ธุรกิจ
ผ่านพ้นหน้าน้ำหลาก น้ำขัง เข้าสู่หน้าหนาวกันมาอย่างทุลักทุเล จนป่านนี้ยังมีแรงใจหลั่งไหลไปช่วยเหลือคนไทยด้วยกันเอง ที่ยังมีความทุกข์จากภาวะน้ำท่วมขัง เราคนไทยนะครับ มีอะไรก็ต้องช่วยกันไป
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์
เดือนตุลาคม ปี '49 กับ '48
ตลาดรวม ลด 10.5 %
รถยนต์นั่ง เพิ่ม 14.0 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ ลด 12.4 %
รถอเนกประสงค์ (MPV) เพิ่ม 5.0 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) ลด 52.0 %
ผ่านพ้นหน้าน้ำหลาก น้ำขัง เข้าสู่หน้าหนาวกันมาอย่างทุลักทุเล จนป่านนี้ยังมีแรงใจหลั่งไหลไปช่วยเหลือคนไทยด้วยกันเอง ที่ยังมีความทุกข์จากภาวะน้ำท่วมขัง เราคนไทยนะครับ มีอะไรก็ต้องช่วยกันไป
ที่ยังอึ้งๆ กันอยู่ก็บรรดาค่ายรถยนต์ โดยเฉพาะค่ายที่ขายรถกระบะนี่แหละ เจอภาวะน้ำท่วมปากไปตาม ๆ กัน เพราะยอดขายรถกระบะหดหายกันแบบหน้ามืดตามัว มีแต่ยักษ์ใหญ่ 2 ค่ายเท่านั้น ที่ยังรักษาตัวเลขเอาไว้ได้ จากแคมเปญที่โหมกระหน่ำ ชนิดชาวบ้าน บ้านใกล้เรือนเคียง นั่งมองตาปริบๆ เพราะทุ่มแคมเปญอย่างนั้นไม่ไหว
น้ำก็ลดลงแล้ว บรรดานักการตลาดแต่ละค่ายก็ต้องรีบเจรจากับเจ้านาย ขอเพิ่มแคมเปญสำหรับเอาไว้ต่อสู้กันในช่วงท้ายของปี
คงผ่านตาจากสื่อนานาชนิดกันไปแล้วสำหรับแคมเปญประดามี โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายของปีอย่างนี้ บอกได้คำเดียวว่า สนุกครับ
ที่จั่วหัวเรื่องเอาไว้เรื่องของถัง หนนี้อยากเตือนให้ผู้ใช้รถยนต์ ที่เอารถไปติดตั้งแกส ทั้งระบบ ซีเอนจี หรือระบบ แอลพีจี
วัวยังไม่ทันหาย มีแต่เสียงเรียกร้องจากสื่อประดามี ก็เตรียมล้อมคอกกันแล้ว
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ออกโรงมาเตือนผู้ใช้รถที่ติดตั้งแกส โดยเฉพาะรถที่ติดตั้งถังทรงโดนัท ชนิดที่ใส่ไว้ในที่เก็บยางอะไหล่ได้พอดี ว่าไม่มีความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ เพราะไม่ผ่านมาตรฐาน รวมทั้งมีการลักลอบนำเข้าอีกด้วย
สมอ. ท่านว่า ท่านถือว่าถังบรรจุแกส แอลพีจี ทรงยางอะไหล่รถยนต์ หรือโดนัทนั้นไม่ได้มาตรฐาน หากมีการนำเข้า ผลิต จำหน่าย ก็จะถือว่าละเมิดกฎหมาย ถ้าตรวจพบผู้นำเข้า ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย จะต้องถูกระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
ส่วนทรงแคพซูล นั้นท่านกำหนดเป็นมาตรฐานบังคับมานานแล้ว และการติดตั้งตามมาตรฐานและปลอดภัย ก็ควรติดตั้งบริเวณช่องเก็บสัมภาระส่วนท้ายรถยนต์ แบบแทกซีนั่นแหละครับ
