ยังไปได้ดีแม้มีวันหยุดยาว

เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ ประจำเดือนเมษายน '61 กับ '60

ตลาดโดยรวม + 25.2 % รถยนต์นั่ง - 4.0 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) + 69.5 % รถอเนกประสงค์ (MPV) + 180.6 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ + 5.8 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ + 195.4 % อื่นๆ + 86.3 %

เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ ประจำเดือนมกราคม-เมษายน '61 กับ '60

ตลาดโดยรวม + 15.5 % รถยนต์นั่ง + 9.3 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) + 41.8 % รถอเนกประสงค์ (MPV) + 22.8 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ + 10.7 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ + 42.3 % อื่นๆ + 13.7 %   อย่างไรก็ตาม ไม่รู้เป็นเพราะว่าเดือนเมษายน เป็นเดือนที่มีวันหยุดยาวและวันหยุดประจำปีมากกว่าเดือนอื่นๆ หรือเปล่า ที่ทำให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ปรับตัวลดลงจากเดือนมีนาคม โดยยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่รวมกันทุกยี่ห้อของเดือนเมษายน ปี 2561 อยู่ที่ 79,206 คัน ลดลงพอสมควรเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม แต่เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน ปี 2560 ก็ยังเป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ยอมรับได้ เพิ่มมากขึ้นถึง 25.2 %   และเดือนเมษายนนี้ เมื่อนำยอดจำหน่ายของทุกตลาดมารวมกันแล้วอันดับ 1 ยังคงเป็นโตโยตา 18,564 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 23.4 % อันดับ 2 อีซูซุ 15,676 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 19.8 % อันดับ 3 ฮอนดา 9,018 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 11.4 % และอันดับ 4 มิตซูบิชิ 6,478 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 8.2 % อันดับ 5 มาซดา ขยับขึ้นมาแย่งตำแหน่งนี้ไปจาก นิสสัน โดย มาซดา จำหน่ายได้รวม 5,170 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 6.5 %   ยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่สะสมตั้งแต่เดือนแรกมาจนถึงเดือนที่ 4 ของปี 2561 มีรวมทั้งสิ้น 316,296 คัน เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายรวมในระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมา 15.5 % อันดับ 1 เป็น โตโยตา จำหน่ายไปแล้วรวมทั้งสิ้น 82,658 คัน เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น 8.2 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 26.1 % อันดับ 2 อีซูซุ จำหน่ายไปแล้วรวม 59,992 คัน เพิ่มขึ้น 11.5 % มีส่วนแบ่งการตลาด 19.0 % อันดับ 3 ฮอนดา จำหน่ายแล้วรวม 37,453 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่ปรับตัวลดลง 2.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.8 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ จำหน่ายไปทั้งสิ้น 27,174 คัน เพิ่มขึ้น 24.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.6 % และอันดับ 5 ฟอร์ด จำหน่ายได้แล้วรวม 21,957 คัน เพิ่มขึ้นถึง 36.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.9 %   พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนเมษายน จำหน่ายได้ 25,625 คัน เพิ่มขึ้น 5.8 % เมื่อเทียบกับเมษายนปี 2560 อันดับ 1-3 ยังไม่มีหน้าใหม่แทรกเข้ามา โดยอันดับ 1 อีซูซุ ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดได้มากสุดต่อไป จำหน่ายไปได้ 10,483 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 40.9 % อันดับ 2 ตามมาอย่างห่างๆ หน่อย โตโยตา 7,444 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 29.0 % อันดับ 3 ฟอร์ด จำหน่ายไป 2,725 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 10.6 % อันดับที่ 4 เชฟโรเลต์ ที่จำหน่ายไปได้ 1,942 คัน ถือครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ 7.6 % อันดับที่ 5 คือ มิตซูบิชิ จำหน่ายได้ 1,775 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 6.9 %   ยอดจำหน่ายสะสม 4 เดือนของตลาดพิคอัพประเภทนี้อยู่ที่ 120,566 คัน เพิ่มขึ้น 10.7 % เบอร์ 1 อีซูซุ จำหน่ายไปแล้ว 46,035 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 38.2 % เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น 6.8 % อันดับที่ 2 โตโยตา 31,337 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 26.0 % เพิ่มขึ้น 8.1 % อันดับที่ 3 ฟอร์ด 15,715 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 13.0 % เพิ่มขึ้น 31.2 % อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ ยอดจำหน่ายรวม 11,379 