ทดลองขับ(formula)
ทดลองขับ Mazda 3 รุ่นล่าสุด ทำความรู้จักกันล่วงหน้าของแฮทช์แบค/ซีดานมาดสปอร์ท ก่อนจะเปิดตัวในบ้านเราช่วงปลายเดือนหน้า !

หลังจากทำตลาดมาได้ระยะหนึ่ง Mazda 3 ก็ใกล้จะได้เวลาเปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุดของสายพันธุ์ หากนับกันเฉพาะชื่อ Mazda 3 จะถือเป็นทายาทลำดับที่ 3 แต่หากนับย้อนไปถึงต้นกำเนิดกับรหัส 323 จะถือว่า Mazda 3 รุ่นล่าสุดเป็นทายาทลำดับที่ 7 เลยทีเดียว ก่อนที่จะถึงกำหนดเปิดตัว ทาง Mazda ของบ้านเราเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับกันล่วงหน้า ทีมงานของเราจึงได้รายละเอียดหลายอย่างของรถรุ่นนี้
มิติตัวถังของ Mazda 3 รุ่นใหม่ มีดังนี้ ตัวถังแฮทช์แบค ความยาว 4,460 มม. (ลดลงจากรุ่นก่อนหน้านี้ 10 มม.) กว้าง 1,795 มม. (เท่ากับรุ่นก่อนหน้านี้) สูง 1,435 มม. (ลดลงจากรุ่นก่อนหน้านี้ที่รวมเสาอากาศแบบครีบฉลาม 30 มม.) ระยะฐานล้อ 2,725 มม. (มากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 25 มม.) ระยะต่ำสุดจากพื้นเมื่อรวมคนขับที่มีน้ำหนัก 75 กก. คือ 135 มม. (ลดลงจากรุ่นก่อนหน้านี้ 20 มม.)
ส่วนตัวถังซีดาน ความยาว 4,660 มม. (มากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 80 มม.) กว้าง 1,795 มม. (เท่ากับรุ่นก่อนหน้านี้) สูง 1,440 มม. (ลดลงรุ่นก่อนหน้านี้ที่รวมเสาอากาศแบบครีบฉลาม 10 มม.) ระยะฐานล้อ 2,725 มม. (มากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 25 มม.) ระยะต่ำสุดจากพื้นเมื่อรวมคนขับที่มีน้ำหนัก 75 กก. คือ 135 มม. (ลดลงจากรุ่นก่อนหน้านี้ 20 มม.)
จากการขึ้นไปลองนั่งเบาะแถวที่ 2 เราพบว่า Mazda 3 ตัวถังแฮทช์แบค จะเน้นความกระชับแน่นกว่าตัวถังซีดาน ระยะเหนือศีรษะของผู้โดยสาร (ความสูง 170 ซม.) จนถึงเพดานมีประมาณ 1 กำปั้น ขณะที่ของตัวถังซีดานจะมีระยะเหนือศีรษะที่ 1 กำปั้นครึ่ง เนื่องจากแนวหลังคาที่ลาดเทแตกต่างกันตามรูปแบบตัวถัง รวมถึงความยาวของตัวรถโดยรวม (แม้ระยะฐานล้อจะเท่ากัน) ขณะที่ความเงียบของห้องโดยสารทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน เราพิสูจน์จากการแล่นในสนามทดสอบ ทำให้ Mazda 3 รุ่นนี้ มีความสะดวสบายในแบบฉบับของรถหรูมากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ทางสื่อมวลชนมีการสอบถามถึงการใช้เครื่องยนต์รูปแบบใหม่ Skyactiv-X ทางผู้ผลิตกล่าวว่า เครื่องยนต์บลอคปัจจุบันมีประสิทธิภาพที่น่าพอใจดีอยู่แล้ว ทั้งในแง่ของอัตราเร่ง และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง การใช้เครื่องยนต์บลอคเดิมจึงรองรับการใช้งานได้อย่างเหมาะสม ส่วนเครื่องยนต์ Skyactiv-X ยังไม่มีกำหนดการนำมาใช้งานในระยะเวลาอันใกล้
จุดเด่นดังกล่าวเราพิสูจน์ในสนามทดสอบที่มีโค้งต่อเนื่อง ขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วที่เหมาะสม อาการโคลงของตัวรถมีไม่มากนัก ผู้ขับรู้สึกมั่นคง ไม่เอนไปตามแรงเหวี่ยงขณะเข้าโค้ง นับเป็นการปรับแต่งระบบรองรับได้ลงตัวอย่างน่าพอใจ ไม่ใช่แค่ความนุ่มนวลเท่านั้น แต่เป็นการตอบสนองที่ยืดหยุ่นอย่างเหมาะสม รวมถึงการเลี้ยวต่อเนื่องแบบสลาลอม แม้เราจะลองใช้ความเร็วเกินกว่าที่ทางผู้จัดกำหนดเอาไว้ ตัวรถของ Mazda 3 ยังรับได้สบายมาก
อย่างไรก็ตาม จุดสงสัยของใครหลายคน รวมถึงบรรดาสื่อมวลชนที่ไปทดลองขับ Mazda 3 นั่นคือ การที่ทาง Mazda ตัดสินใจใช้ระบบรองรับด้านหลังแบบ ทอร์ชันบีม ซึ่งตามปกติแล้วรถยนต์ระดับ ซี-เซกเมนท์ จะใช้ระบบรองรับแบบอิสระ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาพิสูจน์ให้เห็นว่า การตอบสนองของระบบรองรับทำได้ดีกว่า Mazda 3 รุ่นก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ นอกจากนี้ระบบรองรับแบบทอร์ชันบีมของรถรุ่นนี้มีความแน่นหนา และยืดหยุ่นได้ดีในเวลาเดียวกัน ผนวกกับการทำงานร่วมกับระบบ G-Vectoring Plus แปรผันการส่งกำลังขณะเข้าโค้งได้ดียิ่งขึ้น สามารถเข้าโค้งที่ความเร็วต่ำได้อย่างมั่นคง
ข้อมูลเพิ่มเติม: Mazda Thailand 

