HONDA CR-V (ฮอนดา ซีอาร์-วี) เจเนอเรชันที่ 6 ติดตั้งขุมพลังไฮบริด E:HEV และขุมพลังเบนซินเทอร์โบ VTEC TURBO โดยมีทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (REAL TIME AWD WITH E-DPS) ให้เลือกใช้ พร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูง HONDA SENSING ในทุกรุ่นย่อย
กระจังหน้าสีดำ ไฟส่องสว่างรอบคันแบบ LED กันชนหน้า/หลัง และชายกันกระแทกด้านข้างสีดำ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีเดียวกับตัวรถ หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (PANORAMIC SUNROOF) ฝากระโปรงท้ายเปิด/ปิดไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยาง 235/60 R18
ห้องโดยสารเรียบง่าย พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง พร้อมไฟ AMBIENT LIGHT อาทิ แผงประตูหน้า และหลัง และที่วางแก้ว เบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำของฝั่งผู้ขับขี่ จอ TFT แสดงผลการขับขี่ขนาด 10.2 นิ้ว พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (PADDLE SHIFT) เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ APPLE CAR PLAY แบบไร้สาย และ ANDROID AUTO
เฉพาะรุ่น EL 4WD เบาะโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง มาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถว 2 ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 สามารถปรับพับเบาะทั้งแถวที่ 2 และ 3 ลงแนวราบ (UTILITY MODE) เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้า และด้านหลัง ทั้งแถวที่ 2 และ 3 (LONG MODE) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร DIRECT INJECTION DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่รองรับน้ำมัน E85 ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ ด้วยกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. เกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 14.3 กม./ลิตร (รุ่น E) ซึ่งรุ่น EL 4WD ที่มีน้ำหนักตัว 1,749 กก. ทำได้น้อยกว่า
รุ่น EL 4WD มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ REAL TIME AWD ควบคุมด้วย E-DPS (ELECTRIC DUAL PUMP SYSTEM)
การทดลองขับครั้งนี้ใช้เส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปภูทับเบิก จ. เพชรบูรณ์ ซึ่งมีทั้งทางเรียบ ทางชัน ทางคดเคี้ยวขึ้น/ลงเขา ระบบรองรับให้ความรู้สึกนุ่มนวลในช่วงความเร็วต่ำ และสามารถซึมซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนได้ดี ยึดเกาะแม้เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง การขับขี่ และการบังคับพวงมาลัยง่ายในขณะเข้าโค้ง โดยใช้วิธีแบ่งการขับเคลื่อนเป็น 50:50 ซึ่งเหมาะสมกับการเข้าโค้ง แต่สามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนการแบ่งการขับเคลื่อนได้ถึง 60:40 ตามลักษณะการขับขี่ต่างๆ เพื่อให้ได้ทั้งสมรรถนะในการลุยบนถนนที่ขรุขระ และสมรรถนะการเข้าโค้งควบคู่กัน
มีการเพิ่มแรงขับเคลื่อนล้อหลังในทุกช่วงความเร็ว ทำให้ได้สมรรถนะการขับขี่ที่ให้ความมั่นใจในระดับสูง กล่าวคือ ในช่วงความเร็วต่ำจะให้การออกตัวที่ดีขึ้นมากแม้ขับขี่บนทางลาดชัน ในช่วงความเร็วปานกลาง บนถนนเปียก จะให้สมรรถนะการเร่งความเร็วที่ดีขึ้นมาก และในช่วงความเร็วสูง จะให้การทรงตัวที่ดีขึ้น
มั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย และเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ ทั้งระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรค ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ ระบบเตือน และช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ มาใหม่กับระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
HONDA CR-V เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ นอกจากแบบ 7 ที่นั่ง รุ่น EL 4WD ราคา 1,649,000 บาท ที่ทดลองขับครั้งนี้ ก็ยังมีแบบ 5 ที่นั่ง ให้เลือกอีก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น ES 4WD ราคา 1,599,000 บาท ถูกกว่า 50,000 บาท และรุ่น E ราคา 1,419,000 บาท ที่ต่างกับรุ่น ES 4WD อยู่ 180,000 บาท ซึ่งตัดไปหลายรายการ รวมทั้งระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และ HONDA CONNECT