เติม E85 คุ้มเงินที่สุด ในยุคน้ำมันแพง...จริงไหม ?

เขาว่า : เติมน้ำมัน E85 จะคุ้มเงินที่สุด ในยุคน้ำมันแพง...จริงไหม ? ไม่จริง : E85 จะคุ้มค่าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับส่วนต่างของราคาน้ำมัน เพราะค่าพลังงาน E85 จะน้อยกว่าน้ำมันเบนซิน (ล้วนๆ) ราว 34 % ช่วงที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นเกือบทุกวันแบบนี้ คนใช้รถหลายคนเริ่มหันมาเติมแกสโซฮอล E85 กันเยอะขึ้น จากเหตุจูงใจด้านราคาที่ยังไม่ถึง 30 บาท/ลิตร (ณ เดือน กพ. 2565) แต่เมื่อใช้ไปสักพัก ก็มักจะมีคำถามตามมาถึงอัตราสิ้นเปลืองที่มากกว่าน้ำมันเบนซินเดิมที่เคยใช้อยู่ (กินน้ำมันกว่าเดิม) เรื่องนี้คนใช้รถรู้ดีอยู่แล้ว เพราะได้มีการประชาสัมพันธ์ และพูดถึงกันมามากกว่า 10 ปี แต่ผมจะขอย้ำเตือนอีกครั้ง เพื่อจะได้ประเมินคร่าวๆ ได้ด้วยตนเอง แกสโซฮอล E85 เกิดขึ้นจากแนวคิดลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประ เทศ ด้วยการใช้ "เอธานอล" จากพืชที่ประเทศเรา "ปลูก" เองได้ การนำเอธานอลมาใช้เป็นเชื้อเพลิงมีด้วยกัน 2 แนวทาง คือ ใช้ผสมกับเบนซินในสัดส่วนที่น้อย เพื่อช่วยลดต้นทุน โดยไม่ต้องดัดแปลงเครื่องยนต์ เช่น เอธานอล 10 % ที่รู้จักกันในชื่อแกสโซฮอล E10 หรืออาจขยับมาเป็น 20 % ในชื่อ E20 กับแนวทางที่ 2 คือ ต้องการใช้เอธานอลให้มากที่สุด แต่ถ้าใช้ล้วนๆ ก็จะมีจุดอ่อนมากเกินไปจนไม่คุ้ม จึงผสมเบนซินไว้บ้าง เช่น เอธานอล 85 % หรือ E85 จุดอ่อนที่ว่า คือ เมื่อนำเอธานอลมาเป็นเชื้อเพลิง ถ้าเข้มถึงระดับหนึ่ง อาจกัดกร่อนวัสดุของระบบเชื้อเพลิง เช่น ยาง พลาสติค อลูมิเนียม และอีกข้อที่สำคัญ คือ การมีพลังงานน้อยกว่าเบนซินราวๆ 34 % เมื่อเทียบปริมาตรที่เท่ากัน หมายความว่า รถจะแล่นไปได้ระยะทางสั้นกว่าใช้เบนซินล้วน ในปริมาตรเท่ากัน (ระยะทาง/ลิตร) 34 % ในทางทฤษฎี ผมขอยกตัวอย่างการทดสอบรถบางรุ่นในต่างประเทศ ระยะทางที่ทำได้เมื่อใช้ E85 แทนเบนซินในปริมาตรเท่ากัน จะลดลงราว 25 % เช่น จาก 100 กม. เหลือ 75 กม. เพราะฉะนั้นการใช้ E85 จะช่วยให้ประหยัด (เงินของเรา) เพียงใด ขึ้นอยู่กับ “ส่วนต่างของราคาเชื้อเพลิง” ระหว่างเบนซิน E10/E20 และ E85 โดยต้องวัดอัตราการสิ้นเปลืองในระยะทางที่มากพอด้วยครับ