บทความ
รถยนต์ไฮบริดยอดนิยม 2025 ราคาไม่เกิน 1 ล้าน !
ในยุคที่ราคาน้ำมันผันผวน และเทรนด์รักษ์โลกมาแรง “รถไฮบริด” จึงกลายเป็นตัวเลือกที่หลายคนสนใจ โดยเฉพาะในปี 2025 ที่หลายแบรนด์เปิดตัวรุ่นใหม่ในราคาเข้าถึงง่าย วันนี้เรารวบรวม รถไฮบริดราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ที่น่าจับตามองที่สุดมาให้คุณแล้ว
เหตุผลที่ควรเลือก “รถไฮบริด”
- ประหยัดน้ำมันมากกว่ารถยนต์เบนซินทั่วไป
- ปล่อยมลพิษต่ำ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- สิทธิพิเศษด้านภาษี และจดทะเบียนรถไฮบริด
คำแนะนำในการเลือกซื้อ
- ตรวจสอบ “อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย”
- เปรียบเทียบ “ระยะรับประกันแบทเตอรี่”
- พิจารณาค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาระยะยาว
รุ่นรถไฮบริดที่น่าสนใจในปี 2025 (ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท)
Toyota Yaris Ativ HEV 2025 (ราคา 719,000 บาท)
สิ้นสุดการรอคอยกับ New Toyota Yaris Ativ HEV ที่มีข่าวว่าจะเปิดตัวอยู่หลายรอบ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ประกาศเปิดตัว New Toyota Yaris Ativ HEV รุ่นย่อยใหม่ 2 รุ่น โดยเพิ่มรุ่น HEV Premium และ HEV GR Sport อย่างเป็นทางการ โดยใช้เครื่องยนต์ใหม่แบบไฮบริดขนาด 1.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังรวมสูงสุด 111 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ e-CVT ที่ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันถึง 29.4 กม./ลิตร (รุ่น HEV Premium) สูงสุดในกลุ่มรถ HEV ในไทย โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 719,000-769,000 บาท (ราคาพิเศษถึงสิ้นปี 2568)
New Toyota Yaris Ativ HEV มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่รหัส 2NR-VEX ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i โดยทำงานผสานมอเตอร์ไฟฟ้า และแบทเตอรีไฮบริด แบบลิเธียม-ไอออน (Li-ion) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้กำลังสูงสุด 111 แรงม้า พร้อมอัตราการใช้เชื้อเพลิงสูงสุด 29.4 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO STICKER ในรุ่น HEV Premium) มีโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ ECO/ Normal/Power
ราคาจำหน่าย Toyota Yaris Ativ HEV 2025
- Toyota Yaris Ativ HEV Premium ราคาพิเศษ 719,000 บาท (ราคาปกติ 729,000 บาท)
- Toyota Yaris Ativ HEV GR Sport ราคาพิเศษ 769,000 บาท (ราคาปกติ 779,000 บาท)
BYD Seal 5 DM-I Super Hybrid 2025 (ราคา 699,900 บาท)
BYD Seal 5 DM-i Super Hybrid จัดอยู่ในรถยนต์กลุ่มซีดานขนาดกลาง มาพร้อมขุมพลัง DM-i Super Hybrid แบบพลัก-อิน ไฮบริด มีแบทเตอรี BYD Blade Battery เอกสิทธิ์ของ BYD สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลสุด 120 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) ภายนอกโฉบเฉี่ยวภายใต้แนวคิด Ocean Aesthetics ภายในกว้างขวาง เมื่อเทียบกับรถยนต์ระดับเดียวกัน ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก รวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ
มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 300 นิวทันเมตร/30.6 กก.ม.
เครื่องยนต์เบนซิน Xiaoyun 1.5L Atkinson Cycle ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า/72 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 122 นิวทันเมตร/12.4 กก.ม. อัตราส่วนกำลังอัด 15.5:1 และระบบระบายความร้อนแบบแยกส่วน กำลังรวมสูงสุด 160 กิโลวัตต์/217 แรงม้า แรงบิด 300 นิวทันเมตร/30.6 กก.ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.5 วินาที
ประหยัดด้วยอัตราสิ้นเปลืองเพียง 3.8 ลิตร/100 กม. หรือ 26.3 กม./ลิตร แม้ขณะที่แบทเตอรีต่ำ (SOC ต่ำ) และยังรองรับน้ำมัน E20, Gasohol 91 และ 95
BYD Sealion 6 DM-i 2025 รุ่น Dynamic (ราคา 999,900 บาท)
BYD Sealion 6 DM-i รถ B-SUV เสียบปลั๊ก ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 72 กิโลวัตต์/98 แรงม้า ส่งกำลังร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุดถึง 300 นิวตันเมตร/30.6 กก.-ม. คิดเป็นกำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 160 กิโลวัตต์/218 แรงม้า ความจุถังน้ำมันอยูที่ 45 ลิตร (ในภูมิภาคอื่นๆ จะเป็น 60 ลิตร) ความจุแบทเตอรี คือ 18.3 kwh
Nissan Kick e-POWER 2025 (ราคา 779,900 - 980,000 บาท)
Nissan Kicks e-POWER รถยนต์ครอสส์โอเวอร์เอสยูวีขนาดเล็ก มาพร้อมเทคโนโลยี e-POWER ที่ผู้ขับจะได้สัมผัสเทคโนโลยีการขับขี่ที่สนุกสนาน เหมือนขับรถยนต์ไฟฟ้า 100%
เครื่องยนต์สันดาปภายในของระบบ e-POWER ได้ถูกกำหนดให้มีการทำงานในรอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสมที่สุดในการผลิตกระแสไฟฟ้า ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างดียิ่งขึ้น โดยยังคงใช้เครื่องยนต์ HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร 3 สูบแถวเรียง DOHC 12 วาล์ว ทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ต่อพ่วงไปยังส่วนประกอบของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่สำคัญๆ อาทิ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) มอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Motor) ที่ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร และแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 2.06 kWh มีจำนวน 4 โมดูล 96 เซลล์ ช่วงให้เร่งความเร็วได้ราบรื่น ให้ความเงียบ และการประหยัดน้ำมันที่มีประสิทธิภาพ ด้วยอัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ยถึง 23.8 กม./ลิตร (ตัวเลขการขับขี่ในเมือง 26.3 กม./ลิตร)
ราคาจำหน่าย Nissan Kicks e-POWER 2025
- Nissan Kicks e-POWER รุ่น E ราคา 779,900 บาท
- Nissan Kicks e-POWER รุ่น V ราคา 849,900 บาท
- Nissan Kicks e-POWER รุ่น VL ราคา 919,900 บาท
- Nissan Kicks e-POWER รุ่น Autech ราคา 979,900 บาท
- Nissan Kicks e-POWER รุ่น Star Edition ราคา 939,900 บาท
Toyota Yaris Cross 2025 (ราคา 789,000 - 899,000 บาท)
เส้นสายของ Toyota Yaris Cross 2025 มาในสไตล์ครอสส์โอเวอร์สมัยใหม่ นั่นคือ การเน้นสันเหลี่ยมรอบคัน แต่ผสมผสานความปราดเปรียว รุ่นทอพ HEV Premium Luxury ติดตั้งล้อแมกขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวางที่ทำได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะเบาะแถวที่ 2 นั่งสบาย ระยะช่วงขามีเพียงพอ และระยะเหนือศีรษะเหลือเฟือตามรูปทรงของตัวรถ ทัศนวิสัยของผู้ขับมีความปลอดโปร่ง มองเห็นโดยรอบผู้ขับได้ดี จอแสดงผลหลักขนาด 10.1 นิ้ว แผงหน้าปัดเป็นจอแบบดิจิทอลขนาด 7 นิ้ว
ขุมพลังของ Toyota Yaris Cross คือ ระบบไฮบริดที่ประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร (รหัส 2NR-VEX) กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 5,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 12.3 กก.-ม. ที่ 4,000-4,800 รตน. ส่งกำลังร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 80 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 14.4 กก.-ม. คิดเป็นกำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 111 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย (จาก Eco Sticker คือ 26.3 กม./ลิตร)
ราคาจำหน่าย Toyota Yaris Cross 2025
- Toyota Yaris Cross รุ่น HEV Smart ราคา 789,000 บาท
- Toyota Yaris Cross รุ่น HEV Premium ราคา 849,000 บาท
- Toyota Yaris Cross รุ่น HEV Premium Luxury ราคา 899,000 บาท
Honda City e:HEV 2025 (ราคา 729,000 - 799,000 บาท)
