ทดลองขับ(formula)
Honda City RS เธอเปลี่ยนไป ได้ใจกว่าเดิม !
หลังจาก Honda City ใหม่ บี-เซกเมนท์ ขวัญใจชาวไทย อวดโฉม “ครั้งแรกในโลก” ที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 พย. 2562 และไปจอดเป็นแม่เหล็กอยู่ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36” รับยอดจองทะลุ 4,500 คัน (นับถึงวันที่ 17 ธค. 2562) “ฟอร์มูลา” ก็ได้รับเกียรติเป็นหนึ่งใน “สื่อมวลชนกลุ่มแรกของโลก” ที่สัมผัส Honda City ใหม่ ที่สนามทดสอบ ฮอนดา อาร์แอนด์ดี เอเชียแปซิฟิค ปราจีนบุรีhttps://www.youtube.com/watch?v=V3XBpaVP7L4 แม้จะไม่ได้ขับบนท้องถนน แต่ก็ได้ลองในสนามทดสอบรูปวงรี (Oval Course) ความยาว 2.18 กม. 2 รอบ และสนามทดสอบทางโค้ง (Winding Course) ความยาว 1.38 กม. 1 รอบ ที่จำลองสภาพใช้งานจริงเกือบครบทุกรูปแบบ ขาดแค่การขับขี่ในสภาพจราจรหนาแน่นเท่านั้น Honda City เจเนอเรชันที่ 5 นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ได้รับการถ่ายทอด DNA ของบรรดารุ่นพี่มาหลายส่วนแล้ว จุดเด่นที่ทุกคนพูดถึง นั่นคือ ขุมพลัง Downsizing เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ความจุ 1.0 ลิตร VTEC Turbo จ่ายเชื้อเพลิงแบบฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ พ่วงระบบอัดอากาศด้วยเทอร์โบ และใช้อินเตอร์คูเลอร์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ควบคุมแรงดันเทอร์โบด้วยเวสเกทไฟฟ้า ให้กำลัง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รตน. แรงบิดสูงสุดแบบ “ฟแลท-ทอร์ค” 17.6 กก.-ม. ที่ 2,000-4,500 รตน. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแปรผัน 7 จังหวะ มาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5) รองรับเชื้อเพลิง แกสโซฮอล อี 20 ปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ 99 กรัม/กม. และเคลมอัตราสิ้นเปลืองที่ 23.8 กม./ลิตร รถที่ใช้ทดลองขับเป็น "รุ่นทอพ" Honda City RS ซึ่งเป็นครั้งแรกของ City ที่มีรหัส RS ให้เลือกใช้ โดยอุปกรณ์ตกแต่งภายนอก และอุปกรณ์มาตรฐานภายในห้องโดยสาร “แพรวพราว” สมราคาที่เพิ่มจากรุ่น SV (รองทอพ) อยู่พอสมควร รายละเอียด Honda City : https://autoinfo.co.th/ld3TQ สิ่งแรกที่รู้สึกได้ คือ ห้องโดยสารยังคงความสะดวกสบาย มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง การออกแบบให้อารมณ์สปอร์ท และหรูหราขึ้นกว่าเดิม เบาะนั่งสไตล์สปอร์ทหุ้มด้วยหนังกลับ ผ้า หนังสังเคราะห์ และเดินด้ายแดง เพิ่มอารมณ์สปอร์ท พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ชุดเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบ Honda Connect รองรับการเชื่อมต่อทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS พร้อมกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ และถุงลมนิรภัย 6 จุด หลังปรับท่านั่งเสร็จก็คาดเข็มขัดนิรภัย รอสัญญาณปล่อยตัวจากเจ้าหน้าที่ควบคุมการทดสอบ เริ่มจากสนามทดสอบรูปวงรี (Oval Course) ความยาว 2.18 กม. ที่มีโควตาให้ขับ 2 รอบสนาม โดยมีเจ้าหน้าที่นั่งประจำอยู่ในตำแหน่งผู้โดยสารด้านหน้า เราออกตัวในตำแหน่งเกียร์ D โหมด Normal พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า (EPS) มีน้ำหนักเบาช่วงความเร็วต่ำ แต่หนักขึ้นชัดเจนเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น การตอบสนองของขุมพลัง 3 สูบ ความจุ 1.0 ลิตร VTEC Turbo ช่วงเพิ่มความเร็วการทำงานของขุมพลังราบเรียบ นุ่มนวล ผู้ขับขี่สามารถรับรู้ได้ถึงแรงบิดแบบ “ฟแลท-ทอร์ค” ที่ออกมาให้ใช้ตั้งแต่ 2,000 รตน. และไม่รู้สึกถึงอาการรอรอบของเทอร์โบ ความรู้สึกที่ได้รับเหมือนกับขับรถเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.6 ลิตร แบบหายใจเอง ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติแปรผัน 7 จังหวะ (รุ่น RS มีแพดเดิล ชิฟท์ด้วย แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ เช่นเดียวกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ) Honda City RS มีอัตราเร่งที่ร้อนแรงไม่เบา ผิดจากนิสัยเดิมของซิทีคาร์ที่เน้นเรื่องความประหยัดในเจเนอเรชันก่อนๆ การตอบสนองของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังทำงานผสานกันอย่างสมบูรณ์ คันเร่งไฟฟ้าตอบสนองฉับไว แม้จะมีความจุแค่ 1.0 ลิตร แต่การใช้ระบบอัดอากาศด้วยเทอร์โบ ทำให้ช่วงเร่งแซงมีการตอบสนองทันอกทันใจ และไม่จำเป็นต้องใช้รอบสูงจากแรงบิดสูงสุดมีให้ใช้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราเร่งช่วง 80-120 กม./ชม. ซึ่งเป็นช่วงใช้งานเป็นประจำขณะเดินทาง ไม่ต้องลุ้นกันมากเหมือนเครื่องยนต์หายใจเอง โดยขณะขับขี่ด้วยความเร็ว สังเกตว่าเสียงในห้องโดยสารเงียบกว่าเจเนอเรชันก่อน ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการฉีดโฟมเข้าไปในโครงสร้างตัวถัง รวมถึงการพัฒนาวัสดุซับเสียง หลังจากขับครบ 2 รอบ เราก็เลี้ยวเข้าสู่ สนามทดสอบทางโค้ง (Winding Course) ความยาว 1.38 กม. มีทั้งหมด 17 โค้ง จำลองสภาพการใช้งานจริงได้ค่อนข้างสมบูรณ์ เพราะนอกจากรัศมีโค้งที่หลากหลายแล้ว บางโค้งยังสร้างลอนไว้ให้ทดสอบระบบรองรับอีกด้วย (ลักษณะเหมือนถนนยุบตัวที่เรามักพบเจออยู่เป็นประจำ) พร้อมติดตั้งป้ายระบุความเร็วของแต่ละโค้งไว้ชัดเจน ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม เซทแบบเน้นความนุ่มนวลเป็นหลัก แต่ก็รับมือกับพละกำลังและแรงบิดได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึก มั่นคง แต่ไม่กระด้าง ไม่ว่าจะเป็นในโค้งแคบความเร็วต่ำ หรือโค้งกว้างความเร็วสูง ระบบเบรคด้านหน้าเป็นแบบจาน พร้อมช่องระบายความร้อน ด้านหลังแบบดุม พร้อม ABS, EBD และ BA การตอบสนองของเบรคเป็นไปตามน้ำหนักเท้า ซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างจากรุ่นเดิมชัดเจน โดยทำงานร่วมกับระบบช่วยควบคุมการทรงตัว VSA เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ทุกสภาวะ ปิดท้ายด้วยระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA ซึ่งทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น Honda City ใหม่ ได้รับการปรับปรุงทั้งรูปลักษณ์ และสมรรถนะการขับขี่ ที่ให้ความสนุกสนานเร้าใจ จากขุมพลังบลอคเล็กพ่วงระบบอัดอากาศด้วยเทอร์โบ ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองกับความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบความปลอดภัยที่คงไว้เช่นเดิม แถมถ้าเทียบราคากับรุ่นเก่าแบบรุ่นต่อรุ่นแล้ว รุ่นใหม่ยังมีราคาถูกกว่าอีกด้วย ยกเว้นรุ่น RS ที่เพิ่งจะมีในเจเนอเรชันที่ 5 จึงไม่มีรุ่นที่นำมาเปรียบเทียบได้ งานนี้ต้องดูกันยาวๆ ว่าจะโดนใจบรรดาแฟนๆ แค่ไหน เพราะเซกเมนท์นี้ ณ ปัจจุบันกำลัง "ระอุ” ชนิดที่ว่าใครมีอะไรเจ๋งก็ต้องเทกันออกมาให้หมดหน้าตัก ขอขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด อำนวยความสะดวกในการเดินทางครั้งนี้ ข้อมูลจำเพาะ Honda City RS ผู้แทนจำหน่าย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0 - 2341 - 7888 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,553/1,748/1,467 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,497/1,483 ฐานล้อ (มม.) 2,589 น้ำหนัก (กก.) 1,165 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 40 เครื่องยนต์ เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบ ความจุ (ซีซี) 988 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 73.0/78.7 อัตราส่วนกำลังอัด 10.0:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 122/5,500 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 17.6/2,000-4,500 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง PGM-FI ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ ซีวีที 7 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท หลัง ทอร์ชันบีม ระบบบังคับเลี้ยว ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS) ระบบห้ามล้อ เอบีเอส อีบีดี บีเอ หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง ดุม ราคา (บาท) 739,000
เรื่องโดย : เอกลักษณ์ สูยะศุนานนท์ akaluk@imc.co.th
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ทดลองขับ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/307850