เปิดตัวแล้ว Toyota Camry รุ่นใหม่ล่าสุด กับ 4 รุ่น HV Premium, HV, 2.5G และ 2.0G มาดูรายละเอียด พร้อมเทียบสเปคกับรุ่นก่อนหน้านี้

https://youtu.be/j-T7bA_7kpU  

Toyota Camry ถูกเปิดตัวในบ้านเราเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2536 โดยเป็นรุ่นที่ 3 ในตลาดโลกขณะนั้น เมื่อได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้สนใจ Camry รุ่นที่ 4 จึงถูกนำมาจำหน่ายแบบประกอบในประเทศเต็มตัวในปี 2542 ขณะที่รุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว เป็นรุ่นที่ 6 ถือเป็นซีดานขนาดกลางที่ทำตลาดอย่างต่อเนื่องในบ้านเรามาหลายปี

    รูปทรงของ Toyota Camry รุ่นล่าสุด ผสมผสานความสปอร์ท เห็นได้จากส่วนหน้าของตัวรถที่โฉบเฉี่ยว สันเหลี่ยมบนกันชนหน้าขนาดใหญ่ ไฟหน้าทรงเรียว รับกับกระจังหน้าที่โดดเด่น     ห้องโดยสารเน้นความภูมิฐาน คอนโซลหน้าออกแบบให้มีพื้นที่ต่อเนื่องกัน แลดูโอ่อ่า ห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังแท้ บางรุ่นจะตกแต่งด้วยลายไม้ มีโทนสีให้เลือก คือ สีเบจ และสีดำ     Camry รุ่นนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาภายใต้แนวคิด TNGA (Toyota New Global Architecture) ผสานจุดเด่นหลายประการเอาไว้ด้วยกัน ทั้งสมรรถนะของเครื่องยนต์ ความแข็งแรงของโครงสร้างตัวถัง ระบบรองรับ และการบังคับควบคุมที่ลงตัว ภายใต้ทัศนวิสัยที่เหมาะสม     เริ่มด้วยขุมพลังของแต่ละรุ่น ในรุ่น HV Premium และ HV ใช้ขุมพลังไฮบริดบลอคใหม่ ประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร (รหัส A25A-FXS) กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 5,700 รตน. แรงบิดสูงสุด 22.5 กก.-ม. ที่ 3,600-5,200 รตน. ส่งกำลังร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 20.4 กก.-ม. กำลังสูงสุดทั้งระบบ คือ 211 แรงม้า แบทเตอรีแบบนิคเคิล เมทัล ไฮดไรด์ (รับประกันนาน 10 ปี ส่วนระบบไฮบริดรับประกันนาน 5 ปี) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแปรผัน E-CVT อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย (จาก Ecosticker) อยู่ที่ 25 กม./ลิตร   เทียบกับรุ่นก่อนหน้า : ระบบไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร (รหัส 2AR-FXE) กำลังสูงสุด 160 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 143 แรงม้า กำลังสูงสุดทั้งระบบ 205 แรงม้า     ในรุ่น 2.5G เป็นเครื่องยนต์บลอคใหม่เช่นกัน เบนซิน 2.5 ลิตร (รหัส A25A-FKB) กำลังสูงสุด 209 แรงม้า ที่ 6,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. ที่ 5,000 รตน. เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ (บลอคใหม่) รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย (จาก Ecosticker) คือ 15.6 กม./ลิตร   เทียบกับรุ่นก่อนหน้า : เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร (รหัส 2AR-FE) กำลังสูงสุด 181 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ     สุดท้าย คือ รุ่น 2.0G เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร (รหัส 6AR-FBS) พัฒนาต่อยอดจากบลอคเดิม กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 6,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 20.3 กก.-ม. ที่ 4,600 รตน. เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย (จาก Ecosticker) คือ 15.6 กม./ลิตร เท่ากับรุ่น 2.5G ซะงั้น   เทียบกับรุ่นก่อนหน้า : เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร (รหัส 6AR-FSE) กำลังสูงสุด 167 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ     มิติตัวถังของทุกรุ่นย่อย คือ ความยาว 4,885 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,445 มม. และระยะฐานล้อ 2,825 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าจะพบว่า Camry รุ่นล่าสุด มีมิติตัวถังใหญ่กว่าเดิมเกือบทุกสัดส่วน