ธุรกิจ
ไทยโพลิเอททีลีน เลือกโซลูชันจาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริคฯ ต่อยอดธุรกิจการผลิตแบบอัตโนมัติ

บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด เป็นบริษัทในเครือของ SCG เป็นบริษัทที่ผลิตเม็ดพลาสติคโพลีเอธิลีน ได้รับการรับรอง ISO 9001, ISO 14001, TIS/OHSAS 18001 ก่อตั้งเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2526 ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล มาบตาพุด อ. เมืองระยอง จ. ระยอง ปัจจุบันมีโรงงานผลิตเม็ดพลาสติคจำนวน 9 โรงงาน ด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อป้อนให้กับผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วประเทศและส่งออกต่างประเทศ เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องใช้โพลิเอททีลีน เป็นวัสดุสำคัญในการผลิตบรรจุภัณฑ์ ในการป้องกันความชื้นจากภายนอก ช่วยผนึกให้กล่องแน่นสนิท ช่วยป้องกันการรั่วซึมของของเหลว
ฤกษ์ กาญจโนปถัมป์ ผู้จัดการส่วนผลิต LDPE บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด เผยว่า “เรามีเป้าหมายในการเพิ่มอัตราการผลิตเม็ดพลาสติคให้สูงขึ้นจากปีที่แล้ว เพื่อให้เพียงพอกับอัตราการเติบโตของตลาด และเพิ่มสัดส่วนในการผลิตเม็ดพลาสติคที่เป็น HVA หรือ High Value Added Product and Service ให้มากขึ้น โดยการเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตที่พิเศษ รวมถึงการเปลี่ยนมาใช้พแลทฟอร์ม EcoStruxure™ Plant (อีโคสตรัคเจอร์ พแลนท์) ของชไนเดอร์ อิเล็คทริคฯ เพื่อมาช่วยควบคุมกระบวนการผลิตของโรงงานแบบอัตโนมัติ”
ความท้าทายในการจัดการกระบวนการผลิต
การเพิ่มยอดการผลิตเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมากในกระบวนการอุตสาหกรรม เพราะระบบได้ถูกกำหนดเอาไว้หมดแล้ว ดังนั้นทาง ไทยโพลิเอททีลีนฯ จึงขยายโรงงานและนำเทคโนโลยี EcoStruxure™ Plant เข้ามาควบคุมกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของโรงงานที่อาจจะมีผลกระทบต่อทั้งการผลิตและการทำงานของพนักงานในการเปิดรับระบบใหม่ แต่ผลลัพธ์ คือ โซลูชันของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริคฯ กลับช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น พนักงาน เจ้าหน้าที่ที่ดูแลสามารถเรียนรู้และเข้าใจระบบได้ดีกว่าระบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือในการใช้งาน กราฟิคที่เข้าใจง่าย ควบคุม และติดตามง่าย
โซลูชันบริหารจัดการกระบวนการผลิต
ทั้งนี้ ไทยโพลิเอททีลีนฯ ใช้ EcoStruxure Plant ในการควบคุมกระบวนการผลิตแบบอัตโนมัติทั้งกระบวนการดำเนินงาน ตอบโจทย์ยุค IIoT ตั้งแต่การป้อนวัตถุดิบ การควบคุมการผลิต การแก้ไขปัญหา การแจ้งเตือน ในแบบอัตโนมัติ ด้วยรูปแบบที่ใช้งานง่าย สามารถมอนิเตอร์และควบคุมจากศูนย์ควบคุมกลางเพียงแห่งเดียว พร้อมสามารถติดตามควบคุมระบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา ช่วยตรวจจับกระบวนการผลิตต่างๆ ที่ผิดปกติ เช่น แรงดัน และทราบข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดของกระบวนการผลิต ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง รวมทั้งสถานะของทั้งกระบวนการ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถประมวลผลเพื่อการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ และเมื่อเกิดปัญหา โซลูชันของชไนเดอร์ อิเล็คทริคฯ จะเข้าไปแก้ปัญหาได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงประหยัดเวลาในการทำรายงานให้กับผู้บริหารระดับสูงได้ในรูปแบบเชิงลึก โดยโซลูชันที่ทาง ไทยโพลิเอททีลีนฯ เลือกจาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริคฯ มาใช้ในการควบคุมกระบวนการผลิต ได้แก่
โครงการในอนาคต
นอกจากนี้ ไทยโพลิเอททีลีนฯ ตั้งเป้าหมายโครงการต่อเนื่องในการพัฒนากระบวนการผลิตให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น และเดินหน้าตอบโจทย์นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ให้ได้ครอบคลุมที่สุด นายฤกษ์ กล่าวต่อว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมไปในทิศทางของไทยแลนด์ 4.0 ให้ได้ จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาช่วยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้น การนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการพัฒนากระบวนการผลิตของ ไทยโพลิเอททีลีนฯ ให้มีประสิทธิภาพเพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจของประเทศเป็นที่สิ่งเราคิดไว้อยู่เสมอ”
“การที่ ไทยโพลิเอททีลีนฯ เลือกใช้บริการและโซลูชันจาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริคฯ เพราะว่าทาง ชไนเดอร์ อิเล็คทริคฯ เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านระบบควบคุมอัตโนมัติ และการจัดการพลังงานระดับแถวหน้าของโลก ทำให้เรามั่นใจในระยะยาวว่า โซลูชันจาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริคฯ นี้จะช่วยให้สามารถดำเนินการผลิตได้อย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงจากการชัทดาวน์ของระบบ และใช้งานง่าย ให้ความพร้อมในการควบคุม มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน” ฤกษ์ กล่าวทิ้งท้าย 

