ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ GREAT WALL MOTOR ประเทศไทย

GREAT WALL MOTOR หรือ GWM ประกาศแผนรุกตลาดเมืองไทย ต่อเนื่อง หลังประสบความสำเร็จเกินคาด “ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ GREAT WALL MOTOR ประเทศไทย ฟอร์มูลา : 1 ปีที่ผ่านมาของ GREAT WALL MOTOR (กเรท วอลล์ มอเตอร์) ประเทศไทย เป็นอย่างไร ? ณรงค์ : GREAT WALL MOTOR ประเทศไทย เริ่มเปิดจองรถยนต์รุ่นแรก คือ HAVAL H6 HYBRID SUV (ฮาวัล เอช 6 ไฮบริด เอสยูวี) ในเดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งทำยอดขายได้ 2,641 คัน ต่อมาได้แนะนำ ORA GOOD CAT (ออรา กูด แคท) รถยนต์ไฟฟ้า 100 % มียอดขายโดยรวม 462 คัน และปิดท้ายด้วย HAVAL JOLION HYBRID SUV (ฮาวัล โจไลออน ไฮบริด เอสยูวี) ในช่วงปลายปี มียอดขาย 599 คัน ทำให้ปีแรกของเรามียอดขายรวมทั้งสิ้น 3,702 คัน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในปีแรกของการเข้ามาดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ที่น่าสนใจ คือ การขายรูปแบบใหม่ที่เปิดให้จองรถยนต์ทางออนไลน์ ซึ่งลูกค้าให้การต้อนรับอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะ ORA GOOD CAT ที่มียอดจองจำนวนมาก อีกเรื่อง คือ ช่องทางการจัดจำหน่ายของ GREAT WALL MOTOR ไม่ใช่รูปแบบดีเลอร์ แต่เราดึงดูดผู้สนใจให้เข้าร่วมธุรกิจในรูปแบบ STORE โดยปัจจุบัน GWM STORE มีพันธมิตรรวม 30 แห่ง ทั้งที่เป็น DIRECT STORE และ PARTNER STORE นอกจากนี้ เรายังเปิด GWM APPLICATION เชื่อมต่อกับลูกค้าที่ให้ความสนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกครอบครัว GREAT WALL MOTOR ถึง 50,000 คน ปีนี้ตั้งเป้ามียูเซอร์ 150,000 คน หรือเพิ่มขึ้นอีก 100,000 คน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทายมาก ผ่านมาแค่ 3 เดือนแรกก็ขึ้นมาเป็น 85,000 คนแล้ว เป้าหมายในการเป็นผู้นำด้าน XEV ทำให้ GREAT WALL MOTOR ขยายสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยได้สร้างสถานีชาร์จขนาดใหญ่ G-CHARGE SUPERCHARGING STATION ที่สยามสแควร์ เป็นฟแลกชิพสโตร์แห่งแรก ซึ่ง GREAT WALL MOTOR อยากให้เห็นความตั้งใจของเรา สถานีนี้เปิดให้บริการชาร์จเร็วด้วยเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ DC จำนวน 3 เครื่องชาร์จ หัวชาร์จแบบ CCS TYPE 2 เครื่องละ 2 หัวจ่าย รวม 6 หัวจ่าย กำลังสูงสุดขนาด 160KW รองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้พร้อมกันถึง 6 ช่องจอด ถือว่าเป็นสถานีชาร์จไฟฟ้าแบบ DC ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ สิ่งที่ GREAT WALL MOTOR ประเทศไทย ดำเนินการมาทั้งหมด ไม่เคยทำที่ไหนมาก่อน เป็นประสบการณ์ใหม่ ความสำเร็จของประเทศไทย ทำ ให้บริษัทแม่นำรูปแบบธุรกิจนี้ไปใช้ในประเทศอื่นๆ ด้วย ฟอร์มูลา : นโยบาย และทิศทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ต่อจากนี้วางไว้อย่างไร ? ณรงค์ : เราต้องต่อยอดจากความสำเร็จ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า ปีที่แล้วเป็นการสร้างบแรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ต่อไป คือ การยอมรับ เพราะการซื้อรถมีมากกว่าเรื่องการตลาด ต้องมีความเชื่อมั่นในสินค้า และการบริการตามที่สัญญาไว้ การบริการรูปแบบใหม่ เป็นการบริการเชิงรุก โดยลูกค้าสามารถจองผ่านแอพฯ เข้ามาใช้บริการได้ หรือเรียกรถโมบายล์มาจอดหน้าบ้าน เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือทำงานออฟฟิศ สามารถให้เจ้าหน้าที่มารับรถ ทั้งหมดนี้เป็นรูปแบบใหม่ ส่งมอบประสบการณ์ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า อีกเรื่อง คือ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า ด้วยการขยายสโตร์ จากเดิม 30 แห่ง ปีนี้จะเพิ่มอีก 50 รวมเป็น 80 แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ของประเทศ เพิ่มความสะดวกสบาย และรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญเรามุ่งเน้นกลยุทธ์หลัก 3 ประการ ที่เริ่มต้นมา ให้ส่งผลต่อไป ได้แก่ 1. การเป็นผู้นำรถพลังงานไฟฟ้า โดยตั้งเป้าเปิดตัวรถยนต์ทั้งหมด 9 รุ่น ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยปีที่แล้วแนะนำรถออกสู่ตลาดแล้ว 3 รุ่น ส่วนปีนี้ จะเปิดตัวรถ 3 รุ่น จาก 3 บแรนด์ โดยเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100 % 2. การรับฟังเสียงของผู้บริโภค เราให้ความสำคัญเรื่องการรับฟังเสียงของผู้บริโภคชาวไทยมาตั้งแต่เริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจ โดยสิ่งที่ GREAT WALL MOTOR สร้างขึ้นใหม่ คือ เครือข่ายผู้จำหน่ายที่ปีนี้จะขยายเพิ่มเป็น 80 แห่ง ในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และหัวเมืองชั้นรอง อีกส่วนหนึ่งที่จะขยายควบคู่ไปกับ GWM STORE คือ สถานีชาร์จ ปีนี้จะขยายให้ได้ 55 แห่ง ภายในปีหน้าจะขยายเป็น 100 แห่ง และปี 2568 ขยายให้ครอบคลุม 300 แห่ง การขยายสถานีชาร์จแบ่งเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. G-CHARGE SUPERCHARGING STATION ซึ่งเราลงทุนเองเหมือนที่สยามสแควร์ แต่จะมีขนาดเล็กลง 2. PARTNER DC CHARGING STATION เราจะร่วมมือกับ PARTNER STORE ในการติดตั้งจุดชาร์จแบบชาร์จเร็ว (DC CHARGE) ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน และ 3. DESTINATION CHARGING STATION สถานีชาร์จปลายทางโดยจะจับมือกับพันธมิตรในการขยาย  เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าตามสถานที่ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ทั้งนี้สถานีชาร์จทั้ง 3 แบบ จะให้บริการรถทุกบแรนด์ ไม่จำกัดเฉพาะรถของ GREAT WALL MOTOR เท่านั้น และจะเปิดให้บริการ 24 ชม. 7 วัน โดยเข้ามาจองหัวจ่าย จองเวลาการชาร์จ จ่ายเงิน และดูประวัติการชาร์จได้ที่แอพพลิเคชันของ GREAT WALL MOTOR นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐในการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ โดยได้ร่วมกับ 3 หน่วยงานการไฟฟ้า ประกอบไปด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การร่วมมือครั้งนี้จะครอบคลุมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้าเพื่อรองรับการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ทั้งการติดตั้ง และการพัฒนาสถานีประจุไฟฟ้า การแบ่งปันองค์ความรู้ที่สำคัญในการดำเนินการ พร้อมยกระดับแอพพลิเคชัน และพแลทฟอร์มที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในอนาคต 3. การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้า นำเสียงของผู้บริโภค และคำแนะนำต่างๆ มาทำ NEW USER EXPERIENCE CONCEPT ผ่านกระบวนการ DESIGN THINKING ฟอร์มูลา : คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับมาตรการสนับสนุน ยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ ? ณรงค์ : การสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า 100 % ของรัฐบาลถือว่ามาถูกช่วงเวลาแล้ว เพราะหากมองถึงเป้าหมายการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดให้ได้ 30 % ของการผลิตยานยนต์ไทยในปี 2030 ถ้าไม่มีการส่งเสริมก็คงประสบความสำเร็จได้ยาก แต่พอมีมาตรการออกมาเป็นการปลดลอค ให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100 % เติบโตเพิ่มขึ้น และคนไทยเปิดใจให้การยอมรับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ คือ ผู้ผลิต และหน่วยงานของรัฐ ต้องร่วมมือสนับสนุนการขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น ใช้เพียงแอพฯ เดียวก็สามารถใช้ได้ครอบคลุมในทุกสถานีชาร์จ ไม่ใช่ต้องมี 10 แอพ สำหรับการหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ต้องง่าย จองหัวจ่าย รู้จักข้ามแอพ หรือการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้น รัฐบาลต้องส่งเสริมการลงทุนอย่างจริงจัง ทั้งมาตรการเรื่องภาษี เรื่องแรงจูงใจ ให้เกิดการคิดค้นพัฒนาเรื่องแบทเตอรี การผลิต ไม่ใช่นำเข้าอย่างเดียว เราต้องสร้างแรงงานที่มีความรู้ความสามารถในการผลิต EV ให้เร็วที่สุด ฟอร์มูลา : แผนการลงทุน ? ณรงค์ : GREAT WALL MOTOR ได้รับการสนับสนุนจาก BOI ปลายปีหน้าจะเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการผลิตแบทเตอรี และในต้นปี 2567 จะผลิตรถยนต์ ORA GOOD CAT จากสายการผลิตที่ระยอง