ชีวิตอิสระ
เที่ยวอุทยานแห่งชาติทับลาน สัมผัสธรรมชาติมรดกโลก
“ชีวิตอิสระ” จะพาไปรู้จักป่าทับลานให้มากขึ้น หลังมีกระแสแฮชแทกฮิท “#SAVEทับลาน” เนื่องจากมีข่าวเพิกถอนพื้นที่ “อุทยานแห่งชาติทับลาน” กว่า 2 แสนไร่ ออกจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ไปเป็นที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งชาติทับลาน ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ
ป่าทับลานถูกประกาศให้เป็น “ป่าไม้ถาวร” ตามมติ ครม. ตั้งแต่ปี 2506 และได้รับการประกาศให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าสงวนแห่งชาติครบุรี) ในปี 2509
ปี 2518 ป่าทับลานได้รับการจัดตั้งเป็น “วนอุทยานป่าลาน” เพื่ออนุรักษ์ป่าลานไว้ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น “วนอุทยานทับลาน” ในเวลาต่อมา
ในปี 2524 ได้จัดตั้งให้เป็น “อุทยานแห่งชาติทับลาน” ลำดับที่ 39 ของไทย มีเนื้อที่กว่า 1.3 ล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่ อ. วังน้ำเขียว อ. ปักธงชัย อ. ครบุรี อ. เสิงสาง จ. นครราชสีมา และ อ. นาดี จ. ปราจีนบุรี นับเป็นอุทยานที่มีเนื้อที่ใหญ่เป็นอับดับ 2 ของไทย รองจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และมีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน
ทับลานป่ามรดกโลก แหล่งป่าลานผืนสุดท้ายของไทย
อุทยานแห่งชาติทับลานมีสังคมพืชที่จัดเป็น “ป่าลุ่มต่ำ” ที่มีความสมบูรณ์มาก มีการซ้อนทับกันระหว่างระบบนิเวศของป่าภาคกลาง และป่าภาคอีสาน ที่มีความหลากหลายของชนิดพันธุ์ไม้ ประกอบด้วยป่าที่โดดเด่น 4 ประเภท คือ ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบแล้ง และป่าดงดิบชื้น
ยังมี “ป่าลาน” ซึ่งเป็นป่าผลัดใบที่มีต้นลานขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ต้นลานเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของป่าทับลาน เป็นพืชในตระกูลปาล์มที่มีมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ลานเป็นพืชที่มีช่อดอกใหญ่ที่สุดในโลก โดยต้นลานจะออกดอกเพียงครั้งเดียวเมื่ออายุ 60 ปีขึ้นไป และจะตายลง แต่เมล็ดที่ร่วงหล่นจำนวนมาก จะงอกเงยเป็นลานต้นใหม่ เป็นวัฏจักร โดยเราจะเห็นต้นลานหนาแน่นทั่วพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ ใน ต. บุพราหมณ์ อ. นาดี จ. ปราจีนบุรี เนื่องจากมีสภาพเป็นป่าโปร่ง
มุ่งสู่ป่าทับลาน กับ MAZDA BT-50 2024
เราเดินทางจากกรุงเทพฯ พร้อมเพื่อนใหม่อย่าง MAZDA BT-50 HI-RACER 2024 (มาซดา บีที-50 ไฮ-เรเซอร์) ใหม่ ที่มีการปรับไมเนอร์เชนจ์ ไปแล้วเมื่อช่วงต้นปี 2024 เลยทำให้ BT-50 ครั้งนี้ หล่อเหลาขึ้นเป็นกอง และยังรองรับไอเสียยูโร 5 อีกด้วย
มุ่งสู่ป่าลานด้วยเส้นทางมอเตอร์เวย์ ผ่านตัว จ. ฉะเชิงเทรา เพื่อเข้าทางหลวงหมายเลข 304 ระยะทางประมาณ 200 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. MAZDA BT-50 HI-RACER 2024 ยังคงเป็นรถที่เดินทางดีเหมือนเดิม เนื่องจากมีการปรับเซทช่วงล่างให้แน่นเฟิร์ม ผ่านรอยต่อถนน และทางขรุขระได้ดี และยังให้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 3.0 ลิตร 190 แรงม้า มีกำลังเร่งแซงเหลือเฟือ แต่น่าเสียดายที่เป็นตัวขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูงเท่านั้น
