TESLA MODEL Y ICONIC ของรถไฟฟ้า

TESLA (เทสลา) สร้างแรงกระเพื่อมในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเป้าหมายที่จะทำให้รถไฟฟ้าเข้าถึงตลาดคนทั่วไปได้จริงๆ โดยพัฒนาเทคโนโลยีให้มีราคาใกล้เคียงกับรถเชื้อเพลิงฟอสซิล และรุกตลาดใหม่ ในทวีปต่างๆ ทั่วโลก จนในที่สุดก็ถึงคิวของบ้านเรา เมื่อช่วงปลายปี 2565 ในสายตาของทีมนักออกแบบ พวกเขาจะมีความเห็นอย่างไรกับ TESLA MODEL Y (เทสลา โมเดล วาย) รถ 1 ใน 2 รุ่น ที่จำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเรา เชิญติดตาม   ภายนอก ภัทรกิติ์ : FRANZ VON HOLZHAUSEN (ฟรานซ์ ฟอน โฮลซ์เฮาเซน) คือ ผู้ออกแบบ และพัฒนารถยนต์ TESLA มาโดยตลอด ตั้งแต่รุ่นแรกๆ ผมมองว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถเต็มเปี่ยม และประสบการณ์สูง เพราะเคยทำงานกับหลายบแรนด์ เขาออกแบบให้ TESLA มีความคลีนของเส้นสาย กันชนหน้าเหมือนจำลองเงาของ ASTON MARTIN (แอสตัน มาร์ทิน) ซึ่งทำออกมาได้ดี ในเรื่องสัดส่วน TESLA MODEL Y คือ ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี แต่ความแปลกอยู่ที่หลังคา ซึ่งมีความโคร่งมาก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่มีที่นั่ง 3 แถว ซึ่งถ้าหลังคาต่ำอาจทำให้เข้าสู่ที่นั่งแถวสุดท้ายได้ลำบาก อย่างไรก็ตาม หลังคาโคร่งแบบนี้กลายเป็นจุดเด่น ทำให้รถคันนี้เวลาอยู่บนท้องถนน ดูแตกต่างจากรถคันอื่นๆ ชัดเจน สร้างความน่าสนใจ ทำให้มีคาแรคเตอร์ ขณะที่ TESLA MODEL 3 (โมเดล 3) จะดูคลีนๆ สะอาดๆ หรือถ้าเทียบกับ TESLA MODEL X (โมเดล เอกซ์) ก็จะดูใกล้เคียงกันเลย ถามว่ามีความล้ำสุดหรือไม่ ผมมองว่ามันสุดในเวลาของมัน ความหมาย คือ รูปลักษณ์ภายนอก ในช่วงเวลาที่โลกหมุนไปไว รถจากค่ายเกาหลีใต้อย่าง HYUNDAI IONIQ 6 (ฮันเด ไอโอนิก 6) ถึงจะเรียกว่าสุดจริงได้เต็มปาก อย่างไรก็ตาม TESLA มีความสดใหม่ กล้าในการออกแบบ เพราะ ELON MUSK (อีลอน มัสก์) เป็นคนบ้าที่กล้าลงมือทำในสิ่งที่แตกต่าง และต้องทำให้ได้ อะไรไม่สนใจก็ตัดทิ้งไป เพราะเขารู้ว่ากลุ่มลูกค้าอยากซื้ออะไร สรุป รูปลักษณ์ภายนอกของรถไฟฟ้าคันนี้มีความล้ำ เมื่อเทียบกับรถทั่วๆ ไปถือว่าไม่ธรรมดา จากนี้ไปบรรดาคู่แข่งจะจัดเต็มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น TOYOTA (โตโยตา), HYUNDAI หรือ KIA (เกีย) เพราะทุกค่ายอยากเป็นแบบ TESLA อภิชาติ : TESLA มีดีไซจ์นที่เฉพาะตัว ด้านหน้าคลีน รายละเอียดต่างๆ ทำออกมาได้ดี กราฟิค ฟอนท์ การวางตำแหน่ง แทบจะไม่ต่างจากรุ่น MODEL 3 คันนี้มีหลังคาที่ค่อนข้างสูง