กรมการขนส่งทางรางเข้ม ! ขึ้นรถไฟต้องใส่หน้ากาก

กรมการขนส่งทางรางประกาศผู้โดยสารทุกคนที่ใช้บริการ รถไฟ-รถไฟฟ้า บังคับต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมอำนวยความสะดวกจัดหาหน้ากากมาจำหน่ายที่หน้าสถานีในราคา 10-35 บาท

    กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้ลงนามในคำสั่งประกาศเรื่องข้อแนะนำการปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้โดยสาร และหน่วยงานที่ใช้บริการระบบขนส่งทางราง โดยให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการสาธารณะทางรางทุกคนก่อนใช้บริการระบบราง ทั้งรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และรถไฟฟ้า ประกอบด้วย รถไฟฟ้าแอร์พอร์ทเรลลิงค์ ของบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟท.) และรถไฟฟ้าของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยบริษัททางด่วน และรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) รวมถึงรถไฟฟ้าบีทีเอส ของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จะต้องให้ผู้โดยสารทุกคนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ก่อนใช้บริการ นอกจากนี้ ทางกรมฯ ได้มีการประสานไปยังกรมราชทัณฑ์ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อจัดหาหน้ากากอนามัยมาจำหน่ายหน้าสถานีรถไฟ และสถานีรถไฟฟ้า โดยเบื้องต้นได้รวบรวมหน้ากากอนามัย 5,000 ชิ้น จัดสรรให้แอร์พอร์ทเรลลิงค์ แจกฟรี หรือจำหน่ายไม่เกินชิ้นละ 20 บาท ใน 3 สถานี ประกอบด้วย สถานีพญาไท สถานีมักกะสัน และสถานีลาดกระบัง โดยเฉพาะสถานีพญาไท จะจำหน่ายหน้ากากผ้าฝ้ายมัสลิน เกรดพรีเมียม จากโรงงานหน้ากากผ้าคุณภาพ รับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซักได้มากกว่า 100 ครั้ง ในราคา 35 บาท/ชิ้น   สำหรับผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS จำหน่ายหน้ากากอนามัย และหน้ากากผ้า ในราคาเริ่มต้น 35 บาท ใน 14 สถานี รวมถึง รฟม. และ BEM ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้าใต้ดินสีน้ำเงิน จำหน่ายใน 5 สถานี ประกอบด้วย สถานีเพชรบุรี สถานีพระราม 9 สถานีสีลม สถานีสุขุมวิท และสถานีกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. ในราคา 25-35 บาท   ส่วนรถไฟของ รฟท. ได้มีการทดลองนำหน้ากากผ้ามาจำหน่ายที่สถานีรถไฟหัวลำโพงแล้วตั้งแต่วันที่ 23 มีค. 2563 ในราคาชิ้นละ 10 บาท ซึ่งการจำหน่ายหน้ากากอนามัย และหน้ากากผ้า จะจำหน่ายทุกวันไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลาย หรือมีประกาศเปลี่ยนแปลง