ธุรกิจ
เชฟโรเลต์ ตอบทุกโจทย์ผู้ใช้งานรถกระบะ

ลัทธพล อติชาดศรีสกุล เจ้าของ บริษัท ทรัพย์อนันต์บางใหญ่ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างในบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี รับรองถึงความทนทาน ความเที่ยงตรง และพลังของเครื่องยนต์ดูราแมกซ์ ถึงแม้จะผ่านการใช้งานอย่างหนักมาหลายปี เขายังคงสามารถใช้งาน เชฟโรเลต์ โคโลราโด เซด 71 รุ่นปี 2012 ที่มีเครื่องยนต์ดูราแมกซ์ ขนาด 2.8 ลิตร เพื่อขนย้ายเสาเข็มเหล็กที่มีน้ำหนักมากไปยังไซท์งานก่อสร้างได้ นอกจากนี้ รถยังสามารถลากจูงรถคันอื่นโดยใช้ข้อต่อได้เช่นกัน ซึ่งแสดงถึงสมรรถนะที่เหนือชั้นของรถกระบะและขุมพลังเครื่องยนต์
ลัทธพล กล่าวว่า “เครื่องยนต์ดูราแมกซ์ตอบสนองความต้องการของผมได้อย่างแท้จริง เพราะผมต้องบรรทุกของหนัก ดังนั้น ผมจึงต้องการเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังสูง ผมจึงประทับใจมากกับความทนทานและสมรรถนะของเครื่องยนต์ดูราแมกซ์”
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น โคโลราโด ใหม่ รุ่นปี 2019 สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 1,085 กิโลกรัม ซึ่งเปรียบเทียบได้กับน้ำหนักลูกช้างเอเชีย 10 ตัว และลากรถทเรเลอร์ที่มีระบบเบรคซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 3,500 กิโลกรัมได้ ซึ่งเป็นน้ำหนักเฉลี่ยของช้างเอเชีย
นราธิป โคตุดร ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายขนมหวานที่ตลาดสำโรงในกรุงเทพฯ เผยว่า “ผมรู้สึกประทับใจกับสมรรถนะของ โคโลราโด รุ่นปี 2012 จึงได้ตัดสินใจซื้อรถยนต์ เชฟโรเลต์ อีกคันหนึ่ง ซึ่งคือ โคโลราโด รุ่นปี 2017 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดูราแมกซ์ ขนาด 2.5 ลิตร เพื่อใช้ในการขนส่งขนมหวานที่มีความต้องการมากขึ้น ผมประทับใจเป็นพิเศษในการขับเคลื่อนรถกระบะ โคโลราโด ที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีแรงบิดในรอบเครื่องต่ำ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของเครื่องยนต์ดูราแมกซ์”
นราทิพย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "เครื่องยนต์ดูราแมกซ์ตอบสนองต่อความต้องการในชีวิตประจำวันของผมได้เป็นอย่างดี ผมคิดว่ารถยนต์ เชฟโรเลต์ โคโลราโด ใหม่ จะเป็นรถคันต่อไปที่ผมจะซื้อ เพราะผมต้องการขยายธุรกิจของผม และนำสินค้ามาขายเพิ่มมากขึ้น"


