สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
โยชิอากิ อิชิมูระ
รถยนต์สัญชาติเกาหลี ฮันเด เติบโตต่อเนื่องตลอด 5 ปี ที่ทำตลาดในเมืองไทย กลายเป็นคู่แข่งสำคัญของรถญี่ปุ่น "ฟอร์มูลา" สัมภาษณ์พิเศษ โยชิอากิ อิชิมูระ ประธาน บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด
ฟอร์มูลา : ปัจจัยที่ทำให้รถยนต์ ฮันเด ประสบความสำเร็จในประเทศไทย ?
อิชิมูระ : ความสำเร็จของ ฮันเด เกิดขึ้นจากปัจจัย 3 ส่วนคือ 1. ลูกค้าคนไทยให้การยอมรับ 2. การสนับสนุนจากสื่อมวลชนที่เห็นคุณค่าของรถยนต์ ฮันเด และ 3. บริษัทแม่เข้าสู่ช่วงการเติบโตในการเป็นบแรนด์ระโลก ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะสร้างชื่อเสียงในตลาดเมืองไทย อีกทั้งด้วยราคา คุณภาพมาตรฐาน เทคโนโลยีของสินค้าทำให้ ฮันเด มีเทคโนโลยีใหม่ออกสู่ตลาด นับว่าเป็นช่วงจังหวะและความลงตัว ที่ทำให้ ฮันเด สามารถเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย โดยมีสินค้าที่หลากหลาย มีเทคโนโลยี ราคาสามารถแข่งขันได้ รวมถึงเมื่อลูกค้าได้สัมผัสรถยนต์ ฮันเด แล้วเชื่อมั่นในคุณภาพ
ฟอร์มูลา : สิ่งสำคัญที่ทำให้คนไทยยอมรับคืออะไร ?
อิชิมูระ : ฮุนได มอเตอร์ ฯ เปิดตลาดด้วยการนำภาพความคุ้นเคย เข้ามาประกอบในประเทศไทยในรุ่นแรก คือ ฮันเด โซนาตา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการยอมรับด้วยการนำรถเข้ามาประกอบ ประกอบกับ โซนาตา ที่นำมาประกอบในประเทศเป็นที่รู้จักอยู่แล้วในเมืองไทย
หลังจากนั้นเน้นไปที่การสร้างความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเลือกรถที่มีคุณภาพเข้ามาเสริมทัพ นั่นคือ ฮันเด เอช-1 ซึ่ง ฮันเด มองว่า ลูกค้าในเมืองไทยต้องการรถยนต์ที่มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม และถือว่า ฮันเด ประสบความสำเร็จอย่างมากจากรถรุ่นนี้ เนื่องจากลูกค้าให้การตอบรับอย่างมาก มียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยสินค้ามีคุณภาพและได้รับการยอมรับ จึงเกิดการบอกแบบปากต่อปาก ถือเป็นการจุดพลุให้กับ ฮันเด อย่างมากสำหรับรถรุ่นนี้
ต่อมา ฮันเด ก็ได้ขยายกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้นด้วยการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็น ทูซอน โซนาตา และ เอลันทรา โดยใช้นโยบายเดียวกับ เอช-1 นั่นคือ เน้นคุณภาพเป็นหลัก
นอกจากนี้เป็นเรื่องของการบริการ ซึ่งในช่วงแรกที่ยังไม่เกิดความไม่ลงตัวบ้าง เพราะรถที่นำเข้ามาจำหน่ายมีราคาสูง ยอดจำหน่ายยังไม่มากนัก แต่เมื่อได้รับการยอมรับมากขึ้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ถึงแม้ว่าจำนวนรถยังไม่มากนัก แต่เรื่องของการบริการและพัฒนาเครือข่ายบริษัท ฯ ไม่ได้ปล่อยไว้เหมือนกับจำนวนรถ โดยบริษัท ฯ มีการพัฒนาเครือข่ายและปรับปรุงคุณภาพการบริการให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่พึงพอใจที่สุด ซึ่งต้องยอมรับปัจจุบันโชว์รูมและศูนย์บริการยังมีไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอกับความต้องการเมื่อเทียบกับจำนวนรถ
ฟอร์มูลา : การขยายโชว์รูมและศูนย์บริการ เตรียมแผนงานไว้อย่างไร ?