จะยกเว้นก็เพียงความสูงที่ลดลงมาเล็กน้อย (มิติตัวถังของ Camry รุ่นก่อนหน้า คือ 4,850/1,825/1,470/2,775 มม. ตามลำดับ)     ในงานเปิดตัว Toyota Camry รุ่นล่าสุด เราพบว่า แต่ละรุ่นย่อยมีรูปทรงโดยรวมที่ใกล้เคียงกันมาก มีความแตกต่างกันในรายละเอียด เช่น รุ่น HV Premium และ HV จะมีโลโก Toyota ด้านหน้า ตัดขอบสีฟ้า บ่งบอกการเป็นรถยนต์ขุมพลังไฮบริด ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบแอลอีดี จะเป็นแบบริ้ว 3 แถบ ล้อแมกขนาด 17 นิ้ว เฉพาะรุ่น HV Premium ติดตั้งหลังคาซันรูฟมาให้ ส่วนรุ่น 2.5G เน้นมาดสปอร์ทกว่ารุ่นอื่น จุดเด่น คือ ล้อแมกขนาด 18 นิ้ว ท่อไอเสียคู่ ติดตั้งหลังคาซันรูฟ ขณะที่รุ่น 2.0G เน้นความเรียบง่าย แต่เส้นสายโดยรวมยังใกล้เคียงกับรุ่นอื่นๆ ล้อแมกขนาด 16 นิ้ว แต่ใครที่อยากได้มาดสปอร์ทเต็มๆ ยังมีทางเลือกเป็นชุดแต่งของ TRD Sportivo เสริมสเกิร์ทรอบคัน พร้อมสปอยเลอร์ท้าย และล้อแมกขนาด 18 นิ้ว     มาถึงภายในห้องโดยสาร Camry รุ่นนี้ ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้านความหรูหรา ภูมิฐาน เอาไว้ได้เป็นอย่างดี คอนโซลหน้าออกแบบเป็นแนวโค้ง ตัดขอบทางฝั่งขวา เน้นความพลิ้วไหว พื้นที่ใช้งานจะอยู่ในบริเวณเดียวกัน ไม่ได้แยกส่วนเหมือนรถรุ่นอื่นๆ ทุกรุ่นตกแต่งด้วยลายไม้บริเวณคอนโซลเกียร์ (ยกเว้นรุ่น 2.0G) พร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่     อุปกรณ์สำหรับความสะดวกสบาย ในรุ่น HV Premium ติดตั้งระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้าในเบาะคู่หน้า (ขณะที่รุ่นย่อยอื่นๆ จะมีแต่เบาะคนขับ) ระบบระบายความร้อนเบาะคู่หน้า รวมถึงพนักแขนของเบาะหลังมีปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ และการปรับเอนเบาะหลัง แบบดิจิทอล รวมถึงระบบกรองอากาศในห้องโดยสาร Nanoe     อุปกรณ์ที่มีติดตั้งมาให้ทุกรุ่นย่อย คือ ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ แพดเดิล ชิฟท์ หลังพวงมาลัย พวงมาลัยปรับทิศทางด้วยไฟฟ้า รวมถึงระบบบันทึกตำแหน่งของเบาะนั่ง กระจกมองข้าง และพวงมาลัย พร้อมที่ชาร์จมือถือแบบไร้สาย ถือว่าให้มาครบครันอย่างทั่วถึงเลยทีเดียว     ส่วนระบบเครื่องเสียง และการแสดงผล รุ่นทอพ HV Premium ใช้หน้าจอขนาด 8 นิ้ว เครื่องเล่น DVD และเนวิเกเตอร์ พร้อมลำโพงของ JBL จำนวน 9 ตัว ขณะที่รุ่นอื่นๆ จะใช้จอภาพขนาด 7 นิ้ว และเครื่องเล่น DVD ลำโพง 6 ตัว ส่วนระบบเชื่อมต่อ T-Connect Telematics มีติดตั้งในรุ่น HV Premium และ HV และตรงกลางมาตรวัด ติดตั้งจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว (ยกเว้นรุ่น 2.0G มีขนาด 4.2 นิ้ว)     ระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งทุกรุ่นย่อย คือ ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 ตำแหน่ง (ยกเว้นรุ่นทอพ HV Premium เพิ่มถุงลมนิรภัยที่ด้านข้างของเบาะหลัง) ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง ระบบเตือนจุดอับสายตาด้านข้าง กล้องมองภาพด้านหลัง ระบบเตือนขณะถอยรถ ระบบครูสคอนทโรล (ในรุ่นทอพ HV Premium สามารถแปรผันตามความเร็วของรถคันหน้าได้) ถือว่าครบครันอย่างน่าพอใจ มีติดตั้งอย่างทั่วถึงในแต่ละรุ่นย่อย     ระบบความปลอดภัยที่มีติดตั้งเฉพาะรุ่นทอพ HV Premium คือ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ-แปรผันการส่องสว่างเมื่อมีรถอยู่ข้างหน้า หรือมีรถแล่นในเลนสวน (AHB) ระบบเตือนและเบรคอัตโนมัติ เมื่อตรวจพบการเข้าใกล้รถคันหน้าเสี่ยงต่อการปะทะ (PCS) และระบบเตือนการออกนอกเลนโดยไม่เจตนา พร้อมควบคุมพวงมาลัย (LKA)     Toyota Camry

• รุ่น HV Premium ราคา 1,799,000 บาท (รุ่นก่อนหน้า 1,863,000 บาท)
• รุ่น HV ราคา 1,639,000 บาท (รุ่นก่อนหน้า 1,673,000 บาท)
• รุ่น 2.5G ราคา 1,589,000 บาท (รุ่นก่อนหน้า 1,569,000 บาท)
• รุ่น 2.0G ราคา 1,445,000 บาท (รุ่นก่อนหน้า Extremo 1,525,000 บาท)

    จัดจำหน่ายโดย : Toyota Motor Thailand Co., Ltd.