BMW I7 XDRIVE60 สุดยอดรถหรูพลังไฟฟ้าติดตราใบพัดเครื่องบิน

รถใหม่ที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ เป็นรถเก๋งซีดานขนาดใหญ่ล้วนๆ คันที่ยาวที่สุดนั้นมีตัวถังที่ยาวถึง 5.465 ม. และคันที่สั้นที่สุดก็ยังยาวถึง 5.179 ม. เป็นรถจาก 2 ประเทศ คือ เยอรมนีกับสาธารณรัฐเกาหลี เป็นผลงานของผู้ผลิตรถยนต์ 4 ราย เปิดระเบียงด้วยผลงานใหม่ของค่าย “ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว” คือ รถพลังไฟฟ้าล้วนๆ BMW I7 XDRIVE60 (บีเอมดับเบิลยู ไอ 7 เอกซ์ ดไรฟ 60) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรถ BMW 7-SERIES (บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-7) รุ่นล่าสุด ซึ่งจะเริ่มการจำหน่ายในเยอรมนีก่อนสิ้นปีเสือแทบไม่เหลือลายนี้ ผู้ผลิตรถสุดหรู ซึ่งประวัติความเป็นมาในบางช่วงเกี่ยวข้องกับเครื่องบิน เริ่มบรรจุรถเก๋งซีดานขนาดใหญ่ BMW 7-SERIES เข้าสู่สายการผลิตเมื่อปี 1977 และก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนรุ่นรถอนุกรม ไปแล้วรวม 5 ครั้ง ในปี 1986, 1994, 2001, 2008 และ 2015 รถรุ่นล่าสุดนี้จึงนับนิ้วได้ว่าเป็นรุ่นที่ 7 เพิ่งเปิดเผยโฉมหน้าเมื่อปลายเดือนเมษายน 2022 พร้อมคำยืนยันว่า จะมีตัวถังเพียงขนาดเดียว เป็นตัวถังยาว 5.391 ม. ไม่มีให้เลือก 2 ขนาดความยาวเหมือนรถรุ่นก่อนๆ แต่ระบบขับจะมีให้เลือกหลากหลาย และขึ้นอยู่กับตลาดที่จำหน่าย คือ มีทั้งรถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทำงานร่วมกันกับระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน รถ PLUG-IN HYBRID หรือไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ และรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ไม่นานหลังการเปิดตัวก็มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่าน bmw.de ซึ่งเป็นเวบไซท์สำหรับผู้ต้องการซื้อรถ ในเยอรมนีจะมีรถให้เลือก 4 โมเดล และทั้งหมดล้วนเป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อ แยกเป็นรถติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล และระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน 1 โมเดล คือ BMW 740D XDRIVE (220 กิโลวัตต์/299 แรงม้า) เป็นรถ PLUG-IN HYBRID หรือไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ 2 โมเดล คือ BMW 750E XDRIVE (360 กิโลวัตต์/489 แรงม้า) กับ BMW M760E XDRIVE (420 กิโลวัตต์/571 แรงม้า) และเป็นรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ 1 โมเดล คือ BMW I7 XDRIVE60 รวมทั้งบอกด้วยว่า เฉพาะรถ 3 โมเดลแรก ต้องรอจนถึงฤดูใบไม้ผลิของปี 2023 (ประมาณไตรมาส 2) จึงจะเริ่มการจำหน่าย BMW I7 XDRIVE60 เป็นรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ขนาดใหญ่ที่สุดของค่ายนี้ในขณะนี้ มีขนาดตัวถังยาว 5.391 ม. กว้าง 1.950 ม. สูง 1.544 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ต่ำมาก คือ แค่ 0.24 เป็นตัวถังทรง 3 กล่องที่ออกแบบใหม่หมดตั้งแต่พื้นรถจรดหลังคา มีหน้าตา และรูปทรงองค์เอว ที่เห็นแล้วหัวใจอาจเต้นเร็วกว่าปกติ มีรายละเอียดในบางจุดที่สะดุดตาสะดุดใจมาก โดยเฉพาะดวงโคมไฟหน้าแต่ละข้าง ที่ออกแบบให้แยกเป็น 2 ดวง เป็นลักษณะการออกแบบที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลยในรถแบบใดๆ ของค่ายนี้ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน เป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 190 กิโลวัตต์/258 แรงม้า ขับล้อคู่หน้า และใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 230 กิโลวัตต์/313 แรงม้า ขับล้อคู่หลัง ได้กำลังรวมสูงสุด 420 กิโลวัตต์/544 แรงม้า ได้แรงบิดสูงสุด 745 นิวตัน-เมตร/76.0 กก.-ม. และส่งกำลังสู่ล้อผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติจังหวะเดียว ส่วนอุปกรณ์ป้อนพลังไฟฟ้า คือ แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาดความจุสุทธิ 101.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งติดตั้งอยู่ใต้พื้นรถ เป็นแบทเตอรีซึ่งการชาร์จไฟ 10-100 % ด้วยไฟบ้านกระแส สลับ 3 เฟส ขนาด 16 แอมพ์/380 โวลท์ โดยอุปกรณ์ติดฝาผนังที่เรียกกันว่า WALLBOX จะใช้เวลาไม่เกิน 9.5 ชม. และการชาร์จไฟ 10-80 % แบบเร่งด่วนด้วยไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งกระทำที่สถานีชาร์จไฟจะใช้เวลาเพียง 34 นาที เมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP รถจะวิ่งได้ไกล 590-625 กม. และมีอัตราสิ้นเปลืองพลังไฟฟ้าเฉลี่ย 0.184-0.196 กิโลวัตต์ชั่วโมง/กม. ตามตัวเลขของผู้ผลิต อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 4.7 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 240 กม./ชม. ค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ของเยอรมนี เริ่มต้นที่ 135,900 ยูโร หรือประมาณ 5.05 ล้านบาทไทย เป็นรถพลังไฟฟ้าที่ซื้อแล้วไม่ได้รับโบนัส หรือเงินอุดหนุนจากรัฐ เพราะราคาสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด   BMW I7 XDRIVE60 รถเก๋งซีดานระดับหรูขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนทุกล้อด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ มิติตัวถัง 5.391x1.950x1.544 ม. สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.24 มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด กำลังรวมสูงสุด 400 กิโลวัตต์/544 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. (จำกัด) ราคารวมภาษีในเยอรมนี เริ่มต้นที่ 135,900 ยูโร (ประมาณ 5.05 ล้านบาทไทย)