ธุรกิจ
มาเซราตี เร่งเครื่องรุกตลาด ทุ่ม 150 ล้านบาท เนรมิตโชว์รูมกลางกรุง

ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราตี ประเทศไทย ในนาม บริษัท ดีไซน์ มอเตอร์เวอร์ค จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอมจีซี-เอเชีย (MGC–ASIA) เปิดเผยถึงแนวนโยบายและทิศทางในการดำเนินธุรกิจ มาเซราติี ซึ่งเป็นยนตรกรรมใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในกลุ่มฯ ว่า เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพในการเป็นผู้นำธุรกิจสินค้าระดับพรีเมียมลักชัวรี เซกเมนท์ และรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคตนั้น ล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงทุนก่อสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานเพื่อรองรับลูกค้า มาเซราตี ย่านใจกลางธุรกิจ ณ เอ-สแควร์ บริเวณซอยสุขุมวิท 26 โดยใช้งบประมาณ 150 ล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในงานมหกรรมยานยนต์ ช่วงปลายปีนี้
“เป้าหมายของ มาเซราตี ตั้งใจจะเพิ่มยอดจองในปี 2018 เป็น 100 % ของยอดจองในปีนี้ ผลการตอบรับ นับตั้งแต่เปิดดำเนินการ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการรับรู้ในบแรนด์ของลูกค้า และปริมาณลูกค้าที่จองรถ และ เยี่ยมชมโชว์รูมที่เพิ่มมากขึ้น“
สำหรับโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการมาตรฐานสากลแห่งนี้ บริษัทได้ลงทุนไปราว 150 ล้านบาท แนวคิดในการออกแบบโชว์รูม เน้นความหรูหรา และผสมผสานวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งหลากหลายรูปแบบ เพื่อทำให้โชว์รูมให้ความรู้สึกอบอุ่น และมีสไตล์ในแบบอิตาเลียน พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์ อะไหล่ และเครื่องมือที่ทันสมัยตลอดจนบุคลากรที่มีประสบการณ์และได้ผ่านการฝึกอบรมจาก มาเซราติี ประเทศอิตาลี นอกเหนือจากนั้น เพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ด้วยการมอบพโรแกรมการรับประกัน และฟรีค่าบำรุงรักษา (Warranty & Free Maintenance) ตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
“พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้เตรียมจัดกิจกรรมให้กลุ่มลูกค้าได้สัมผัสสมรรถนะ และเอกลักษณ์เฉพาะของบแรนด์ มาเซราตี อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการมีรสนิยมที่โดดเด่น ซึ่ง มาเซราตี เป็นบแรนด์ที่มีการผสมผสานระหว่างความหรูหรา และสมรรถนะในระดับซูเพอร์คาร์ (Luxury & Performance) ได้อย่างกลมกลืน และการนำเข้ารถทุกรุ่นมาเปิดตัวในประเทศไทยครั้งนี้จะเป็นการขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งนี่คือย่างก้าวครั้งสำคัญของบแรนด์ มาเซราตี ในประเทศไทย โดยทั้งหมดนี้เพื่อให้สอดรับกับการปรับกลยุทธ์ในระดับโลก (Global Strategy) ของ มาเซราตี อันมีเป้าหมายเพื่อให้มีความโดดเด่นเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย รวมทั้งในประเทศไทย มั่นใจว่าภาพรวมตลาดของรถประเภทนี้จะมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในแต่ละบแรนด์ที่อยู่ในเซกเมนท์นี้ได้มีการเปิดตัวสินค้าใหม่แทบทุกบแรนด์ ซึ่งจะกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อรถใหม่เพิ่มมากขึ้น บวกกับกำลังซื้อในตลาดรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น จะเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดพรีเมียมลักชัวรีนี้“
ปิยะเทพ กล่าวต่อไปว่าในงานมหกรรมยานยนต์ ช่วงปลายปีนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมนำ มาเซราตี เลวันเต เอส (Maserati Levante S) เข้ามาเสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ โดย เลวันเต เอส มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน วี 6 ขนาด 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงถึง 430 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 5.2 วินาที ซึ่งจะทำให้ผู้ขับได้รับความรู้สึกที่แตกต่างจากการขับขี่รถสไตล์เอสยูวี นอกจากเครื่องยนต์สมรรถนะสูงแล้ว มาเซราตี ยังมีเสียงของเครื่องยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้รับการพัฒนาตัวถังภายนอกที่ให้ความโฉบเฉี่ยว หรูหรา สง่างาม ในมาดสปอร์ทดุดัน ตามแบบฉบับของรถเอสยูวี อันแสดงถึงผลงานการออกแบบรถอเนกประสงค์สไตล์อิตาเลียนอย่างแท้จริง อาทิ กระจังโครเมียมรมดำพร้อมตราสัญลักษณ์อันโดดเด่นของ มาเซราตี อย่างลงตัว, กรอบไฟหน้าดีไซจ์นเฉียบคม พร้อมไฟตัดหมอก, ซุ้มล้อหน้าเสริมช่องระบายความร้อน, ประตูแบบไร้กรอบ, ดิฟฟิวเซอร์ท้ายมาพร้อมกับท่อไอเสียคู่ , โลโกบนเสาหลังคาท้ายรถ ซึ่งมาพร้อมการดีไซจ์นประตูด้านหลังให้มีขนาดเล็กลง, เพิ่มความปราดเปรียว และลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (CD) ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ ค่า CD มีเพียง 0.31 ซึ่งถือว่าดีที่สุดในรถยนต์ประเภทเอสยูวี ซึ่งรูปลักษณ์ทั้งหมดนี้สะท้อนความเป็น "บุคลิกยนตรกรรมรถอเนกประสงค์แบบอิตาเลียนขนานแท้ " อย่างประณีตบรรจง
9 พันธกิจที่ มาเซราตี ประเทศไทย ให้คำมั่นต่อลูกค้า มาเซราตี


