วิถีตลาดรถยนต์
ทั้งดีทั้งร้าย
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน 2021/2020
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-เมษายน 2021/2020
เริ่มต้นไตรมาสที่ 2 ของปี มีทั้งข่าวดี และข่าวร้ายเกิดขึ้นในเดือนเดียวกัน ปกติเดือนเมษายนของทุกปีจะเป็นเดือนแห่งความสนุกสนาน เดือนแห่งความสุขของพ่อแม่พี่น้องที่จำต้องจากถิ่นฐานบ้านเกิดมาทำมาหากินในแดนศิวิไลซ์ ซึ่งจะได้กลับไปเยือนถิ่นฐานบ้านช่องเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ หลังจากในปี 2563 ที่ผ่านมา นักรบแรงงานรับจ้างเหล่านี้อาจจะไม่ได้กลับไปเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากอยู่ในช่วงการระบาดอย่างหนักของวายร้าย COVID-19 รอบแรก แต่ภาครัฐก็ยังรับมือได้เป็นอย่างดีกับการระบาดในรอบแรก และรอบสอง ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2563 แต่สุดท้ายย่างเข้าเดือนเมษายน 2564 การระบาดในรอบใหม่รอบที่ 3 ก็มาเยือนจนได้ โดยมีที่มาจากแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน และลามต่อไปยังกลุ่มอื่นๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งรอบนี้ทำท่าว่าจะหนัก และรุนแรงกว่า 2 ครั้งที่ผ่านมา ถึงแม้จะไม่มีการประกาศลอคดาวน์ทั่วประเทศเหมือนครั้งแรก ยังคงให้อิสระพอสมควรกับการเดินทางข้ามเขต ข้ามจังหวัด แต่เมื่อไปแล้วก็ต้องกักตัวดูอาการ 14 วัน ทำเอาคนจำนวนมากเลือกที่จะเก็บตัวอยู่ในที่ตั้งเดิม เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน COVID-19 ซาแล้ว รับวัคซีนอะไรต่อมิอะไรแล้ว ค่อยวางแผนเดินทางกันใหม่ ถือว่าเป็นข่าวร้ายที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะมันกระทบไปทั่วตั้งแต่ผู้คนรากแก้วไปจนถึงรากหญ้า ได้แต่หวังให้แผนการจัดหาจัดฉีดวัคซีนเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่อย่างที่ชี้แจงแถลงไขเอาไว้ แล้วเศรษฐกิจการดำเนินชีวิตจะได้กลับมาอยู่ในสภาพหายใจคล่องกว่าที่เป็นอยู่ ใกล้เคียงสภาพก่อนเกิดการระบาดของเจ้าวายร้าย COVID-19 นี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ส่วนข่าวดีในเดือนเมษายนนี้ก็คือ ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ปรับตัวดีดขึ้นไปอยู่ในแดนบวก ทุกตลาดใหญ่มีตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นกว่าในช่วงเดือน และช่วงระยะเวลาเดียวกัน เมื่อเทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายของเดือนเมษายน และตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่ต้นปี 2563 แล้ว ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเป็นผลมาจากการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ปี 2564 ที่สามารถทำให้เกิดการจับจองเป็นเจ้าของรถยนต์ใหม่ได้มากถึง 27,886 คัน เพิ่มขึ้น 34.1 % เมื่อเทียบกับยอดจองในปี 2563 โดยรถยนต์ที่ได้รับการจับจองเป็นเจ้าของมากที่สุด 10 บแรนด์แรก ไล่เรียงตามลำดับไป ได้แก่ TOYOTA (โตโยตา), MAZDA (มาซดา), HONDA (ฮอนดา), ISUZU (อีซูซุ), SUZUKI (ซูซูกิ), MERCEDES-BENZ (เมร์เซเดส-เบนซ์), MG (เอมจี), MITSUBISHI (มิตซูบิชิ), FORD (ฟอร์ด) และ NISSAN (นิสสัน) นอกจากนี้ ในงานยังมีการเปิดตัวรถยนต์บแรนด์ใหม่ HAVAL (ฮาวัล) จากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ที่คาดว่าจะได้รับการต้อนรับจากผู้ใช้รถในเมืองไทยอย่างอบอุ่นไม่แพ้บแรนด์ MG ด้วยแต่จากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ระลอก 3 ที่ยังไม่รู้ว่าจะกินระยะเวลานานไปถึงเมื่อไหร่ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าตัวเลขยอดจำหน่ายที่รับตัวสูงขึ้นนี้จะยืนระยะได้ไม่นาน อาจจะเป็นแค่เพียงเดือนเมษายนนี้เดือนเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นอาจจะกลับมาหงอยเหงามากขึ้นก็เป็นได้
สำหรับเดือนเมษายน 2564 ตลาดรถยนต์บ้านเรามีตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่รวมกันทั้งสิ้น 58,132 คัน เพิ่มขึ้นถึง 93.1 % จากเมษายน 2563 รถยนต์ที่จำหน่ายได้มากสุด 5 อันดับแรก ยังคงเป็นหน้าเก่าหน้าเดิมทั้งสิ้น ประกอบด้วยอันดับ 1 TOYOTA 19,087 คัน เพิ่มขึ้น 72.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 32.8 % อันดับ 2 ISUZU 14,953 คัน เพิ่มขึ้นถึง 117.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 25.7 % อันดับ 3 HONDA 5,419 คัน เพิ่มขึ้นถึง 104.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 9.3 % อันดับ 4 MITSUBISHI 4,107 คัน เพิ่มขึ้นถึง 103.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.1 % และอันดับ 5 NISSAN 3,166 คัน เพิ่มขึ้น 75.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.4 % ขณะที่ตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน 2564 อยู่ที่ 252,269 คัน เพิ่มขึ้น 9.6 % จากห้วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2563 ยอดจำหน่ายสะสมสูงสุดยังคงเป็น TOYOTA 74,859 คัน เพิ่มขึ้น 11.6 % ส่วนแบ่งตลาด 29.7 % ISUZU 64,201 คัน เพิ่มขึ้น 30.3 % ส่วนแบ่งตลาด 25.4 % HONDA 30,378 คัน ลดลง 3.0 % ส่วนแบ่งตลาด 12.0 % MITSUBISHI 16,192 คัน ลดลง 14.7 % ส่วนแบ่งตลาด 6.4 % และ MAZDA 13,098 คัน เพิ่มขึ้น 17.3 % ส่วนแบ่งตลาด 5.2 %