“อุโมงค์ทับลาน” สะพานเชื่อมผืนป่า แห่งแรกในไทย
ก่อนถึง เราต้องสะดุดกับความสวยงามของอุโมงค์ทับลาน (WILDLIFE CORRIDOR) บนถนน 304 กบินทร์บุรี-ปักธงชัย ที่ด้านบนถูกทำเป็นพื้นที่สีเขียว เชื่อมระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และทับลาน ให้สัตว์ป่าสามารถสัญจรผ่านไปมาได้
นอกจากนั้น ยังมีทางลอดใต้ถนน สำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กอีกด้วย มีการติดตั้งกำแพงกันเสียงเพื่อลดเสียงจากรถยนต์แก่สัตว์ป่า มีการปลูกป่าทดแทนพื้นที่ใช้ในการขยายถนน มีการปลูกพืชที่เป็นอาหารของสัตว์ป่า และสร้างโป่งเทียมเพิ่ม
โดยตลอดแนวสองฝั่งถนน จะมีการกั้นรั้วเหล็ก เพื่อป้องกันสัตว์ป่าไม่ให้เข้ามาบนถนนจนเกิดอันตราย และลดการเกิดอุบัติเหตุรถชนกับสัตว์ป่า
ผาเก็บตะวัน แหล่งชมพระอาทิตย์ตกสุดฮิท
ผาเก็บตะวัน เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่มีชื่อเสียงที่สุด ในอุทยานแห่งชาติทับลาน นักท่องเที่ยวที่มาวังน้ำเขียวมักนิยมมาเก็บตะวันในตอนเย็น มีลักษณะเป็นหน้าผาที่มองออกไปเห็นวิวกว้างไกลสุดสายตา เป็นที่ตั้งของหลักแบ่งเขต จ. ปราจีนบุรี และ จ. นครราชสีมา ที่ใหญ่ที่สุด และยังเป็นแหล่งโอโซนอันดับ 7 ของโลกอีกด้วย
นอกจากวิวธรรมชาติสวยๆ แล้ว ยังมีกิจกรรมยิงหนังสติ๊กเมล็ดพืชกลับคืนสู่ป่า เป็นกิจกรรมที่ใครมาแล้วไม่ควรพลาด ที่จะได้ลองวัดฝีมือในการยิงหนังสติ๊กเมล็ดพืช นอกจากจะได้ความสนุกแล้ว ยังเป็นการช่วยกันปลูกป่า เพิ่มแหล่งออกซิเจนให้ป่าอีกด้วย
สำหรับเมล็ดพันธุ์พืช มีให้เลือกทั้งเมล็ดมะค่าโมง และเมล็ดลาน หรือลูกลาน สามารถซื้อได้ตรงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในราคาถุงละ 10 บาท ว่ากันว่าเมล็ดที่ยิงไปมีโอกาสเจริญเติบโตได้ถึง 80 % เลยเชียวนะ
น้ำตกบ่อทอง สวยงามลึกลับ กลางป่าลาน
น้ำตกบ่อทอง ตั้งอยู่ใน ต. บุพราหมณ์ อ. นาดี จ. ปราจีนบุรี อยู่ห่างจากทางหลวง 304 ประมาณ 6 กม. การเข้าไปชมต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 500 ม. เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม และอุดมสมบูรณ์มากๆ ในช่วงฤดูฝน (ประมาณเดือนกรกฎาคม-กันยายน) ในฤดูแล้งน้ำจะค่อนข้างน้อย และเนื่องจากอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน บริเวณรอบๆ น้ำตกจึงถูกปกคลุมไปด้วยป่าลาน นักท่องเที่ยวที่ไปจะมีความรู้สึกเหมือนหลุดไปในยุคดึกดำบรรพ์ เป็นบรรยากาศที่หาดูได้ยาก จึงนับเป็นเสน่ห์ของน้ำตกบ่อทอง จนถึงปัจจุบัน
อ่างเก็บน้ำทับลาน แหล่งพักผ่อนของคนพื้นที่
อ่างเก็บน้ำทับลาน เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อยู่ในพื้นที่บ้านทับลาน ต. บุพราหมณ์ อ. นาดี จ. ปราจีนบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวริมอ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่ง ที่มีบรรยากาศบริสุทธิ์ และโอบล้อมไปด้วยภูเขาของอุทยานแห่งชาติทับลาน ทำให้คนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว เดินทางมาสัมผัสบรรยากาศ ลงเล่นน้ำ หรือหาปลาอย่างสนุกสนาน
