อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์ ขยายตัว 11.59 % (จำนวนคัน) จากรถพิคอัพ เครื่องยนต์ดีเซล และรถยนต์นั่งขนาดไม่เกิน 1,800 ซีซี ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้ยอดจำหน่ายในประเทศขยายตัว 22.88 % (จำนวนคัน) ส่วนการส่งออกขยายตัว 5.81 % (จำนวนคัน)
อุตสาหกรรมอีเลคทรอนิคส์ ขยายตัว 6.0 % ตามการขยายตัวของสินค้าอีเลคทรอนิคส์โลก โดยเฉพาะ IC ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากใช้เป็นชิ้นส่วนสำคัญในการพัฒนาสินค้าที่มีการใช้เทคโนโลยีสูง รวมถึงนำไปใช้เป็นชิ้นส่วนสมาร์ทโฟน อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง การผลิตยางรถยนต์ในประเทศขยายตัว 1.33 % สำหรับถุงมือยาง/ถุงมือตรวจ มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น 9.45 % ตามแนวโน้มความต้องการใช้ที่สูงขึ้น
ในส่วนประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ต่างฝ่ายต่างเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้ามูลค่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นั้น คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยในปี 2561 อย่างจำกัด โดยไทยอาจจะได้ผลบวกในบางสินค้าส่งออก เช่น HARD DISK DRIVE (HDD) แผงวงจรไฟฟ้า พลาสติคบางประเภท เป็นต้น และอาจจะได้รับผลลบในบางสินค้าส่งออก เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วน
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า การส่งออกสินค้าไทยในปี 2561 จะได้รับความเสียหายประมาณ 280-420 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (รวมผลกระทบทางตรง และผลกระทบทางอ้อมผ่านห่วงโซ่การผลิตแล้ว) หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 0.1-0.2 % ของมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมด
ก็ต้องติดตามดูสภาวะเศรษฐกิจโลกกันต่อไปด้วย เพราะเศรษฐกิจของบ้านเรา ก็ต้องผูกติดไปกับเศรษฐกิจโลกทอดทิ้งกันไม่ได้
แค่เพียงปรับเป้าการขายประจำปี ก็น่าจะทำให้บรรดาค่ายรถยนต์ยิ้มหวานกันได้พอสมควร บทความแนะนำ

