอยจอดอัตโนมัติ ควบคุมผ่านกุญแจรีโมท
– Safe Exit Assist ระบบแจ้งเตือนว่ามีรถยนต์ หรือจักรยานพุ่งเข้ามา ในฝั่งที่กำลังเปิดประตูลงจากรถ ซึ่งทำให้การขับขี่รถที่มีขนาดใหญ่ ทำได้สะดวก และปลอดภัยมากขึ้น


