บีเอมดับเบิลยู คอนเซพท์ ไอ 4 ใช้พแลทฟอร์มเดียวกับ ซีรีส์ 3 และ ซีรีส์ 4 (CLUSTER ARCHITECTURE หรือ CLAR) ซึ่งเป็นรถแนวคิด 1 ใน 25 รุ่น ของ บีเอมดับเบิลยู ที่จะเปิดตัวสู่ตลาดโลก ภายในปี 2023 ซึ่งจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งจะเป็นรถไฟฟ้า โดยวางเป้าหมายจำหน่ายรถไฟฟ้าให้ได้ร้อยละ 30 ของยอดขายทั้งหมดในปี 2025 ส่วนทีมนักออกแบบจะมีความคิดเห็นต่อรถคันนี้อย่างไร เชิญติดตาม
ดีไซจ์นด้านท้ายแบบรถฟาสต์แบค ส่วนดีไซจ์นอื่นๆ ที่เคยมีของ บีเอมดับเบิลยู ดูลดน้อยลง อาจจะไปยึดติดกับเรื่องกระจังหน้าจนลืมคิดถึงสิ่งอื่น แต่ผมเชื่อเหมือนกันว่า ด้านหน้าจะมีการปรับอีกแน่นอน แต่ที่ทำแบบนี้ออกมาก่อน เพราะต้องการฟังเสียงวิจารณ์ แล้วค่อยนำไปปรับตามกระแส และการออกแบบกระจัง-หน้าแบบนี้คงไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยเรื่องการชน เพราะดูบอบบางเกินไป
อภิชาติ : นอกจากจะออกแบบให้สวยงามอย่างมีบุคลิกแล้ว ช่องระบายลม ของซุ้มล้อ ด้านหน้า และด้านท้าย ยังมีการออกแบบให้เกิดการระบายอากาศอย่างลงตัว ส่วนกระจังหน้า ถ้าจะไม่ให้ถูกวิจารณ์เลย ควรต้องมีพื้นที่ด้านล่างกระจังหน้าเหมือนรถในกลุ่ม ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ของ บีเอมดับเบิลยู
ภัทรกิติ์ : รถคันนี้ เป็นอีกคันที่มีการใช้ ไฟท้ายที่ผอมเพรียว ไฟหน้าที่ผอมบาง แต่ไฟท้ายเหมือนจะยังไม่ล้ำสมัยเท่าไฟหน้าที่ยาวเรียว และที่สำคัญต้องออกแบบท้ายรถให้รับกับไฟท้าย เพื่อให้ดูลงตัว และสวยงามมากที่สุด
ภัทรกิติ์ : การออกแบบภายในห้องโดยสาร เริ่มเป็นไปตามทเรนด์ด้วยการหันมาใช้หน้าจอยาวเหมือน เมร์เซเดส-เบนซ์ แต่สิ่งที่ไม่ปรับเปลี่ยน คือ ไอ-ดไรฟ แต่เพิ่มความน่าสนใจ ยิ่งขึ้นด้วยการใช้ไฟแอลอีดีเป็นไฮไลท์ ทำให้ดูหวือหวา สำหรับรถยุคปัจจุบัน เราจะสังเกตว่า เส้นสายต่างๆ ภายในรถจะไม่ขาด และมีทิศทางไปในทางเดียวกันเสมอ และที่ผ่านมา บีเอมดับเบิลยู จะใช้แดชบอร์ดเอียงเข้าหาผู้ขับขี่ แต่สำหรับรถคันนี้ได้ก้าวไปอีกขั้น เพราะใช้แดชบอร์ดแบบตรง ซึ่งใกล้เคียงกับที่เห็นใน บีเอมดับเบิลยู ซีรีย์ 2 กรัน คูเป
อภิชาติ : หน้าจอยาวกำลังเป็นที่นิยม แต่ช่องแอร์ยังดูเป็นคอนเซพท์คาร์ เป็นงานดีไซจ์น ที่คงความเป็น บีเอมดับเบิลยู แต่ผมว่าน่าจะมีการหาแนวทางใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้าไป อีกอย่าง คือ การทำรถต่อไปนี้ไม่จำเป็นต้องทำแบบฉีดขึ้นรูป แต่สามารถออกแบบเป็นกึ่งสำเร็จรูป แล้ว นำหน้าจอมาติดตั้งเข้าไปเลย
ภัทรกิติ์ : วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งห้องโดยสาร เปลี่ยนมาชุบสีทองแดง (COPPER) แทนชุบโครเมียม เพราะทองแดงเป็นทเรนด์ใหม่ของรถไฟฟ้า อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ ทองแดงมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค ตัวอย่างเช่น เชื้อโรค หรือแบคทีเรียบนไม้ หรือโลหะชนิดอื่น จะมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 3 วัน แต่บนทองแดงจะมีชีวิตอยู่ได้แค่ 2-8 ชม. เท่านั้น และจากนี้ไปนิยามของ LUXURY MATERIALS น่าจะเปลี่ยนไป
บทความแนะนำ

