X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
DIY...คุณทำเองได้
1 Oct 2011
ตรวจเชคยางรถยนต์ เสียเวลาสักนิด ชีวิตจะปลอดภัย !
ไม่ว่ารถจะมีสมรรถนะดีแค่ไหน แต่ถ้ายางเสื่อมสภาพ ทุกอย่างก็หมดความหมาย ยางรถยนต์เป็นส่วนประกอบเดียวของรถ ที่สัมผัสกับพื้นถนนตลอดเวลา การสึกหรอ จึงเร็วกว่าส่วนประกอบอื่น DIY...คุณทำเองได้ ฉบับนี้ ขอเสนอวิธีตรวจเชคยางรถยนต์เบื้องต้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคุณ !
ตรวจสอบหน้าสัมผัสของยาง
ถึงแม้ว่าหน้าสัมผัสของยางกับพื้นถนน จะมีเพียงแค่ฝ่ามือ แต่เป็นส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนน และรับน้ำหนักทั้งหมดของรถยนต์ การตรวจความลึกของร่องดอกยางจึงสำคัญ เพราะดอกยางมีส่วนสำคัญในการรีดน้ำ ลดความเสี่ยงของการเหินน้ำ และยังมีผลต่อการควบคุมรถ รวมถึงระยะเบรค ความลึกของร่องดอกยางต้องมีมากกว่า 3 มม. หากน้อยกว่านี้ คงถึงเวลาที่ต้องหายางชุดใหม่มาประจำการแทนยางเดิมแล้วล่ะ
แรงดันลมยาง
การตรวจสอบความดันลมยาง ควรทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งรวมถึงยางอะไหล่ด้วย โดยต้องตรวจเชคก่อนการใช้งาน ในขณะที่ยางยังเย็นอยู่ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จาก คู่มือประจำรถ ป้ายด้านข้างประตู ที่เก็บของฝั่งผู้โดยสาร และด้านในฝาถังน้ำมัน ลมยางที่ถูกต้องจะช่วยลดการสึกหรอก่อนเวลา รวมทั้งลดความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อโครงสร้างภายในของยาง และยังลดความเสี่ยงในการควบคุมรถ ปกติลมยางจะลดลงประมาณ 2-3 ปอนด์/เดือน
ตั้งศูนย์/ถ่วงล้อ
เมื่อการขับเคลื่อนเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพบเจอกับสภาพต่างๆ ของถนน เช่น หลุม, บ่อ หรือรอยต่อของถนน จึงเป็นเหตุให้ช่วงล่างได้รับความกระทบกระเทือน ถ้าตกหลุมแรงๆ อาจทำให้ศูนย์ล้อผิดเพี้ยนไปจากเดิมได้ การตั้งศูนย์จึงเป็นการแก้ที่ตรงจุด ทำให้รถวิ่งได้เสถียร และยังป้องกันการสึกหรอของยางที่ไม่เท่ากันด้วย ส่วนการถ่วงล้อ ทำได้โดยใช้ตะกั่วติดด้านในขอบล้อ เพื่อป้องกันไม่ให้ยางสึกหรอจากการสั่น (ไม่ให้ล้อสั่นนั่นเอง) หากล้อขาดความสมดุล จะทำให้ยางสึกไม่เท่ากัน นานไปอาจทำให้ชิ้นส่วนช่วงล่าง เกิดการสึกหรอก่อนเวลาอันควรเอาง่ายๆ อีกด้วย ทั้ง 2 แบบนี้ ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทาง ฉะนั้นทำเองไม่ได้
สลับยาง
การสลับยางเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้การสึกหรอของยางรวมเฉลี่ยเท่ากันทั้ง 4 ล้อ สามารถเชคได้จากคู่มือประจำรถ ว่าต้องสลับยางทุกกี่ กม. โดยส่วนใหญ่แล้วควรสลับยางทุกๆ 10,000 กม.
สัญลักษณ์ต่างๆ บนยางรถยนต์
สัญลักษณ์ต่างๆ ที่จารึกอยู่ตรงแก้มยาง เป็นข้อมูลพื้นฐานที่ผู้ผลิตยางต้องระบุให้ชัดเจน เจ้าตัวอักษร และตัวเลขที่จารึกนั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร ไปติดตามกัน 1. เส้นผ่าศูนย์กลางรวมของกระทะล้อ 2. ความกว้างของหน้ายาง (หน่วยเป็น มม.) 3. R ย่อมาจาก RIM คือ ขอบของกระทะล้อ 4. LT ย่อมาจาก LIGHT TRUCK คือ รถกระบะขนาดเบา 5. ดัชนีการรับน้ำหนักของยางแต่ละเส้น 6. สัญลักษณ์ของความเร็วที่ยางเส้นนั้นสามารถรองรับได้ (S = 180 กม./ชม.) 7. ปีที่ผลิต ยางแต่ละเส้นจะถูกระบุปีและสัปดาห์ในการผลิต สามารถสังเกตได้จาก ตัวเลข 2 ตัวแรก เป็นปีที่ผลิต 2 ตัวหลังเป็นสัปดาห์ที่ผลิต
อุปกรณ์
1. ไม้บรรทัดขนาดเล็ก 2. ถุงมือ
ขั้นตอนเชคยางรถยนต์
1. จอดรถในที่ราบ ควรดึงเบรคมือทุกครั้งเพื่อป้องกันรถ 2. ใส่ถุงมือให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันคราบดำ จากเนื้อยาง 3. หาสัญลักษณ์ 3 เหลี่ยมตรงบริเวณแก้มยาง 4. ดูที่ร่องเชคดอกบนตัวยาง ว่าการสึกหรอ ต่างกันแค่ไหน 5. นำไม้บรรทัดที่เตรียมไว้ออกมา แล้ววัดความลึกดอกยาง 6. อ่านค่าความลึกของดอกยาง ต้องเกิน 3 มม. ถึงใช้ได้ 7. ตรวจดูรอยแตกของขอบยาง บริเวณแก้มยาง ต้องไม่แตกลายงา 8. ตรวจดูตะกั่วที่ใช้สำหรับตั้งศูนย์ ว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ 9. ตรวจเชคความสึกของดอกยางว่ามีการกินด้านใน/ด้านนอก หรือไม่ 10. ดูสัปดาห์และปีที่ผลิต ถ้าเกิน 2 ปี ก็ควรพิจารณาเปลี่ยนได้แล้ว 11. ตรวจดูร่องดอกยาง ว่ามีเศษก้อนหิน หรือตะปู อุดตันติดดอกยางหรือไม่ 12. ถ้าเห็นว่ายางอยู่ในสภาพไม่ปกติ ควรแก้ไขตามที่แนะนำ
อ่านต่อ
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : DIY...คุณทำเองได้
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/84717
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
DIY...คุณทำเองได้
DIY...คุณทำเองได้
21 Jun 2023
ทำความสะอาดเบาะผ้า ด้วยเครื่องมือยุคใหม่
DIY...คุณทำเองได้
22 Mar 2023
ชาร์จรถไฟฟ้าแบบฉุกเฉิน ด้วยปลั๊กไฟบ้าน
DIY...คุณทำเองได้
17 Nov 2022
อบโอโซน ห้องโดยสารด้วยงบ 400 บาท
DIY...คุณทำเองได้
21 Oct 2022
ขัดคราบโคมเหลือง ให้ขาวสดใส
DIY...คุณทำเองได้
21 May 2022
ล้างเคลือบรถ ทำเองได้ ประหยัดด้วย
ดูต่อในคอลัมน์ DIY...คุณทำเองได้