อิชิมูระ : ปัจจุบันมีโชว์รูมและศูนย์บริการ 23 แห่ง โดยบริษัท ฯ ตั้งเป้าขยายเพิ่มปีละ 3 แห่ง แต่อย่างไรก็ต้องดูยอดขายโดยรวมด้วย ซึ่งวางแผนว่าในอีก 3 ปี จะมียอดขายถึงหลักหมื่น ซึ่งวันนี้ยอดขายอยู่ที่ประมาณปีละ 5,000 คัน ถ้าใน 3 ปีข้างหน้า เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ เวลานั้นจะต้องมีโชว์รูมและศูนย์บริการประมาณ 35-38 แห่ง
ฟอร์มูลา : 5 ปีที่ผ่านมา ฮันเด มีความแข็งแรงเพียงพอแล้วหรือยัง ต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ?
อิชิมูระ : เรื่องของความแข็งแกร่งจนถึงปัจจุบัน ถือว่ามีพอสมควร แต่ยังไม่เพียงพอกับการแข่งขันในตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรง โดยสิ่งที่ต้องปรับปรุงอย่างแรกคือ หารถยนต์รุ่นใหม่ที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งให้มีมากยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหารถที่จะมาสร้างยอดขาย และลูกค้าให้การตอบรับ เห็นได้จากรถยนต์บางยี่ห้อยังไม่มีเลย แต่เนื่องจากในปี 2558 เป็นปีเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน หรือ เออีซี ซึ่งแต่ละบริษัทต้องมีการพัฒนาเพื่อตอบรับการแข่งขัน ตรงจุดนี้ บริษัท ฯ ยังมีรถไม่เพียงพอ และไม่แข็งแกร่งพอ ในการแข่งขัน ทำให้บริษัทอื่นที่มีศักยภาพพอ บีบและยึดพื้นที่ไปได้ ด้วยการมี เออีซี และศักยภาพต่างๆ ไร้พรมแดน ส่วนแนวทางแก้ไข บริษัท ฯ จะดึงข้อได้เปรียบให้เกิดขึ้นด้วยการหารถจากภูมิภาคเข้ามาจำหน่าย โดยเน้นที่ราคาสมเหตุสมผลที่สุด ยืนอยู่บนคุณภาพของ ฮันเด ที่เป็นที่ยอมรับ โดยเป็นแผนงานที่เตรียมไว้ว่าจะเริ่มต้นตั้งแต่ปีนี้เพื่อรองรับเมื่อถึงเวลานั้นจะใช้โอกาสตรงจุดนั้นสร้างจุดแข็ง
ฟอร์มูลา : คุณเลือกรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามาเสริมทัพ ?
อิชิมูระ : การเลือกสินค้าเข้ามาทำตลาดไม่มีอะไรมาก อันดับแรกคือ ต้องเลือกรถที่ผลิตพวงมาลัยขวาแล้ว เพราะรถยนต์ ฮันเด ที่ประเทศเกาหลี จะเป็นพวงมาลัยซ้าย ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดอย่างมาก ต่อจากนั้นดูว่าแต่ละประเทศ รถแต่ละรุ่น มีความต้องการมากน้อยเพียงใด สามารถที่จะทำการผลิตและประกอบในโซนนั้นๆ และสามารถพ่วงยอดการผลิต แล้วสามารถทำให้ต้นทุนต่ำลง และต้องแข่งขันได้กับคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาด
ขณะเดียวกันตามแผนงานแล้ว บริษัท ฯ พยายามที่จะนำรถมาเปิดตัวปีละ 1-2 รุ่น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า รวมถึงเป็นการสำรวจตลาดด้วยว่า มีความต้องการแบบใด หลังจากนั้นก็จะสามารถสานต่อโดยคำนวณจากหลายส่วนประกอบเพื่อทำพโรเจคท์เรื่องของการประกอบ ซึ่งเมื่อเห็นสมควร ก็สามารถนำมาเปิดตลาดได้
ฟอร์มูลา : การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ส่งผลดีอย่างไรกับ ฮุนได มอเตอร์ ฯ ?
อิชิมูระ : เออีซี จะส่งผลดีอย่างแน่นอน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแต่ ฮันเด เท่านั้น เพราะ เออีซี สำหรับ ฮันเด ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการผลิตในภูมิภาคนี้ง่ายขึ้น ซึ่งสามารถนำไปประกอบที่ที่มีค่าแรงต่ำในโซนเดียวกันได้ แต่สิทธิพิเศษนี้ก็จะเอื้อต่อทุกที่เช่นกัน ซึ่งถ้าใครช้าก็จะหมดโอกาส เมื่อตรงนั้นมาถึงทุกฝ่ายต้องฉวยโอกาสเพื่อที่จะได้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นมันเป็นเหมือนตารางเวลาที่เป็นเหมือนระเบิด คือ เมื่อระเบิดขึ้นมาแล้วใครอยู่นิ่งก็จะเสียโอกาสนั้นไป
ฟอร์มูลา : คุณมองว่า ฮันเด ในประเทศไทย กับต่างประเทศ มีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด ?