ทางด้านรถพิคอัพ 1 ตัน เดือนเมษายนนี้มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 27,458 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2563 ถึง 64.1 % แชมพ์จำหน่ายขายดิบขายดีที่สุดยังคงเป็นพิคอัพของค่าย ISUZU เดือนนี้จำหน่ายได้รวมทั้งสิ้น 11,725 คัน เพิ่มขึ้น 87.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 42.7 % ตามด้วย TOYOTA 10,417 คัน เพิ่มขึ้น 48.4 % ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 37.9 % FORD 2,271 คัน เพิ่มขึ้น 88.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.3 % MITSUBISHI 1,859 คัน เพิ่มขึ้น 55.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.8 % และ NISSAN 662 คัน ลดลง 2.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 2.4 % รวมมกราคมถึงเมษายน 2564 พิคอัพใหม่ป้ายแดงจำหน่ายออกไปแล้วรวม 120,990 คัน เพิ่มขึ้น 6.4 % เมื่อเทียบกับห้วงเดียวกันของปี 2563 ไล่เรียงยอดจำหน่ายสะสมสูงสุดก็เหมือนกับยอดจำหน่ายรายเดือนเริ่มจาก ISUZU 55,232 คัน เพิ่มขึ้น 20.4 % ส่วนแบ่งการตลาดจากยอดจำหน่ายรวมนี้อยู่ที่ 45.7 % TOYOTA 42,547 คัน เพิ่มขึ้น 7.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 35.2 % FORD 9,934 คัน เพิ่มขึ้น 18.2 % ส่วนแบ่งตลาด 8.2 % MITSUBISHI 8,078 คัน ลดลง 26.8 % ส่วนแบ่งตลาด 6.7 % และ NISSAN 2,765 คัน ลดลง 47.1 % ส่วนแบ่งตลาด 2.3 %
ส่วนของรถกิจกรรมกลางแจ้ง หรือเอสยูวี เดือนเมษายนนี้ รถเอสยูวีทั้งเล็ก และใหญ่ หรูหราราคาแพง หรือใช้งานระดับชาวบ้านทั่วไป จำหน่ายได้รวมกันทั้งสิ้น 5,542 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2563 ถึง 141.7 % เดือนนี้ค่าย MG กลับมายึดหัวแถวยอดจำหน่ายสูงสุดอีกครั้ง ด้วยยอด 1,565 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น 92.5 % ถือครองส่วนแบ่งการตลาด 28.2 % ตามติดด้วยยอดจำหน่ายของ TOYOTA 1,412 คัน เพิ่มขึ้นถึง 432.8 % ส่วนแบ่งการตลาดรับไป 25.5 % ต่อมาเป็น MAZDA จำหน่ายได้รวม 1,000 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น 113.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 18.0 % ต่อด้วยค่าย HONDA จำหน่ายได้รวม 982 คัน เพิ่มขึ้น 134.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 17.7 % และ SUBARU (ซูบารุ) 349 คัน เพิ่มขึ้นถึง 1,192.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.3 % รวม 4 เดือนแรกของปี 2564 รถเอสยูวีมียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 24,899 คัน เพิ่มขึ้น 44.9 % เมื่อเทียบกับ 4 เดือนแรก ปี 2563 เบอร์ 1 ของตลาดนี้ยังคงเป็น TOYOTA ที่จำหน่ายไปแล้วรวม 6,669 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นถึง 311.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 4 เดือนแรกอยู่ที่ 26.8 % อันดับ 2 MG จำหน่ายแล้ว 6,310 คัน เพิ่มขึ้น 26.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 25.3 % อันดับ 3 MAZDA จำหน่ายไปแล้ว 5,071 คัน เพิ่มขึ้น 123.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 20.4 % อันดับ 4 HONDA จำหน่ายแล้ว 4,594 คัน ลดลง 10.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 18.5 % และอันดับ 5 SUBARU 1,295 คัน เพิ่มขึ้น 183.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.2 %
สำหรับรถยนต์ประเภทอื่นๆ ไม่รวมรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เดือนเมษายน 2564 ตัวเลขยอดจำหน่ายอยู่ที่ 8,144 คัน เพิ่มขึ้นถึง 261.5 % เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2563 รวม 4 เดือนแรกรถยนต์ใช้งานกลุ่มนี้จำหน่ายแล้วรวม 24,136 คัน เพิ่มขึ้นถึง 99.9 %
อนึ่ง เดือนเมษายน 2564 มีการจดทะเบียนใช้งานรถยนต์ประเภทพิคอัพ และเอสยูวี ทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 40,037 คัน เพิ่มขึ้น 13.1 % เมื่อเทียบกับเมษายน 2563
ตลาดโดยรวม | + 93.1 % |
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) | + 141.7 % |
กระบะ 1 ตัน | + 64.1 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | + 261.5 % |
ตลาดโดยรวม | + 9.6 % |
รถยนต์นั่ง | - 5.7 % |
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) | + 44.9 % |
กระบะ 1 ตัน | + 6.4 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | + 99.9 % |
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2564
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/376238