เกียรติศักดิ์ สิงห์ครา หนุ่มใหญ่ชาวเชียงใหม่ เจ้าของรถ เชฟโรเลต์ สไตล์ไลน์ เปิดประทุน เล่าให้ฟังถึงประวัติความเป็นมา และขั้นตอนการบูรณะรถคันนี้ว่า โดยปกติเป็นคนชอบสะสมรถโบราณอยู่แล้ว เพราะมีความเชื่อว่ารถยนต์ทุกคันสามารถเล่าเรื่องราวถึงประวัติศาสตร์ และสะท้อนให้เห็นถึงสังคมในยุคนั้นๆ ได้ดี และคันนี้เป็นรถสปอร์ทอเมริกันเปิดประทุนปี 1950 ซึ่งในสมัยนั้น ถือว่าเป็นสุดยอดของรถยนต์รุ่นหนึ่งก็ว่าได้

เกียรติศักดิ์ สิงห์ครา หนุ่มใหญ่ชาวเชียงใหม่ เจ้าของรถ เชฟโรเลต์ สไตล์ไลน์ เปิดประทุน เล่าให้ฟังถึงประวัติความเป็นมา และขั้นตอนการบูรณะรถคันนี้ว่า โดยปกติเป็นคนชอบสะสมรถโบราณอยู่แล้ว เพราะมีความเชื่อว่ารถยนต์ทุกคันสามารถเล่าเรื่องราวถึงประวัติศาสตร์ และสะท้อนให้เห็นถึงสังคมในยุคนั้นๆ ได้ดี และคันนี้เป็นรถสปอร์ทอเมริกันเปิดประทุนปี 1950 ซึ่งในสมัยนั้น ถือว่าเป็นสุดยอดของรถยนต์รุ่นหนึ่งก็ว่าได้ แรกเริ่มเดิมที พบรถคันนี้จอดอยู่แถวๆ วงเวียนใหญ่ สภาพภายนอกที่พบเห็น ก็เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา แต่ชิ้นส่วนหลักๆ ยังคงอยู่ครบ จึงได้ตัดสินใจซื้อมาด้วยราคาพอสมน้ำสมเนื้อ หลังจากได้มาเป็นเจ้าของ ก็เริ่มต้นทันที ปะผุ ทำสีใหม่ รื้อเครื่องยนต์ เบรค คลัทช์ ช่วงล่าง และอุปกรณ์ต่างๆ ออกหมด เพื่อทำการบูรณะให้มีสภาพสมบูรณ์เหมือนครั้งในอดีต งบประมาณซ่อมบำรุงก็แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน โชคดีที่ตนเองเป็นช่างเครื่องยนต์ ทำให้ทุ่นค่าใช้จ่ายไปได้มาก แต่กว่าจะแล้วเสร็จมีสภาพอย่างที่เห็น ก็กินระยะเวลาถึง 3 ปี ปัจจุบัน รูปลักษณ์ภายนอก สีเหลืองลูกกวาดสดใส กันชนหน้าขนาดใหญ่สีโครเมียมเงาวับจับตา ที่สำคัญรถรุ่นนี้ไม่มีกระจังหน้า แต่ถูกแทนที่ด้วยตะแกรงเหล็กสีโครเมียม 3 ชั้น มุมทั้ง 2 ติดตั้งสัญญาณไฟเลี้ยว ฝากระโปรงหน้าโค้งมนตรงกลางเพื่อระบุสัญชาติอเมริกัน ด้วยโลโก เชฟโรเลต์ ส่วนด้านบนโดดเด่นด้วยโลโกเครื่องบิน ออกแบบได้อย่างลงตัว ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถรุ่นนี้ ไฟหน้าทรงกลมตัวโคมสดใส ยังใช้งานได้ตามปกติ ด้านข้างตัวรถ ออกแบบอย่างประณีต โป่งซุ้มล้อหลังขนาดใหญ่ ตามแนวประตูคาดคิ้วสีโครเมียมตัดกับสีตัวรถได้อย่างลงตัว ล้อกระทะเหล็กสีดำ พร้อมฝาปิดดุมล้อสีเหลืองซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดี ด้านท้ายรถ โค้งมนเรียบง่าย ตามแบบฉบับรถมะกันขนานแท้ดั้งเดิม ฝากระโปรงท้ายขนาดใหญ่พร้อมโลโก เชฟโรเลต์ สันซุ้มล้อหลัง คาดคิ้วโครเมียมยาวมาถึงไฟท้าย ซึ่งจะหาดูได้ยากในสมัยนี้ กันชนหลังขนาดใหญ่ แข็งแรง บึกบึน เป็นสีโครเมียมเช่นเดียวกับอุปกรณ์โลหะชิ้นอื่นๆ เมื่อลองเปิดประตูเข้าไปภายในรถ ก็รับรู้ถึงความสบาย เพราะกว้างขวาง โอ่อ่า เบาะนั่งหุ้มหนังใหม่สีดำบุด้วยฟองน้ำนุ่มสบายยามขับขี่ ส่วนเบาะหลังอาจจะคับแคบไปสักหน่อย เพราะต้องเว้นพื้นที่เพื่อเป็นที่เก็บหลังคาผ้าใบ พวงมาลัยทรง 2 ก้าน สีเดียวกันกับตัวรถ ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นอเมริกัน ตรงกลางวง ประทับตราสัญลักษณ์ เชฟโรเลต์ สีแดง เพิ่มความคลาสสิคได้ไม่น้อย กระจกบานหน้ามีเสากลาง เติมความแข็งแรง ทนทาน เพราะไม่มีโครงหลังคา เกียร์มืออยู่ในตำแหน่งคอพวงมาลัยที่ยังปรับเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างแม่นยำ เกจวัดการทำงานของเครื่องยนต์ ยังคงใช้งานได้ดี แต่ก็ทรุดโทรมไปบ้างตามกาลเวลา ขุมพลังของรถคันนี้ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ แถวเรียง ขนาด 217 คิวบิคนิ้ว ตามมาตราของสหรัฐอเมริกา แต่ถ้าเป็นสเปคยุโรปก็อยู่ที่ประมาณ 3,500 ซีซี มีแรงม้าเอาไว้ใช้งานที่ 105 ตัว จ่ายน้ำมันด้วยระบบคาร์บูเรเตอร์ ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 4 จังหวะ ซึ่งในสมัยนั้น ถือว่าทันสมัยมากๆ ด้วยความที่เจ้าของ เป็นคนรักรถโบราณ และมีรถไว้ในครอบครองไม่ต่ำกว่า 50 คัน เขาจึงเตรียมสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ ให้ผู้ที่สนใจเข้าชม และค้นคว้า ข้อมูลเกี่ยวกับรถโบราณ เพื่อเป็นวิทยาทานแก่คนรุ่นหลังสืบต่อไป ข้อมูลจำเพาะ เชฟโรเลต์ สไตล์ไลน์ รูปแบบ สปอร์ท เปิดประทุน ปีที่ผลิต (คศ.) 1950 เครื่องยนต์ แบบ เบนซิน 6 สูบ แถวเรียง ความจุ (ซีซี) 3,500 กำลังสูงสุด (แรงม้า) 105 เกียร์ (จังหวะ) ธรรมดา 4 น้ำหนักรถ (กก.) 1,800 พวงมาลัย ขวา