FERRARI DAYTONA SP3 รถสปอร์ทม้าลำพอง หวนคืนอดีตเพื่อมุ่งสู่อนาคต

เดือนที่ 2 ของปีเสือไม่เหลือลาย “ระเบียงรถใหม่” เล่าเรื่องราวของรถสปอร์ทล้วนๆ เป็นรถ 2 สัญชาติ คือ รถอิตาลีกับรถเยอรมนี และเป็นผลงานใหม่ของผู้ผลิตรถสปอร์ทยอดดัง 2 ราย คือ FERRARI (แฟร์รารี) กับ PORSCHE (โพร์เช) มีตั้งแต่รถแรงระดับ 353 กิโลวัตต์/480 แรงม้า ไปจนถึงรถแรง 618 กิโลวัตต์/840 แรงม้า มีตั้งแต่รถวิ่งเร็ว 307 กม./ชม.ไปจนถึงรถที่วิ่งได้เร็วกว่า 340 กม./ชม. เริ่มกันที่ผลงานใหม่เอี่ยม แต่ติดป้ายดำของค่าย “ม้าลำพอง” คือ FERRARI DAYTONA SP3 (แฟร์รารี เดย์โทนา เอสพี 3) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวที่สนามแข่งรถ MUGELLO (มูเจลโล) ในเมืองมะกะโรนี เมื่อวันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2021 เป็นรถโมเดลพิเศษที่ผลิตจำนวนจำกัด แต่ยังไม่ยอมบอกว่ากี่คัน ? บอกเพียงแต่ว่า “TIGHTLY LIMITED” หรือ “จำกัดอย่างยิ่ง” แม้แต่ราคาค่าตัวก็ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม คาดกันว่าในยุโรป น่าจะสูงกว่า 1.8 ล้านยูโร หรือประมาณ 72.0 ล้านบาทไทย ซึ่งเป็นค่าตัวของรถผลิตจำนวนจำกัดอีก 2 แบบ ที่ค่ายนี้นำออกอวดเมื่อเดือนกันยายน 2018 และบอกว่าจะจำกัดจำนวนผลิตไม่เกิน 500 คัน คือ FERRARI MONZA SP1 (แฟร์รารี มนซา เอสพี 1) กับ FERRARI MONZA SP2 (แฟร์รารี มนซา เอสพี 2) เป็นรถที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อรำลึกถึงการแข่งรถ WORLD SPORTS PROTOTYPE CHAMPIONSHIP (เวิร์ลด์ สปอร์ทส์ พโรโทไทพ์ แชมเพียนชิพ) ซึ่งมีขึ้นที่สนามแข่งรถ DAYTONA INTERNATIONAL SPEEDWAY (เดย์โทนา อินเตอร์เนชันแนล สปีดเวย์) ในรัฐฟลอริดาของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1967 และเป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของค่าย “ม้าลำพอง” เพราะรถแข่ง FERRARI 330 P3/4 รถแข่ง FERRARI 330 P4 และรถแข่ง FERRARI 412 P กวาดตำแหน่ง 1-2-3 ไปได้ทั้งหมด เป็นรถโมเดลใหม่ที่ไม่ได้รังสรรค์ขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่ออกแบบ/พัฒนาโดยใช้รถที่มีอยู่ก่อนแล้วในสายการผลิต คือ FERRARI 812 COMPETIZIONE (แฟร์รารี 812 กมเปติซิโอเน) ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2021 เป็นพื้นฐาน ที่น่าทึ่งมากก็คือ คำประกาศสรรพคุณพร้อมการเปิดตัว ว่านี่คือ รถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในไร้พลังไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของค่าย “ม้าลำพอง” และนี่คือรถที่มีประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์สูงสุดในประวัติศาสตร์ของค่าย “ม้าลำพอง” ซึ่งไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์อากาศพลศาสตร์ที่เคลื่อนไหวได้ใดๆ ตัวถังเปิดประทุน 2 ประตู 2 ที่นั่ง มีขนาดยาว 4.686 ม. กว้าง 2.050 ม. สูง 1.142 ม. และมีน้ำหนักตัวเปล่าที่เบามาก คือ แค่ 1,485 กก. มีรูปลักษณ์ และรายละเอียดในหลายจุดที่ชวนให้รำลึกถึงรถแข่งซึ่งเป็นที่มา ตัวอย่าง เช่น กระจกบังลมหน้าแบบโอบหุ้มอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า WRAPAROUND WINDSCREEN (แรพอราวน์ด์ วินด์สกรีน) ประตูข้างที่เปิด/ปิดแบบปีกผีเสื้อและมีกล่องลมเพื่อนำอากาศเข้าสู่หม้อน้ำทางด้านข้าง ชิ้นส่วนเปิด/ปิดได้ตรงกึ่งกลางกันชนหน้าที่ชวนให้นึกถึงดวงโคมไฟหน้าเปิด/ปิดได้อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า POP-UP HEADLIGHTS (พอพ-อัพ เฮดไลท์ส์) และกระจกมองข้างที่ติดตั้งอยู่บนปีกหน้าทั้ง 2 ด้าน ส่วนภายในห้องโดยสาร จุดที่สมควรกล่าวถึง คือ เก้าอี้ที่นั่งทั้ง 2 ตัว ที่ออกแบบเป็นชิ้นเดียวกันกับตัวถังเหมือนรถแข่งพโรโทไทพ์ยุคคลาสสิค ไม่ใช่ยึดโดยตรงกับแชสซีส์ ขุมพลังเป็นผลลัพธ์จากการนำเครื่องยนต์เบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง วี 12 สูบ 65 องศา 6,496 ซีซี 610 กิโลวัตต์/830 แรงม้า (รหัสเครื่องยนต์ F140HB) ของรถซึ่งเป็นที่มา มาปรับแต่งรายละเอียดในหลายจุด รวมทั้งปรับระบบไอดีไอเสีย ใช้ก้านสูบมวลเบาซึ่งทำจากไททาเนียม และใช้แกนข้อเหวี่ยงที่เบาลง พร้อมปรับสมดุล สิ่งที่ได้ คือ เครื่องยนต์รหัส F140HC ซึ่งกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้น 8 กิโลวัตต์/10 แรงม้า เป็น 618 กิโลวัตต์/840 แรงม้า และผู้ผลิตยืนยันว่าเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยทำ ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังสู่ล้อคู่หลัง ใช้เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7DCT.F1 ชุดเดิม สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขผู้ผลิต อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 2.85 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ทำได้ใน 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุด สูงกว่า 340 กม./ชม.   FERRARI DAYTONA SP3 รถสปอร์ทเปิดประทุนแบบ “ทาร์กา” วางเครื่องกลางลำ/ขับเคลื่อนล้อหลัง มิติตัวถัง 4.686x2.050x1.142 ม. น้ำหนักรถเปล่า 1,485 กก. เครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง วี 12 สูบ 6,496 ซีซี 618 กิโลวัตต์/840 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.85 วินาที ความเร็วสูงสุด สูงกว่า 340 กม./ชม.