Honda City e:HEV 2025 ตัวถังซีดาน ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีพื้นที่กว้าง และสะดวกสบายมากขึ้น มาพร้อมจอสัมผัส Infotainment ขนาด 8 นิ้ว มาตรวัดดิจิทอลขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน พร้อม Paddle Shift เฉพาะรุ่น e:HEV RS
มาพร้อมด้านขุมพลังไฮบริด e:HEV เครื่องยนต์รหัส LEB-MMD เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร (1,498 ซีซี) พละกำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 13.0 กก.-ม. หรือ 127 นิวตันเมตร รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว แบทเตอรี Lithium-ion พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 25.8 กก.-ม. หรือ 253 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ให้อัตราการประหยัดน้ำมันถึง 27.8 กม./ลิตร
ราคาจำหน่าย Honda City e:HEV 2025
- Honda City e:HEV รุ่น SV ราคา 729,000 บาท
- Honda City e:HEV รุ่น RS ราคา 799,000 บาท
Honda City e:HEV Hatchback 2025 (ราคา 729,000 - 799,000 บาท)
จุดเด่นของรุ่นตัวถัง Hatchback คือ พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่ารุ่นซีดานอย่างชัดเจน จากการติดตั้งเบาะหลังที่พับได้หลากหลายรูปแบบ มีชื่อเรียกว่า Ultra Seat สามารถพับเบาะรองนั่งขึ้นมาเพื่อบรรทุกของทรงสูง หรือพับพนักพิงหลังลงมาเพื่อบรรทุกของทรงยาว หรือแม้แต่การเอนเบาะหน้าลงมาให้บรรจบกับเบาะหลังพอดี (โดยการถอดพนักพิงศีรษะออก) จะได้ที่นั่งทรงยาว เหยียดขาได้สบาย แน่นอนว่าเป็นอรรถประโยชน์ที่ดีกว่ารุ่นตัวซีดาน และยังรวมถึงบรรดาคู่แข่งระดับเดียวกันด้วย
Honda City e:HEV Hatchback 2025 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ขับเคลื่อนร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 109 แรงม้า มีจุดเด่นที่แรงบิดสูง มีตัวเลขสูงสุดที่ 25.8 กก.-ม. (มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวบางรุ่นด้วยซ้ำ !) รองรับน้ำมันสูงสุด E20
การทำงานของระบบ e:HEV ในเบื้องต้น คือ การขับเคลื่อนส่วนใหญ่จะเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้า ส่วนเครื่องยนต์สันดาปมีหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าป้อนให้แก่ระบบ การกดคันเร่งขณะออกตัว รวมถึงการเร่งแซงที่เป็นอัตราเร่งยืดหยุ่น มีการตอบสนองที่ทันใจ ไม่หวือหวา แต่เน้นการส่งกำลังที่ต่อเนื่อง ให้ความรู้สึกใกล้เคียงรถยนต์ไฟฟ้าจริงๆ (หากระบบแบทเตอรีมากพอสามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ที่ความเร็วต่ำ แม้เป็นระยะทางสั้นๆ)
ราคาจำหน่าย Honda City e:HEV Hatchback 2025
- Honda City e:HEV Hatchback รุ่น SV ราคา 729,000 บาท
- Honda City e:HEV Hatchback รุ่น RS ราคา 799,000 บาท
Honda HR-V e:HEV E 2025 (ราคา 899,000 บาท)
Honda HR-V e:HEV E 2025 มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ สีเดียวกับตัวรถ ทั้งรุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E ภายในออกแบบคอนโซลกลางใหม่ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง โดยมีช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์ มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการใช้งาน ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรีลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบา และขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบทเตอรีโดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ มอบการตอบสนองทันใจตั้งแต่ออกตัวกับกำลังสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 131 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร/25.8 กก.-ม. ที่ 0-3,500 รตน. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 25.6 กม./ลิตร และมีอัตราการปล่อยไอเสียเฉลี่ยเพียง 94 กรัม/กม. สามารถไปได้ไกลกว่า 800 กม. ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง
*หมายเหตุ: ตัวเลขระยะทางที่แสดงข้างต้น อ้างอิงและไม่เกินจากการคำนวณตาม Eco Sticker (ขึ้นอยู่กับสภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล) อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
Haval Jolion HEV 2025 (ราคา 799,000 - 999,000 บาท)
