เชค “เบรค” เบื้องต้น แค่สังเกต ก็เพียงพอ

“เบรค” เป็นอุปกรณ์ส่วนควบของรถที่มีความสำคัญมาก ต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา แล้วเชคอย่างไร เชคยากหรือไม่ DIY…คุณทำเองได้ ฉบับนี้ มีคำตอบ

ผ้าเบรคต้องไม่บาง

การตรวจสอบว่าระบบเบรค มีความสมบูรณ์พร้อมขนาดไหน ตัวชี้วัดได้ดีที่สุด คือ “ผ้าเบรค” ผ้าเบรคที่ยังใช้งานได้ดีต้องมีความหนาของเนื้อผ้าเบรครวม BACKING PLATE (แผ่นเหล็กประกบหลังผ้าเบรค) ไม่น้อยกว่า 7 มม. โดยเฉลี่ยแล้วบริษัทผู้ผลิต มักกำหนดระยะเปลี่ยนผ้าเบรคไว้ประมาณทุกๆ 30,000-40,000 กม. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งาน    

จานเบรคต้องไม่คด ไม่สั่น

รถที่ดีขณะเบรคเต็มที่ต้องไม่สั่นสะท้าน แต่ถ้าเบรคแล้วสั่นขึ้นมาถึงพวงมาลัย หรือแป้นเบรค แสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ต้องนำรถเข้าไปตรวจเชคโดยด่วน ส่วนใหญ่มักนำจานเบรคมาเจียนหน้าสัมผัสให้เรียบเสมอกัน แต่วิธีนี้ควรดูความหนาของจานเบรคด้วย    

เปลี่ยนน้ำมันเบรคตามกำหนด

    การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรคควรทำตามคู่มือกำหนด ซึ่งส่วนใหญ่มักให้เปลี่ยนถ่ายที่ระยะประมาณ 20,000-30,000 กม. และควรใช้น้ำมันเกรดเดียวกับที่ผู้ผลิตกำหนดเท่านั้น    

เปลี่ยนผ้าเบรคแล้ว ต้องรันอิน !

    เมื่อต้องการเปลี่ยนผ้าเบรค ช่างมักนำจานเบรคออกมาเจียนด้วย เพื่อให้ได้หน้าสัมผัสที่เรียบเสมอกันระหว่างจานเบรคกับผ้าเบรคใหม่ และควรเปลี่ยนน้ำมันเบรคไปด้วยเลย เพื่อเป็นการนับหนึ่งใหม่พร้อมกันทั้งระบบ    

อุปกรณ์

    1. ถุงมือ 2. ผ้าขี้ริ้ว    

ขั้นตอนการตรวจเชคระบบเบรค

1. ตรวจเชคระดับน้ำมันเบรคให้อยู่ระหว่าง FULL เสมอ       2. น้ำมันเบรคต้องมีความใสเสมอ ถ้าเห็นว่าเริ่มดำคล้ำ ควรเปลี่ยนใหม่       3. ตรวจดูหม้อลมเบรค (ที่อยู่หลังกระปุกน้ำมันเบรค) ต้องอยู่ในสภาพดี       4. มองหาชุดระบบเบรค เอบีเอส แล้วตรวจเชคคร่าวๆ ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่       5. ลงมาที่ล้อกันบ้าง เริ่มจากตรวจเชคที่สายน้ำมันเบรค ต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้       6. ตรวจดูจานเบรค ว่าบาง และมีรอยสึกเสมอกันทั่วทั้งวงหรือไม่ ถ้าบางมากควรเปลี่ยน       7. ตรวจเชคผ้าเบรค โดยดูแนวร่องกลางผ้าเบรค ถ้าร่องเริ่มตื้น ก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยน       8. ตรวจเชคระยะเบรคจากแป้นเบรค ต้องมีความตื้นหรือลึกของระยะเบรค แบบพอดีๆ