ในช่วงวันหยุด มีการจัดกิจกรรมเล่นน้ำในรูปแบบต่างๆ โดยมีเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย นำเรือ และอุปกรณ์มาช่วยส่งเสริม เช่น เรือคายัค เจทสกี ให้นักท่องเที่ยวได้ลงเล่นฟรีตลอดทั้งวัน ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียงเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง
“สวนลุงไกร” ปราชญ์เกษตรปลอดสารพิษ
สวนลุงไกร ใครชอบกินผักปลอดสารพิษจะต้องมา “ลุงไกร” ปราชญ์เกษตรศิลปิน ที่มักบรรเลงบทเพลงให้นักท่องเที่ยว และให้ความรู้เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์อยู่เสมอ สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านสามัคคี ใน อ. วังน้ำเขียว มีที่พักแบบฟาร์มสเตย์ และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีร้านค้าที่จำหน่ายผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกร ที่รวมตัวกันนำผลผลิตมาจำหน่าย
เสียดายที่เรามาช่วงมรสุมเข้าพอดี ทำให้แปลงผักของลุงไกรเสียหายหลายแปลง โดยปกติแล้วลุงไกรจะปลูกผักให้ผลผลิตผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกมาจำหน่ายตลอดทั้งปี ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่ง สำหรับผู้ที่สนใจในวิถีเกษตรอินทรีย์อย่างแท้จริง
สักการะรูปหล่อหลวงพ่อคูณ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
ก่อนกลับ แนะนำให้ไปสักการะรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่วัดบุไผ่ มีหน้าตักกว้าง 9 ม. สูง 18 ม. จัดสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ประชาชนชาวโคราช และใกล้เคียง ได้มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเดินทาง ให้แคล้วคลาดปลอดภัย
วัดบุไผ่ เปรียบเสมือนเป็นวัดบ้านไร่แห่งที่ 2 โดยหลวงพ่อคูณได้บริจาคเงินเพื่อใช้ในการก่อสร้างวัดบุไผ่ จำนวนกว่า 30 ล้านบาท ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งสร้างกำแพงวัด, ซุ้มประตู, ทางเข้า-ออก, หอระฆัง, ห้องน้ำ และอยู่ระหว่างก่อสร้างศาลาการเปรียญ และอุโบสถ ซึ่งหากแล้วเสร็จจะเป็นศาสนสถานที่สำคัญเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาต่อไป
แผนที่
ที่กิน
ใครที่มาวังน้ำเขียวแล้วอยากได้อารมณ์คนพื้นถิ่น ขอแนะนำ “ร้านข้าวต้มกรุงเทพ (วังน้ำเขียว)” เนื่องจากเป็นร้านชื่อดังยอดนิยมของคนที่นี่ มีคนแวะเวียนเข้ามารับประทานไม่ขาดสาย ผมสั่งแกงป่าหมูป่า กบทอดกระเทียม ยำไข่เจียวฟู และผักกูดผัดไฟแดง ใครที่ชอบรสชาติจัดจ้าน ถึงเครื่องถึงรส รับรองไม่ผิดหวัง
ที่นอน
ที่พักในวังน้ำเขียวมีมากมาย แต่ผมเลือก “บ้านไร่ในวัง รีสอร์ท” เนื่องจากติดถนนหลัก และตั้งอยู่บนเนินเขา ทำให้มีวิวที่สวยงาม ตอนเช้าเห็นทะเลหมอกใกล้ๆ ที่พักแบ่งออกเป็นหลังๆ มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ในราคาเริ่มต้นเพียง 800 บาท/คืน
ขอขอบคุณ
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อพาหนะในการเดินทาง