สำหรับท่านเจ้าของรถที่ติดตั้งมาแล้ว โดยเฉพาะถังโดนัท ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีโทษตามกฎหมายใดๆ เพียงแต่ว่า ท่านอาจไม่สามารถนำรถยนต์ไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้ นอกจากการติดตั้งแบบที่ได้มาตรฐาน ถังแคพซูล กรมขนส่งท่านก็จะต่อทะเบียนรถให้ท่านได้
อันที่จริงราคาน้ำมันเบนซินในปัจจุบัน ก็นับว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว ราคายังพอเติมกันได้ ไม่หฤโหดแบบช่วงกลางปีที่ผ่านมา
ก็ฝากให้ช่วยกันคิดนะครับ ว่ามีความจำเป็นต้องนำรถไปติดตั้งเพื่อใช้แกสเป็นเชื้อเพลิงหรือไม่ เพราะทั้ง 2 ระบบ ก็ยังมีปัญหาเรื่องสถานีบริการ ที่ยังไม่ทั่วถึงครอบคลุมทั้งประเทศ หรืออย่างน้อยในช่วงจังหวัดที่ใกล้เคียงกัน
อ้อ เวลาเอารถไปติดตั้งเพื่อใช้แกสแล้ว อย่าลืมว่าประกันภัยถือเป็นการดัดแปลงในส่วนสาระสำคัญของรถนะครับ มีปัญหาอะไรขึ้นมา ท่านจะไม่สามารถเคลมประกันได้เลย
ฝากให้คิดเป็นการบ้านนะครับ
กลับมาเข้าเรื่องมาตรวัดกันก่อน
หนนี้ เจอปัญหาของน้ำหลากเข้าเต็มเปา โดยเฉพาะรถกระบะทุกประเภท ทำเอายอดรวมหดหาย ขายได้น้อยกว่าปีก่อนถึง 10.5 % ขายเดือนตุลาคม เดือนเดียวได้เพียง 51,390 คัน เลยไปฉุดเอายอดรวม 10 เดือนลดลง 4.0 % รวมได้แค่ 539,840 คัน
ตำแหน่งแชมพ์ เป็นเพียงเจ้าเดียวที่ขายได้มากกว่าปีที่แล้ว โตโยตา ขายพร้อมแคมเปญได้ 23,933 คัน เพิ่มขึ้น 10.7 % ส่วนแบ่งตลาด 46.6 % อันดับที่สอง ออกไปทำธุระนอกประเทศเสียเยอะ เลยขายลดลง อีซูซุ ขาย 12,922 คัน ลดลง 19.6 % ส่วนแบ่ง 25.1 % อันดับที่สาม ฮอนดา ขายใกล้เคียงกับปีก่อน 4,112 คัน ลดลงเพียง 4.7 % ส่วนแบ่ง 8.0 %, อันดับที่สี่ เชฟโรเลต์ ขาย 2,519 คัน ลดลงเหมือนกัน 11.2 % ส่วนแบ่ง 4.9 % และอันดับที่ห้า นิสสัน ขาย 2,393 คัน ลดเยอะ 36.6 % ส่วนแบ่ง 4.7 %
ยอดรวม 10 เดือน โตโยตา ขาย 227,571 คัน เพิ่มมากกว่าตลาดอยู่เจ้าเดียว, อีซูซุ ขาย 136,701 คัน ฮอนดา ขาย 52,888 คัน นิสสัน ขาย 27,545 คัน และ มิตซูบิชิ ขาย 27,149 คัน
ค่ายสุดท้ายนี่อาการน่าเป็นห่วง ห่วงว่าพอยอดรวมทั้งปี มีโอกาสที่จะถูกแซงเปลี่ยนตำแหน่งได้โดยง่าย เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าสนใจเลย
แยกประเภทเป็นรถยนต์นั่ง ขายดิบขายดีแบบไม่กลัวน้ำท่วม เพราะเป็นรถของคนเมือง ขายเพิ่มสบายๆ 14.0 % ขายได้ 14,070 คัน รวม 10 เดือนยังโตอยู่ 10.6 % ขาย 131,973 คัน