อิชิมูระ : ตลาดในประเทศไทย ถือว่าเป็นตลาดของผู้ผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นการแข่งขัน จึงเป็นของรถที่ผลิตในประเทศ การที่ ฮันเด มาทำตลาดในเมืองไทย ต้องผ่านกำแพงภาษีอย่างมาก ทำให้ต้นทุนของ ฮันเด สูงมาก ดังนั้นกลุ่มลูกค้าจึงจะเป็นระดับสูง ต้องการรถที่มีคุณภาพ และชัดเจนเรื่องประโยชน์จากการใช้รถ
ส่วนต่างประเทศไม่มีเรื่องของกำแพงภาษี ทำให้ ฮันเด สามารถนำรถเข้าไปจำหน่ายได้หลากหลายรุ่น และเติบโตเร็วมาก ทำให้มีลูกค้าหลายกลุ่มตั้งแต่ระดับล่างถึงระดับบน เพราะว่ามีช่องทางในการนำเสนอสินค้า
แต่ใน 5-10 ปี โครงสร้างต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง ฮันเด ก็อาจจะมีโอกาสที่จะสร้างความหลากหลายในเมืองไทย และสร้างกลุ่มลูกค้าเหมือนกับที่บแรนด์อื่นๆ มีอยู่ในปัจจุบัน และจะสามารถครองใจผู้ใช้ในประเทศไทย
ฟอร์มูลา : ประเทศใดบ้างที่ ฮันเด เอช-1 ได้รับความนิยมอย่างมากเหมือนกับประเทศไทย ?
อิชิมูระ : ฮันเด เอช-1 เป็นที่นิยมทั่วโลก แต่ที่ชัดเจนมากที่สุดจะเป็นประเทศในแถบอาเซียน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ถือว่าเติบโตและได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ประเทศไทยถือว่าเป็นความพิเศษอย่างหนึ่งคือ เป็นรถที่ใช้สร้างบแรนด์ ขยายเครือข่าย ดังนั้น บริษัทแม่จึงให้ความสำคัญอันดับ 1 ในการจัดโควทา เอช-1 เพราะถือว่าเป็นอุปกรณ์ในการขยายบแรนด์ สร้างหลักฐานให้บแรนด์ และได้รับการดูแลมากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค ถึงแม้ ฮันเด เอช-1 จะได้รับความนิยมจนกำลังการผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ
ฟอร์มูลา : ทิศทางและนโยบายของ ฮันเด ในระยะสั้นและระยะยาว วางไว้อย่างไร ?
อิชิมูระ : เป้าหมายแรกในระยะสั้นต้องการสร้างยอดขายในแต่ละปี มียอดขายเกินกว่า 10,000 คัน นั่นหมายความว่า ฮันเด ประสบความสำเร็จมีส่วนแบ่งการตลาด 1 % ของตลาดรวม ขณะเดียวกันก็ต้องขยายเครือข่ายรองรับการเติบโตของยอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้น ส่วนแผนระยะยาวเตรียมความพร้อมที่จะพัฒนาร่วมกันทั้งหมดในอาเซียน โดยต้องการที่จะขยับยอดขายให้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น ให้ใกล้เคียงกับเจ้าตลาดที่เป็นรถญี่ปุ่นให้มากกว่าเดิม แต่การกำหนดแผนจะเป็นไปอย่างมีระบบและทำงานร่วมกัน ขณะนี้อาจจะมองไม่ชัดเจนนัก ซึ่งตามแผนงานจะเห็นผลอย่างชัดเจนมากขึ้นในช่วงหลายปี 2556 นี้
ฟอร์มูลา : แผนระยะสั้นนี้ จะใช้กลยุทธ์ใดแข่งขันกับรถญี่ปุ่นและรถเกาหลี ?
