ตำนานของม้าป่า MUSTANG (มัสแตง) อยู่คู่กับค่าย FORD (ฟอร์ด) มาช้านาน สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของสมรรถนะ และการขับขี่ที่เร้าใจราวกับการควบม้าป่าได้เป็นอย่างดี และเมื่อถึงเวลาที่ FORD ต้องปรับรูปแบบของ MUSTANG มาสู่รถขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า 100 % หรือ EV จึงได้เริ่มเปิดตลาด MUSTANG ในรูปโฉมรถเอสยูวีพลังไฟฟ้า แทนรถสปอร์ทอันปราดเปรียวที่เราคุ้นเคยMUSTANG MACH-E (มัค-อี) ยังคงเอกลักษณ์เส้นสายของรถสปอร์ท FORD MUSTANG ไว้ในหลายๆ ส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโลโกม้าป่า, ไฟท้ายทรงเหลี่ยมแบบแอลอีดี 3 แถบ เส้นแนวหลังคาด้านหลังที่ลาดเอียงไปจรดท้ายรถ กระจังหน้าเปลี่ยนรูปทรงมาเป็นแบบสี่เหลี่ยมคางหมู ภายในรถกว้างขวาง เน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก ฟังค์ชันการใช้งานครบครัน ระบบเครื่องเสียงชั้นดีจาก BANG& OLUFSEN เจ้าของรถสามารถสตาร์ทรถจากภายนอกผ่านสมาร์ทโฟน การออกแบบภายในรองรับกับการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีความจุ 821 ลิตร และเมื่อพับเบาะแถวหลังลง สามารถเพิ่มความจุเป็น 1,688 ลิตร MASTANG MACH-E มีให้เลือกตามสมรรถนะถึง 5 รุ่นย่อย มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าหลากหลาย ที่มีขนาดตั้งแต่ 255 แรงม้า ไปจนถึง 459 แรงม้า พร้อมแบทเตอรีเก็บไฟที่มีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 75.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ไปจนถึงสูงสุด 98.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางไกลเริ่มตั้งแต่ 340-480 กม. จากการชาร์จเต็มที่เพียงครั้งเดียว ในรุ่นทอพสุด สามารถทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ในเวลาเพียงแค่ 3.5 วินาที ในบางรุ่นมีให้เลือกระหว่างระบบขับเคลื่อนแบบ 2 และ 4 ล้อ เจ้าของรถ MASTANG MACH-E จะใช้เวลาอยู่ที่สถานีชาร์จเพียง 38 นาที สำหรับรอการชาร์จไฟฟ้าจาก 10 % ไปถึง 80 % ส่วนโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ อาทิ WHISPER/ENGAGE และ UNBRIDLED หรือถ้าเทียบกับโหมดขับขี่โดยทั่วไปก็คือ ECO, COMFORT และ SPORT นั่นเอง ที่จะไปปรับทูนการตอบสนองของพวงมาลัย, เสียงเครื่องยนต์สังเคราะห์ที่ดังอยู่ภายในรถ เพื่อเพิ่มความเร้าใจของผู้ขับขี่ และรูปแบบการแสดงผลข้อมูลการขับขี่ที่แผงหน้าปัด รวมไปถึงสีไฟในห้องโดยสาร และทอพสุดในรุ่น GT PERFORMANCE EDITION (จีที เพอร์ฟอร์มานศ์ เอดิชัน) จะเพิ่มระบบการปรับแต่งระบบรองรับตามการใช้งานได้โดยอัตโนมัติเข้าไปด้วย จากการทดลองขับ พบว่า MUSTANG MACH-E เป็นรถที่เร็ว และมีเสียงที่เงียบสนิท การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนได้อย่างนุ่มนวล และต่อเนื่อง แต่ก็ทำให้ขาดรสชาติของการขับเจ้าม้าป่า MUSTANG ในอดีตที่มีซุ่มเสียงจากท่อไอเสียคำรามเร้าใจ ราคาค่าตัวอยู่ในเกณฑ์เหมาะสม แต่ในเรื่องของอัตราเร่ง ความเร็ว ระยะการเดินทางที่ทำได้จากกระแสไฟในแบทเตอรี ยังเป็นรอง TESLA (เทสลา) อยู่พอสมควรทีเดียว จากการทดสอบการยึดเกาะถนนในสถานีสกิดเพด MUSTANG ทำได้ 0.85 จี ในขณะที่ FORD EDGE ST (ฟอร์ด เอดจ์ เอสที) มีค่า 0.89 จี ส่วน TESLA ทำได้ถึง 0.88 จี เลยทีเดียว เกียร์ในตำแหน่ง L ของ MACH-E จะมีอัตราทดเดียว เหมาะสำหรับการช่วยชะลอความเร็วขณะที่ขับลงทางลาดชัน ถึงแม้ว่า FORD MUSTANG MACH-E จะมีสมรรถนะด้านต่างๆ เป็นรอง TESLA อยู่พอสมควร แต่ด้วยราคา ความอเนกประสงค์ในการใช้งาน การออกแบบที่สวยงามทั้งภายนอก และภายใน ฯลฯ ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบรถ EV ต้องหันมาพิจารณา MUSTANG MACH-E อีกครั้งก่อนตัดสินใจเลือกซื้อรถ EV มาใช้งานสักคัน คุณรู้หรือไม่ ?
บทความแนะนำ