ทดลองขับ Porsche Cayenne E-Hybrid เอสยูวีพลังสปอร์ท ขับสนุก ปรับราคาเริ่มต้น โดนใจกว่าเดิม !

  Porsche Cayenne เอสยูวีผสมสายพันธุ์สปอร์ท เปิดตัวไปบ้านเราก่อนหน้านี้กับทางเลือกเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล ล่าสุดเปิดตัวกับรุ่นขุมพลังไฮบริด กับราคาเริ่มต้นที่ 6,300,000 บาท ! (อัพเดทล่าสุด) แม้จะเป็นราคาเริ่มต้น แต่ตัวรถก็จัดเต็มในแง่ของพละกำลัง และความหรูหรา สมชื่อชั้น Porsche ทางผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ นั่นคือ AAS Auto Service Co., Ltd. ไม่รอช้า จัดการทดสอบสมรรถนะกันสั้นๆ แต่ได้ใจความเน้นๆ ที่สนามปทุมธานี สปีดเวย์    

• ภายนอก : รูปทรงคุ้นเคย เฉียบคมขึ้น

Porsche Cayenne ยังยึดแนวทางการออกแบบเอสยูวีประจำค่ายเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ข้อดี คือ การรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมของ Porsche เอาไว้ เห็นได้จากชุดไฟหน้า เสริมด้วยไฟแบบแอลอีดี ฝากระโปรงหน้า สันเหลี่ยมโดยรวม ตลอดจนซุ้มล้อขนาดใหญ่ตามสไตล์ตัวลุย เห็นผ่านๆ ก็รับรู้ได้ทันทีว่า นี่คือ Cayenne จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญ คือ รูปทรงของส่วนท้ายที่ใช้ชุดไฟทรงเรียว แนวขวาง ตลอดช่วงความกว้างของตัวรถ ให้ความรู้สึกคล้ายกับ  911 Carrera รวมถึงสปอร์ทซีดานอย่าง Panamera ทำให้ตัวรถมีความสปอร์ทกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ขณะที่รุ่นพื้นฐานใช้ล้อแมกขนาด 19 นิ้ว (ยางคู่หน้า 255/55 ZR19 คู่หลัง 275/50 ZR19) ลวดลายดูเรียบง่าย แต่เชื่อว่าหลายคนคงยอมจ่ายเงินเพิ่มสำหรับล้อแมกขนาด 21-22 นิ้ว พร้อมลวดลายที่ดุดันกว่านี้    

• เครื่องยนต์ : แรงเหลือเฟือ ตอบสนองไว แฝงความประหยัด

แม้เป็นขุมพลังไฮบริด แต่ Cayenne รุ่นนี้ก็มีสมรรถนะในระดับที่เร้าใจ ! มาดูสเปคเบื้องต้นกันก่อน เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 340 แรงม้า เสริมการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 136 แรงม้า คิดเป็นกำลังทั้งระบบที่ 462 แรงม้า เลยทีเดียว กับแรงบิดสูงสุดที่ 71.4 กก-ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ     การทดสอบเริ่มต้นด้วยการกดคันเร่งสุดในช่วงทางตรง เราพบว่า Cayenne E-Hybrid ตอบสนองได้ฉับไว สมกับแรงบิดที่ส่งออกมาตั้งแต่ออกตัวด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อมองจากภายนอกจะเห็นได้ว่า หน้ารถมีอาการเชิดขึ้น จากแรงดึงเน้นๆ ของอัตราเร่งตั้งแต่ช่วงออกตัว ขณะที่ในส่วนถัดมาเป็นการขับไปตามสนามแข่งปทุมธานี สปีดเวย์ การออกตัวจากโค้งทำได้ฉับไว แม้ในความเป็นจริงน้ำหนักตัวรถจะค่อนข้างมากตามสไตล์เอสยูวี แต่พละกำลังที่เหลือเฟือ ทำให้อัตราเร่งทำได้เร้าใจ สมกับการเป็นยานยนต์จากค่ายสปอร์ทระดับตำนานอย่าง Porsche อัตราเร่งที่ทางผู้ผลิตระบุไว้ 0-100 กม./ชม. ใน 5.0 วินาที บ่งบอกระดับความร้อนแรงของขุมพลังใน Cayenne E-Hybrid ได้เป็นอย่างดี     นอกจากความแรงแล้ว ขุมพลัง E-Hybrid คือระบบไฮบริดแบบ พลัก-อิน สามารถชาร์จไฟฟ้าจากครัวเรือนใช้เวลา 8 ชม. และการชาร์จแบบพิเศษใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงกว่าๆ และแล่นด้วยไฟฟ้าล้วนได้ถึง 44 กม. รองรับความเร็วได้ถึง 135 กม./ชม. (ภายใต้การขับขี่ที่เหมาะสม) เมื่อขับเคลื่อนร่วมกับเครื่องยนต์สันดาป จะมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 29.4-31.2 กม./ลิตร ส่วนอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า คือ 20.6-20.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง จัดเป็นคุณสมบัติด้านความประหยัดที่น่าพอใจมาก ควบคู่กับความแรงใกล้เคียงรถสปอร์ท    