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 9.4 % เพิ่มมากขึ้นถึง 93.1 % และอันดับที่ 5 เชฟโรเลต์ 6,480 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 5.4 % เพิ่มขึ้น 22.8 %     พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทำยอดจำหน่ายกันได้ไม่ค่อยจะมากมายเท่าไร โดยเดือนเมษายนมียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 7,216 คัน เพิ่มมากขึ้นถึง 195.4 % เลยทีเดียว และเป็น อีซูซุ ที่กระชากตำแหน่งแชมพ์รายเดือนจาก โตโยตา มาครองได้ ขณะที่ นิสสัน ก็ทำยอดจำหน่ายแซง มิตซูบิชิ ได้เช่นเดียวกัน โดย อีซูซุ มีจำหน่าย 2,727 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 37.8 % โตโยตา จำหน่ายได้ 1,615 คัน อยู่ในอันดับที่ 2 ส่วนแบ่งการตลาด 22.4 % อันดับที่ 3 ฟอร์ด จำหน่ายไป 865 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 12.0 % อันดับที่ 4 นิสสัน 830 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 11.5 % และอันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 686 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 9.5 % แต่เมื่อนำยอดจำหน่าย 4 เดือนแรกมารวมกัน อันดับต่างๆ ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โตโยตา รั้งอันดับ 1 ด้วยยอดจำหน่ายรวม 6,491 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 40.0 % เพิ่มขึ้น 3.4 % อันดับ 2 อีซูซุ 4,583 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 28.2 % เพิ่มขึ้นถึง 103.1 % อันดับ 3 ฟอร์ด 2,091 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 12.9 % เพิ่มขึ้น 32.4 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 1,455 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 9.0 % เพิ่มขึ้น 72.8 % และอันดับ 5 นิสสัน 1,040 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 6.4 % เพิ่มขึ้นมากถึง 257.4 %   รถเอสยูวี เดือนเมษายนยอดจำหน่ายรวมของทั้งตลาดอยู่ที่ 12,844 คัน เพิ่มขึ้น 69.5 % อันดับ 1 โตโยตา จำหน่ายได้ 2,500 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 19.5 % อันดับ 2 มาแรง เอมจี จำหน่ายได้ 2,156 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 16.8 % อันดับ 3 มาซดา 1,748 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 13.6 % เช่นเดียวกับ ซูบารุ ที่จำหน่ายได้ 1,517 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 11.8 % อยู่ในอันดับที่ 4 และอันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 1,253 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 9.8 %   ยอดจำหน่ายรวม 4 เดือนตลาดนี้ 44,971 คัน เพิ่มขึ้น 41.8 % อันดับ 1 โตโยตา 11,136 คัน เพิ่มขึ้น 45.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.8 % อันดับ 2 ฮอนดา 6,751 คัน เพิ่มขึ้น 6.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 15.0 % อันดับ 3 เอมจี 6,029 คัน เพิ่มขึ้น 869.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.4 % อันดับ 4 มาซดา 5,077 คัน เพิ่มขึ้น 105.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.3 % และอันดับ 5 มิตซูบิชิ 4,341 คัน ลดลง 10.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 9.7 %   รถเอมพีวี ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแรงในเดือนนี้ ฮอนดา จากยอดรวมทั้งตลาด 4,540 คัน เพิ่มขึ้น 180.6 % เป็นของ ฮอนดา 3,055 คัน หรือเท่ากับ 67.3 % ของทั้งตลาด ยึดอันดับ 1 ไปสบายๆ ขณะที่ นิสสัน กวาดยอดไป 461 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาด 10.2 % อันดับ 3 ซูซูกิ 367 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 8.1 % อันดับ 4 เกีย 349 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 7.7 % ส่วน โตโยตา หล่นมาอยู่ในอันดับที่ 5 จำหน่ายได้ 135 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 3.0 % รวม 4 เดือนจำหน่ายแล้วรวม 8,296 คัน เพิ่มขึ้น 22.8 % อันดับ 1 ฮอนดา นำห่างด้วยยอดจำหน่าย 4,735 คัน เพิ่มขึ้น 78.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 57.1 % อันดับ 2 โตโยตา 1,808 คัน ลดลง 46.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 21.8 % อันดับ 3 เกีย 521 คัน เพิ่มขึ้น 127.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.3 % อันดับ 4 ซูซูกิ 512 คัน เพิ่มขึ้น 58.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.2 % และอันดับ 5 นิสสัน 463 คัน เพิ่มขึ้นถึง 6,514.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.6 %   รถยนต์ประเภทอื่นๆ ยกเว้นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เดือนเมษายน 2561 ยอดจำหน่ายรวม 5,502 คัน เพิ่มขึ้น 86.3 % รวม 4 เดือน 15,172 คัน เพิ่มขึ้น 13.7 %