ลำดับผู้จำหน่ายมากสุด โตโยตา ขาย 7,134 คัน เพิ่มขึ้น 35.5 % ส่วนแบ่ง 50.7 % ที่สอง ฮอนดา ขาย 4,082 คัน ลดลง 3.5 % ส่วนแบ่ง 29.0 %, ที่สาม เชฟโรเลต์ ขาย 1,089 คัน เพิ่มขึ้น 76.2 % ที่สี่ นิสสัน ขาย 540 คัน เพิ่ม 39.5 % ส่วนแบ่ง 3.8 % และที่ห้า ฟอร์ด ขาย 398 คัน ลดลง 18.6 % ส่วนแบ่ง 2.8 %
ลำดับผู้เสียภาษีสูงสุด โพร์เช ขายได้ 9 คัน และ แจกวาร์ ขายได้ 2 คัน
มาถึงประเภทระกระบะ 1 ตัน ที่มีรายการล้มยักษ์เกิดขึ้น แถมด้วยอาการน่าเป็นห่วงอีกราย ว่ายังจะรักษาตำแหน่งแชมพ์ยอดขายรถกระบะปลายปีได้หรือเปล่า เพราะเริ่มมีรายการทิ้งห่างเกิดขึ้นเรื่อยๆ
รถกระบะ 1 ตันอันดับแชมพ์ประจำเดือน คือ โตโยตา ขายเมืองไทย 12,511 คัน เพิ่ม 26.3 % ส่วนแบ่ง 42.6 % อันดับสอง อีซูซุ ขาย 10,985 คัน ลดลง 21.9 % ส่วนแบ่ง 37.4 % อันดับสาม นิสสัน ขาย 1,664 คัน ลด 46.6 % ส่วนแบ่ง 5.7 %
รถเพื่อการพาณิชย์ ยอดขายก็ลดลงเพราะน้ำหลากด้วยเช่นกัน ลด 2.4 % ขายได้เพียง 1,019 คัน รวม 10 เดือน ก็ยังน้อยกว่าปีก่อนอยู่ 3.4 % ขายได้เพียง 29,264 คัน
อีซูซุ ขายมากสุด 9,365 คัน มากกว่าปีก่อนนี๊ดเดียว 1.5 % ส่วนแบ่ง 32.0 % ที่สอง โตโยตา ขาย 8,544 คัน ลดเยอะ 3.8 % ส่วนแบ่ง 29.2 % และที่สาม ฮีโน ขาย 6,619 คัน ลดเหมือนกัน 4.7 % ส่วนแบ่ง 22.6 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง ลดลง 52.0 % ขาย 1,957 คัน โดยตำแหน่งแชมพ์ คือ โตโยตา ขาย 1,237 คัน ลดลงถึง 58.7 % ส่วนแบ่ง 63.2 % ที่สอง อีซูซุ ขาย 438 คัน ลด 15.8 % ส่วนแบ่ง 22.4 % และที่สาม ฟอร์ด ขาย 120 คัน ลดลงถึง 54.2 % ส่วนแบ่ง 6.1 %
รถอเนกประสงค์ ยอดขึ้น 5.0 % ขายทั้งตลาด 812 คัน โดยมี โตโยตา ขายมากสุดอยู่เจ้าเดียว 662 คัน เพิ่ม 26.1 % ส่วนแบ่ง 81.5 %
นั่นคือรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา บรรดานักการตลาดได้แต่หวังกันว่า 2 เดือนที่เหลือปีนี้ ยอดการขายน่าจะพอกระเตื้องขึ้นมาสักหน่อย เพราะสภาพโดยรวมก็ไม่เลวร้ายจนเกินไป ยิ่งทุกค่ายพากันโหมกระหน่ำแคมเปญ ทั้งรถเก๋ง รถกระบะ นานาประดามี แทบว่าจะควักกระเป๋ากันออกมาหมดหน้าตักเลย
ขนาดเจ้าตลาดยังอยู่ไม่ได้ เคยแถมทองแค่บาทเดียว ยังต้องปล่อยแคมเปญออกมาสู้กับพรรคพวก เดี๋ยวไม่งั้นจะถูกทั้งให้ยืนคนเดียว
2 เดือนที่เหลือนี่ รับรองสนุกแน่ครับ เชื่อว่าคงมีรายการปล่อยหมัดเด็ดกันบ้าง เพื่อรักษาตำแหน่งไว้ให้ได้ ต้องติดตามตอนต่อไปนะครับ กรุณาอย่ากะพริบตา
เรื่องโดย : มือบ๊วย formula@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน มกราคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/8717