ประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา บ้านเรามีใช้เทอร์โบแปรผัน หรือ VARIABLE-GEOMETRY TURBOCHARGER (VGS) อย่างแพร่หลาย ทั้งเครื่องยนต์ฝั่งยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี และอเมริกา เราจึงคุ้นชินว่าเทคโนโลยีมันคือที่สุดแล้วที่นำมาใช้ในรถยนต์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เทคโนโลยีต่างๆ นั้นมันมีข้อจำกัดเมื่อถึงเวลาหนึ่ง จะกลายเป็นเทคโนโลยีที่ล้าหลังไปในที่สุด และเทคโนโลยีที่เคยล้าหลังในยุคก่อน อาจจะถูกนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง เมื่อมีการพัฒนา หรือแก้ไขข้อจำกัดเดิมได้ เรื่องของเทอร์โบในรถยนต์ก็เช่นกัน เราเริ่มเห็นจากฝั่งยุโรป โดยเฉพาะเยอรมัน ที่กลับมาใช้เทคโนโลยี TWIN TURBO (ทวิน เทอร์โบ) อีกครั้ง หลังจากเริ่มใช้เทอร์โบแปรผันมานาน
ข้อดีของเทอร์โบแบบแปรผัน
ข้อดีของเทอร์โบแปรผัน คือ เป็นเทอร์โบที่สามารถ “ปรับทิศทางการไหลของไอเสียได้” ครีบที่ปรับองศาได้ในด้านไอเสียนั้นมีหน้าที่ “เปลี่ยนทิศทางการไหลของไอเสีย” ไม่ได้มีหน้าที่ “รีดไอเสียให้ไหลเร็ว หรือมีความเร็วเพิ่มขึ้น” แต่อย่างใด เป็นเรื่องที่เราเข้าใจกันผิดมานาน ในรอบต่ำไอเสียมีแรงดันต่ำ ครีบที่ปรับทิศทางได้มีหน้าที่บังคับการไหลของไอเสียแรงดันต่ำนั้น ให้มีทิศทางการไหลไปชนกับปลายกังหันด้านเทอร์ไบน์ หรือกังหันไอเสียนั่นเอง ถ้านึกภาพไม่ออกให้ลองนึกถึงกังหันกระดาษ หรือพลาสติคบางๆ ที่มีขายตามตลาดนัดสำหรับเด็กๆ เล่นกัน ลองเอามาเป่าด้วยแรงระดับหนึ่งแล้วลองดูความเร็วในการหมุนของกังหัน เทียบกับลองใช้หลอดเป่าด้วยแรงเท่าๆ กัน แต่เป่าไปที่ปลายกังหันจะเห็นความเร็วในการหมุนที่แตกต่างกันชัดเจน นั่นคือ ข้อดีของเทอร์โบแปรผัน แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็มีข้อจำกัดอยู่ดีเพราะช่วงรอบเครื่องต่ำๆ หรือจังหวะที่มีการเปลี่ยนเกียร์รอบเครื่องมีการเปลี่ยนแปลงแรงดันไอเสียก็น้อยอยู่ดี มันจึงมีอาการรอรอบให้รู้สึก
TWIN TURBO ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในรอบ 20 ปี
TWIN TURBO ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากตกยุดไปเมื่อราวๆ 20 ปีที่ผ่านมา อันที่จริงเทคโนโลยีนี้สามารถเพิ่มสมรรถนะให้แก่เครื่องยนต์ได้ตั้งแต่รอบต่ำถึงรอบสูง เพราะเทอร์โบต่างขนาด ต่างมีหน้าที่ช่วยเสริมกันนั่นเอง แต่สิ่งที่ทำให้มันตกยุคก็คือ ชิ้นส่วนมันเยอะ และการควบคุมแรงดันระหว่างเทอร์โบ 2 ลูกนั้นซับซ้อน และไม่แม่นยำเท่าที่ควร อีกสิ่งหนึ่ง คือต้นทุนที่แพงกว่านั่นเอง ปัจจุบันรถยนต์ระดับพรีเมียมกลับมาใช้เทคโนโลยีทวินเทอร์โบมาพักใหญ่ แต่ในกลุ่มรถกระบะ และ PPV เริ่มใช้กันมาหลายปีแล้ว เป็นเทคโนโลยียุคใหม่ที่มาพร้อมกับการลดความจุกระบอกสูบลง ในขณะที่แรงม้า และแรงบิดนั้นสูงมาก ปัจจุบันค่าย NISSAN (นิสสัน) กับ FORD (ฟอร์ด) นำร่องใช้งานมาหลายปี อีกเจ้าที่กำลังจะนำมาใช้ คือ MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) ที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปี หรือต้นปีหน้า
ข้อดีของ TWIN TURBO ในปัจจุบัน
ข้อดีของเทคโนโลยีทวินเทอร์โบในปัจจุบัน คือ ความแม่นยำฉับไวในการควบคุมการทำงาน ระหว่างเทอร์โบทั้ง 2 ตัว ด้วยการใช้ระบบอีเลคทรอนิคส์เข้ามาควบคุมการทำงาน ชิ้นส่วนต่อเชื่อมระหว่างเทอร์โบ 2 ลูกน้อยลงจากยุคก่อนมาก มีผลทำให้สามารถเพิ่มปริมาณอากาศให้แก่เครื่องยนต์ได้อย่างเพียงพอทุกช่วงรอบเครื่อง โดยเฉพาะรอบต่ำตั้งแต่เริ่มออกตัวช่วงเปลี่ยนเกียร์ และช่วงที่เห็นได้ชัด คือ การขับทางชัน รู้สึกได้ถึงการตอบสนองของแรงบิดที่ต่อเนื่องไม่มีอาการรอรอบ นอกเหนือจากสมรรถนะแล้วอีกเหตุผลที่สำคัญ คือ การลดมลพิษจากการเผาไหม้ ยิ่งมาตรฐานมลพิษยิ่งเข้มงวดมากขึ้นเท่าไร เทคโนโลยีการอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ยิ่งสำคัญมากขึ้นเท่านั้น เทคโนโลยีทวินเทอร์โบที่ล้ำหน้าไปมาก คือเทคโนโลยีที่อยู่ในรถระดับพรีเมียม ด้วยการใช้เทอร์โบลูกเล็กที่ทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าไม่ต้องง้อแรงดันไอเสีย แต่ราคาก็สูงมากเช่นกัน อีกหน่อยเมื่อต้นทุนถูกลงเราจะได้เห็นความแพร่หลายมากยิ่งขึ้น