อิชิมูระ : สำหรับรถเกาหลีถือว่าไม่ได้แข่งขันกันเลย เนื่องจากยังถือว่าเป็นบแรนด์เล็กด้วยกันทั้งหมด ส่วนรถญี่ปุ่นที่มีประวัติการทำธุรกิจยาวนานในเมืองไทย 40-50 ปี การที่จะไปแข่งขันด้วยคงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่จะเป็นเพียงตัวแทรกเข้าไปเท่านั้น เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่ทำได้คือการสร้างมูลค่าให้กับบแรนด์ และทำให้ลูกค้าเห็นความคุ้มค่าอย่างชัดเจน ซึ่งต้องนำด้วยคุณภาพของรถยนต์ เมื่อคุณภาพไปถึงลูกค้า ลูกค้ามีความสุข สัมผัสได้ถึงความคุ้มค่า คุ้มราคา สิ่งนี้คือกลไกในการที่จะเข้าไปแข่งขัน คือโอกาส ซึ่งถึงแม้ว่าได้มาอย่างน้อย 1 % ก็ต้องทำตรงนี้ให้ได้ อีกอย่างหนึ่งตลาดเมืองไทยไม่ธรรมดา ผู้ที่อยู่ในตลาดมานานได้สร้างคุณภาพ สร้างบแรนด์ด้วยคุณภาพและความชัดเจน ความคุ้มค่า คุ้มราคา มาเป็นเวลานานกว่า
ฟอร์มูลา : ปีนี้คุณตั้งเป้ายอดขายเท่าไร ?
อิชิมูระ : ในปีที่แล้วถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยยอดขายรถยนต์ ฮันเด ทั่วโลกเติบโตเกินความคาดหมาย ทำให้การผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ ซึ่ง ฮันเด ประเทศไทยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 6,000 คัน แต่ยอดขายมีเพียง 5,000 คันเท่านั้น เนื่องจาก ฮันเด เกาหลี ไม่สามารถส่งมอบรถได้ แต่เมื่อเทียบกับปี 2554 ถือว่าเติบโตตามเป้าคือ มากกว่า 10 % ส่วนปี 2556 ไม่ได้ตั้งเป้ายอดขาย เนื่องจากต้องการขายให้ได้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมด้วยว่า จะสามารถส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งต้องเจรจากับบริษัทแม่ขอจำนวนรถที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้มีจำนวนเพียงพอกับความต้องการ
ฟอร์มูลา : คุณมองว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ปีนี้ จะเป็นอย่างไร ?
อิชิมูระ : ปีที่แล้วยอดขายโดยรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์เติบโตอย่างมาก แต่เห็นได้ชัดเจนว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาจากหลายปัจจัย เช่น ไม่ได้ซื้อรถปี 2554 เนื่องจากน้ำท่วม นโยบายรถยนต์คันแรก ทำให้เติบโตมาก แต่สำหรับปีนี้การผลิตรถยนต์โดยรวมน่าจะอยู่ที่ 2 ล้านกว่า ซึ่งประมาณล้านกว่าๆ จะเป็นยอดส่งออก ส่วนยอดขายในประเทศคงจะไม่เติบโตมากเหมือนปีที่แล้ว น่าจะอยู่ในระดับที่สะท้อนความต้องการจริง คาดการณ์ว่ายอดขายน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.1-1.2 ล้านคัน
ฟอร์มูลา : คุณวางเป้าหมายการทำงานไว้อย่างไร ?
อิชิมูระ : ฮันเด เข้ามาทำตลาดในปี 2549 โดยหน้าที่หลักคือ การปูพื้นฐานบริษัท ฯ ให้ดำเนินธุรกิจอยู่ได้ยาวนานที่สุด โดยเป้าหมายคือ ในอีก 3 ปีข้างหน้า ต้องสร้างพื้นฐานให้บริษัท ฯ มีความแข็งแกร่ง ทั้งภายในองค์กร และผู้ร่วมประกอบธุรกิจ เพื่อให้บริษัท ฯ ดำเนินต่อไป เหมือนบริษัทรถยนต์ชั้นนำต่างๆ ที่อยู่ในประเทศไทย ให้ฮันเด อยู่ได้ภายใต้การดูแลของพาร์ทเนอร์ที่บริษัท ฯ ให้ความไว้วางใจ
นอกจากนี้ บริษัท ฯ ยังลงทุนสร้างสำนักงานใหญ่ โชว์รูม พร้อมศูนย์บริการ คลังอะไหล่ ทเรนิงเซนเตอร์ ที่จะทำให้เกิดความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ในการสร้างความแข็งแรงให้ลูกค้าได้เห็นถึงเจตนารมณ์ที่ ฮันเด ตั้งใจที่จะสร้างธุรกิจในประเทศไทยอย่างแท้จริง
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : จินดา ลัยนันท์
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2556
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/89274