เมื่อดูจากสัดส่วนของตัวรถ เพราะเป็นครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ซึ่งผมมองว่ามีคาแรคเตอร์ที่ดี ตัวหลังคากับเส้นสายส่วนท้ายวิ่งเข้าไปหาไฟท้าย คล้ายๆ รุ่นที่แล้ว อาศัยหลักการทำงานของแอโรไดนามิคส์ การแบ่งพื้นที่กระจกกับพื้นที่สีตัวถัง ดูสวยงาม จัดสัดส่วนได้ลงตัว ล้อใหญ่เต็มซุ้มตามแบบฉบับรถไฟฟ้า พื้นผิวปั้นแต่งให้ดูมีกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะตัวโอเวอร์เฟนเดอร์ด้านท้ายทำออกมาอย่างมีสเตพ พร้อมกับมีการแก้ปัญหาทำให้ตัวถังดูบางลง มีความเพรียวมากขึ้น ส่วนพื้นผิวบริเวณด้านหน้า ลักษณะเป็นไฮไลท์น่าสนใจ โลโกตัวรถมีการประดับอย่างเรียบง่าย อีกส่วนที่น่าสนใจ คือ ไฟ ซึ่งใส่ใจกับรายละเอียด แม้จะมีคนวิจารณ์เรื่องงานประกอบ แต่ยอดขายของ TESLA ก็ยังเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือ ถ้าผู้ซื้ออยากได้รถที่มีงานประกอบดีๆ นั่นก็คงพิจารณาแค่ 3 บแรนด์ ได้แก่ MERCEDES–BENZ (เมร์เซเดส-เบนซ์), BMW (บีเอมดับเบิลยู) และ AUDI (เอาดี) ส่วน TESLA เขาซื้อเพราะต้องการสัมผัสเทคโนโลยีล้ำยุค   ภายใน ภัทรกิติ์ : ภายในห้องโดยสารสะอาดตา จนเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ความจริงห้องโดยสารของ TESLA มีเนื้อหาลึกมากกว่าที่เห็น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการเก็บเสียง เพราะเสน่ห์ของรถไฟฟ้า คือ ความเงียบ รถคันนี้ใช้โครงสร้างอลูมินัมชิ้นเดียว ซึ่งนอกจากจะแข็งแรงแล้ว การจัดการเรื่องเสียงก็ทำได้ดีมากด้วย เป็นนวัตกรรมอีกอย่างที่เขากล้าคิด กล้าทำ อภิชาติ : ห้องโดยสารของ TESLA มีความมีนีมอล แต่มีรายละเอียด พวงมาลัยมีปุ่มสั่งการไม่เยอะ แต่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้ใช้มือใหม่เท่าไร ต้องใช้เวลาเรียนรู้บ้าง ในมุมของผม การออกแบบภายในเรียบๆ ลักษณะนี้ทำให้ต้นทุนลดไปมาก เป็นวิธีคิดใหม่ อยู่ที่ว่าใครจะชอบแบบไหน อีกอย่างที่ผมมองว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ คือ คอนโซลกลางที่ดูเป็นรถเครื่องยนต์สันดาปภายในมากไปหน่อย ไหนๆ ไม่มีชุดเพลาขับแล้ว น่าจะทำให้ดีกว่านี้   ภาพรวม ภัทรกิติ์ : เรื่องรูปร่างหน้าตาขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน TESLA คือ รถไฟฟ้าที่คนซื้อเพราะเทคโนโลยี มากกว่าความพรีเมียม อภิชาติ : จุดขายของ TESLA คือ ระบบปฏิบัติการ ตัวถังภายนอกถือว่ามาตรฐาน การันตีด้วยตัวดีไซจ์เนอร์ ภายในแบบมีนีมอล ดูเรียบง่าย ตามแบบฉบับของค่ายผู้นำทเรนด์เทคโนโลยีรถไฟฟ้าแห่งยุค