• ระบบรองรับ : ความหนึบที่ปรับได้ ขับสนุกในโหมดสปอร์ท

นอกจากเรื่องสมรรถนะแล้ว Cayenne E-Hybrid ยังมีความโดดเด่นในแง่ของระบบรองรับ ช่วงล่างใช้พื้นฐานจากระบบถุงลม ถูกออกแบบให้สามารถกักลมได้มากขึ้น ตอบสนองได้หลากหลาย ทั้งในแง่ของความหนึบแน่น และระดับความสูงของระบบรองรับ ในการทดลองขับ ผู้ฝึกสอนได้ปรับได้ระบบรองรับเน้นความหนึบแน่น (กดปุ่มปรับได้บริเวณด้านล่างฝั่งซ้ายของคันเกียร์) และปรับโหมดขับเคลื่อนเป็นแบบสปอร์ท (ใช้งานผ่านปุ่มหมุนด้านในพวงมาลัย เป็นสไตล์ของ Porsche หลายคันในยุคปัจจุบัน) ภายใต้การควบคุมของ Porsche Traction Management และระบบ Porsche Active Suspension Management หรือ PASM     การเข้าโค้งในแต่ละช่วง ทั้งโค้งที่ใช้ความเร็วปานกลาง จนถึงโค้งหักมุมที่ความเร็วต่ำ พวงมาลัยตอบสนองได้ดังใจ หักเลี้ยวได้รวดเร็ว ตัวรถแทบไม่มีอาการโคลงมากนัก ภายใต้ตัวถังแบบเอสยูวี ผู้ขับเพียงใช้การมองแนวโค้งล่วงหน้าเล็กน้อย พร้อมกับการหักเลี้ยวตามสายตา ตัวรถสามารถเกาะโค้งได้เนียน มั่นคง ให้ความรู้สึกขับสนุก และมั่นใจได้ในเวลาเดียวกัน และอย่าลืมว่า นี่คือรุ่นพื้นฐานที่ใช้ล้อแมกขนาด 19 นิ้ว และแก้มยางค่อนข้างหนา หากใช้ล้อแมกขนาดใหญ่กว่านี้ พร้อมยางแก้มเตี้ยสไตล์สปอร์ท อรรถรสขณะเข้าโค้งจะเข้มข้นได้อีก    

• ภายใน : หรูหรา ล้ำสมัย สมเป็นเอสยูวีหรู

จุดเด่นในแง่ของสมรรถนะ และระบบรองรับของ Porsche Cayenne E-Hybrid ถือว่าจัดเต็มสมชื่อชั้นของค่ายรถ แต่นอกเหนือไปจากนี้ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกประการ นั่นคือ ภายในห้องโดยสาร กับการตกแต่งที่เน้นความหรูหรา ทันสมัย ใช้วัสดุที่สมราคา ปุ่มกดสำหรับการใช้งานบริเวณคอนโซลเกียร์เป็นระบบสัมผัส พร้อมระบบ Force Touch ที่จะส่งแรงสั่นสะเทือนเบาๆ เมื่อใช้งานปุ่มดังกล่าว ขณะที่การใช้งานบางอย่างเช่น การปรับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศ ยังเป็นปุ่มคันโยกแบบดั้งเดิม เพื่อความสะดวกของการใช้งาน คันเกียร์มีรูปทรงค่อนข้างสั้น ปุ่มกดสำหรับเปลี่ยนโหมดเกียร์จะซ่อนสายตาเล็กน้อย หากกำรอบคันเกียร์โดยธรรมชาติ จะอยู่บริเวณปลายนิ้วชี้ ขณะที่โหมด P จะเป็นการกดปุ่มด้านหน้าคันเกียร์     พวงมาลัยของ Cayenne E-Hybrid เป็นแบบทรงสปอร์ท คุ้นตากันดีจากรถยนต์ของ Porsche หลายรุ่น ปุ่มหมุนปรับโหมดการขับเคลื่อนถูกติดตั้งด้านในของพวงมาลัย ใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว ชุดมาตรวัดโดดเด่น แยกหลายวง หนึ่งในเอกลักษณ์ของ Porsche มาช้านาน ขณะที่ตรงกลางเป็นมาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบแอนาลอคดั้งเดิม นอกเหนือจากนั้นแล้วจะเป็นมาตรวัดแบบดิจิทอล ทรงกลม ปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้หลากหลาย รวมถึงการแสดงผลของระบบเนวิเกเตอร์ เบาะนั่งรองรับสรีระได้ดี แต่ไม่กระชับแน่นจนอึดอัดแต่อย่างใด ขณะที่เบาะด้านหลังมีพื้นที่กว้างขวาง นั่งได้สบาย พื้นที่ช่วงขาค่อนข้างมาก ตามสไตล์เอสยูวีหรู พนักพิงหลังปรับเอนได้เล็กน้อย สามารถพับเก็บได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ    

• สรุป : Porsche Cayenne ที่มีความลงตัวรอบด้าน

Porsche ยังคงเป็นค่ายรถที่สามารถรังสรรค์รถยนต์ได้หลากหลายสไตล์ รวมถึงเอสยูวีอย่าง Cayenne เสริมด้วยรหัส E-Hybrid กับระบบไฮบริดแบบ พลัก-อิน ที่ทันสมัย เป็นเทคโนโลยีร่วมกับสปอร์ทตัวธงอย่าง 918 Spyder ทำให้ Cayenne รุ่นนี้มีความหลากหลาย ทั้งในแง่ของสมรรถนะ และการประหยัดเชื้อเพลิงที่น่าพอใจ พร้อมความหรูหราสมชื่อชั้น กับราคาเริ่มต้นที่อัพเดทใหม่ล่าสุด คือ 6,300,000 บาท (พร้อมอุปกรณ์เลือกติดตั้งอีกมากมาย) เรียกได้ว่าการครอบครองรถยนต์คันนี้คันเดียว คือ การได้มาซึ่งจุดเด่นอันยอดเยี่ยมหลายประการเกือบครบเครื่อง !    

• จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการโดย AAS Auto Services Co., Ltd.