GESTURE CONTROL SYSTEM ระบบเพิ่มความปลอดภัยระหว่างขับขี่

แม้ว่าวันนี้รถยนต์ในปัจจุบันจะมีระบบความปลอดภัยมากมาย โดยเฉพาะเทคโนโลยีเชิงป้องกัน หรือ ACTIVE SAFETY มากมายที่เราคุ้นเคย อย่างระบบเตือนการชนทางด้านหน้า ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ หรือแม้แต่การเตือนออกนอกเลน ก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้อยู่ดี ไม่ใช่ว่าระบบต่างๆ เหล่านี้ไม่มีประสิทธิภาพ แต่หลายครั้งเกิดจากผู้ขับขี่เป็นหลัก สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง คือ การที่ผู้ขับขี่บริโภคข้อมูลต่างๆ ระหว่างการขับเคลื่อนรถยนต์มากเกินไป อีกกรณีหนึ่งก็คือ การบังคับควบคุม หรือการเข้าไปปรับระบบต่างๆ ของตัวรถยุ่งยากซับซ้อนเกินไป ทั้ง 2 สาเหตุนี้ มีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิจนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้    

CONTINENTAL พัฒนาระบบควบคุมท่าเคลื่อนไหวของนิ้วมือ

      ปัญหาสำคัญ คือ ระหว่างขับขี่จะมีข้อมูลต่างๆ แสดงให้ผู้ขับขี่ทราบอยู่ตลอดเวลา หลายครั้งก็เป็นข้อมูลที่ไม่ได้สำคัญเร่งด่วนนัก การปรับเปลี่ยนโหมด หรือฟังค์ชันต่างๆ ทำได้ยาก หรือซับซ้อนเกินไป รวมถึงต้องมีการย้ายมือ หรือเอื้อมไปปรับเปลี่ยนปุ่มปรับต่างๆ ผู้ขับขี่ต้องละมือละสายตาจากพวงมาลัย แม้ช่วงเวลาเพียง 4-5 วินาที มันก็มากพอที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ CONTINENTAL (คอนทิเนนทัล) ได้พัฒนาระบบ GESTURE CONTROL SYSTEM หรือควบคุมด้วยการจับท่าทางเคลื่อนไหวของนิ้วมือ เพื่อลดการละมือจากพวงมาลัย และละสายตาจากถนนเบื้องหน้า ลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น GESTURE-BASED CONTROL ระบบจะมีเซนเซอร์ตรวจจับท่าทาง และความเคลื่อนไหวของมือ และนิ้ว    

ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เพียงลากนิ้วบนแผ่นใส

      รูปแบบของการเคลื่อนไหวนิ้วมือ ไม่ว่าจะเป็นการลาก เลื่อน รูด ปัด หรือการเคาะนิ้ว เหมือนที่เราใช้กับสมาร์ทโฟน หรือแทบเลท รูปแบบการทำงานต้องง่ายไม่ซับซ้อน และต้องมีความแม่นยำ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น ตำแหน่งสำคัญในการบังคับควบคุมหลักที่เหมาะสม คือ บริเวณก้านพวงมาลัยในตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา ตำแหน่งที่นิ้วโป้งจับอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง CONTINENTAL ได้ติดตั้งแผ่นเซนเซอร์ที่มีลักษณะเหมือนพลาสติคใส ที่เรียกว่า DETECTION ZONES การควบคุมเพียงแค่ลากนิ้วไปบนแผ่นใส เมื่อต้องการเลือก หรือตกลง ก็ใช้การเคาะนิ้วลงบนแผ่นใส เพื่อเป็นการยืนยัน หรือคอนเฟิร์ม เซนเซอร์จะทำงานร่วมกับกล้อง 3 มิติ ที่เรียกว่า TIME-OF-FIGHT CAMERA ใช้ในการตรวจจับรูปแบบการเคลื่อนไหวของนิ้วมือ จากนั้นระบบจะประมวลรูปแบบการเคลื่อนไหวของนิ้วมือ แล้วจึงสั่งให้ระบบต่างๆ ทำงานตามที่ผู้ขับขี่เลือก สิ่งสำคัญ คือ รูปแบบชุดคำสั่งจะต้องเรียบง่าย และประมวลผลได้อย่างฉับไว ซึ่งการพัฒนาในครั้งนี้จะสามารถนำไปใช้ได้กับรถยนต์หลากหลายรูปแบบ เพราะเป็นระบบที่เรียบง่าย ราคาไม่แพง แนวคิดเดียวกับสมาร์ทโฟนนั่นเอง ที่หลายระดับราคาสามารถใช้งานได้ในลักษณะคล้ายกัน ด้วยความมุ่งหวังที่ต้องการให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในการเดินทาง