รายงานข่าวจากเซี่ยงไฮ้ ระบุว่า ข่าวคราวการแพร่กระจายของ “COVID-19” หรือ ไวรัส โคโรนา ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ เกิดอาการชะงักงันไปในทุกภาคส่วนทั้งนี้เพราะจำนวนของผู้ติดเชื้อในจีน ลดลงติดต่อกันมา 13 วันแล้ว เหลือเพียงการติดเชื้อเพิ่มขึ้น 115 ราย ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่าในเซี่ยงไฮ้ มีผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเพิ่มขึ้นเพียง 3 ราย แต่กระนั้น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคไวรัสนี้ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 1,700 ราย รัฐบาลจีน ยังคงใช้มาตรการห้ามปรามที่เข้มงวด ทั้งเพื่อการเดินทาง และเพื่อการทำธุรกิจ โดยผู้ที่จะเดินทางข้ามจังหวัด เมื่อกลับมาถึงที่พัก จะต้องเก็บตัวอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการฟักตัวของเชื้อโรค การดำเนินธุรกิจใดๆ ก็จะต้องมีขั้นตอนในการขออนุญาตที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก เพื่อเป็นการป้องกันไวรัส ก่อนจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ แม้ว่ารัฐบาลจีนจะได้ประกาศวันหยุดเพิ่มเติมต่อจากเทศกาลตรุษจีน จากสัปดาห์เดียว เพิ่มเป็น 2 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แต่กระนั้น ผู้ผลิตในโรงงานประกอบรถยนต์ ต่างก็ใช้ความพยายามที่จะเริ่มสายการผลิตใหม่อีกครั้ง ซึ่งต่างก็ประสบปัญหา อันเนื่องมาจากผู้ผลิตชิ้นส่วน ไม่สามารถส่งชิ้นงานได้ทันตามกำหนด ทำให้ไม่สามารถขึ้นสายการผลิตได้เต็มกำลัง ค่าย Volkswagen ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในจีน แถลงข่าวปัญหาของระบบการจัดส่ง และการจัดหาชิ้นส่วน เพื่อการประกอบ รวมทั้งข้อห้ามไม่ให้พนักงานเดินทางจากภาครัฐ ทำให้ต้องเลื่อนเปิดสายการผลิต ในโรงงานหุ้นส่วน SAIC Motor เพิ่มไปอีก 1 สัปดาห์ โดยประกาศจะเริ่มสายการผลิต ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ของโรงงานที่เป็นหุ้นส่วนกับ SAIC 8 แห่ง จากจำนวนโรงงานของ Volkswagen 14 แห่งในจีน ขณะเดียวกัน โรงงานที่อยู่ในเขตหูเป่ย ซึ่งประกอบด้วย General Motors, Honda, Nissan, PSA Group และ Renault ก็ประกาศเลื่อนสายการผลิตแบบไม่มีกำหนด ขณะเดียวกัน สมาคมผู้จำหน่ายรถยนต์สาธารณรัฐประชาชนจีน (China Automobile Dealers Association) ระบุว่า ผู้จำหน่ายรถยนต์ก็มีปัญหาทางด้านไฟแนนศ์ด้วยเช่นกัน หลังจากทำการสำรวจผู้จำหน่ายรถยนต์ประมาณ 4.000 แห่งในหลากหลายยี่ห้อ ทั่วประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าจนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ มีผู้จำหน่ายเพียง 20 % ที่เปิดทำการ ทั้งนี้เพราะข้อกำหนดของทางราชการ เป็นปัญหาใหญ่ และไม่มีผู้บริโภค เดินเข้ามาดูรถในโชว์รูมเลย พร้อมระบุว่า ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะสามารถเริ่มทำการได้เต็มที่เมื่อใด สำหรับในเมืองใหญ่แล้ว ส่วนที่จะมีผลกระทบมากที่สุด น่าจะเป็นการรับบริการล้างรถ โดยจากการสำรวจของสมาคมฯ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 พบว่า มีเพียง 1.8 % ของสถานรับบริการล้างรถราว 9,000 แห่ง ในจีน ที่เปิดให้บริการ