Haval Jolion HEV 2025 ภายในประกอบด้วยจอแสดงผลหลักขนาด 10.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple Car Play (ผ่านสายเคเบิล) แผงหน้าปัดเป็นแบบิจิทอล ตรงกลางเป็นจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัยหุ้มหนังเย็บด้ายสีเทา พร้อมปุ่มมัลทิฟังค์ชัน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ การเปลี่ยนเกียร์แทนที่คันเกียร์ดั้งเดิมด้วยแป้นหมุน ติดตั้งช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เบาะหลังพับแยกได้แบบ 60:40 (ไม่มีที่พักแขนตรงกลาง)
ด้านขุมพลัง Haval Jolion HEV 2025 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ส่งกำลังร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 38.3 กก.-ม. เกียร์อัตโนมัติแบบ DHT เป็นระบบไฮบริดที่เน้นสมรรถนะ (มากกว่าการประหยัดเชื้อเพลิง) พร้อมโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย ได้แก่ Normal, Sport, Eco และ Snow (สำหรับพื้นถนนลื่น) ระบบที่น่าสนใจ คือ ระบบ Intelligent Single Pedal ตัวรถจะชะลอความเร็วลงมาอย่างชัดเจน เมื่อผู้ขับยกเท้าออกจากแป้นคันเร่ง เพื่อใช้แรงหน่วงกลับคืนเป็นพลังงานไฟฟ้าสำหรับระบบไฮบริด เป็นระบบที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า
ราคาจำหน่าย Haval Jolion HEV 2025
- Haval Jolion HEV รุ่น Sport ราคา 799,000 บาท
- Haval Jolion HEV รุ่น Ultra ราคา 999,000 บาท
MG3 Hybrid+ 2025 (ราคา 579,900 - 619,900 บาท)
MG3 Hybrid+ 2025 รถแฮทช์แบคไฮบริดทรงกระทัดรัด กระจังหน้าคล้าย MG5 เป็นเอกลักษณ์ของ MG และเพิ่มความดุดันด้วยไฟหน้าแบบใหม่ Hunter Eye Headlamp หรือดวงตานักล่า ที่ดูโฉบเฉี่ยวไม่แพ้คู่แข่งอย่าง Mazda2 ด้านหลังแนว Hot Hatch ดูร้อนแรง ไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากปีกผีเสื้อ ลงตัวกับเส้นสาย และความโค้งมนบนตัวรถ
ภายในห้องโดยสารเพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งแบบทูโทนขาวสลับดำ ในรุ่น X พร้อมแท่นชาร์จแบบไร้สาย ภายในสีดำเดินด้ายสีส้ม ในรุ่น D เน้นความสปอร์ท ห้องโดยสารด้านหลังมีพื้นที่เหนือศีรษะ (Head room) และพื้นที่วางขา (Leg room) ที่ไม่อึดอัด MG3 Hybrid+ ถือเป็นรถที่กว้างที่สุดในคลาสส์เดียวกัน โดยเฉพาะห้องสัมภาระท้ายจุได้มากถึง 293 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถจุได้มากถึง 1,037 ลิตร
Hybrid+ ของ MG3 เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว DVVT กำลัง 102 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ High-performance Permanent Magnet Synchronous Motors กำลัง 136 แรงม้า ให้ขุมพลังรวมสูงสุดถึง 194 แรงม้า/143 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 250 นิวทันเมตร/25.5 กก.ม. ระบบส่งกำลัง Hybrid Transmission ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ไฟฟ้าแบบ E-AT 3 อัตราทดเกียร์ ปรับการทำงานแบบอัตโนมัติ โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Normal, Sport
ราคาจำหน่าย MG3 Hybrid+ 2025
- MG3 Hybrid+ รุ่น D ราคา 579,900 บาท
- MG3 Hybrid+ รุ่น X ราคา 619,900 บาท
Mitsubishi Xpander HEV 2025 (ราคา 933,000 บาท)
Mitsubishi Xpander HEV 2025 ภายนอกตัวรถโดดเด่นด้วยโลโก HEV ที่กระจังหน้า และฝาประตูท้าย พร้อมด้วยโลโก Hybrid EV ที่ประตูหน้า และการตกแต่งด้วยเส้นสายสีน้ำเงินที่กันชนหน้า กราบข้างประตู กันชนหลัง และล้ออัลลอยแบบทูโทนทั้ง 4 ล้อ สีตัวถังมีให้เลือกหลากหลาย มาพร้อมสีใหม่ล่าสุดที่เพิ่มจากรุ่นก่อน คือ สีขาว White Diamond ภายในห้องโดยสาร โดดเด่นสะดุดตาด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว เบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง 2+3+2
Mitsubishi Xpander HEV 2025 วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ MIVEC DOHC 16 วาล์ว 1.6 ลิตร ให้กำลัง 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 14.0 กก.-ม. (134 นิวตันเมตร) พร้อมระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 22.9 กก.-ม. (255 นิวตันเมตร) ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติชุดใหม่ เป็นเกียร์สำหรับรถ EV
ในปัจจุบันแบรนด์จีนหลายค่ายเริ่มวางแผนทำตลาดรถ REEV (Range Extended Vehicle) ที่ผสานข้อดีของ EV + เครื่องยนต์สันดาป ถ้าอยากรู้ว่าคืออะไร บทความถัดไปนี้มีคำตอบ ทำความรู้จัก REEV ! รถอะไรเติมน้ำมัน แต่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ?
