บริษัทรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสซึ่งรู้จักกันในชื่อ เรอโนลต์ (RENAULT) นับเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเก่าแก่อีกรายหนึ่ง ที่ในอดีตไม่เคยมีความคิดที่จะทำมาหากินกับการผลิตรถกิจกรรมกลางแจ้ง หรือถ้าเคยคิดก็ยังไม่เคยลงมือทำ

บริษัทรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสซึ่งรู้จักกันในชื่อ เรอโนลต์ (RENAULT) นับเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเก่าแก่อีกรายหนึ่ง ที่ในอดีตไม่เคยมีความคิดที่จะทำมาหากินกับการผลิตรถกิจกรรมกลางแจ้ง หรือถ้าเคยคิดก็ยังไม่เคยลงมือทำ จนกระทั่งเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา คือ เมื่อกลางปี 2008 นี่เอง ผู้คนในเมืองน้ำหอมจึงมีโอกาสสัมผัสตัวจริงเสียงจริง ของรถกิจกรรมกลางแจ้งแบบแรกในประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 1 ทศวรรษของผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่รายนี้ เช่นเดียวกับรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ติดป้ายชื่อ เปอโฌต์ 4007 (PEUGEOT 4007) และ เปอโฌต์ 4008 (PEUGEOT 4008) ที่กล่าวไปแล้ว รถกิจกรรมกลางแจ้งแบบแรกของค่าย"ข้าวหลามตัด"ซึ่งออกสู่โชว์รูมพร้อมกับป้ายชื่อ เรอโนลต์ โกเลโอส (RENAULT KOLEOS) นี้ เมื่อเจาะลึกลงไปแล้วก็จะพบว่าไม่ใช่รถที่ก่อกำเนิดในรังไข่ของค่ายเรอโนลต์อย่างแท้จริง หากเป็นผลงานจากความร่วมมือกับหุ้นส่วนรายสำคัญคือยักษ์รอง นิสสัน (NISSAN) ของญี่ปุ่น และใช้โรงงานในเมืองโสมขาวของบริษัท เรอโนลต์ ซัมซุง มอเตอร์ส (RENAULT SAMSUNG MOTORS) เป็นที่ผลิต ส่วนรถติดป้ายชื่อ เรอโนลต์ กัปตืร์ (RENAULT CAPTUR) ที่กำลังอวดโฉมอยู่ในขณะนี้ เป็นรถแบบที่ 2 และน่าจะถือได้ว่าเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งแบบแรกที่แท้จริงของค่าย เรอโนลต์ รถแบบนี้เพิ่งปรากฏตัวแบบ PREMIERE MONDIAL หรือ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวาครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และขณะนี้ออกจำหน่ายไปเรียบร้อยแล้ว เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ หรือ CROSSOVER SUV ที่พัฒนาและขอหยิบขอยืมชิ้นส่วนหลายชิ้นจากรถแฮทช์แบคขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัดติดป้ายชื่อ เรอโนลต์ กลีโอ (RENAULT CLIO) รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งก็เพิ่งออกจำหน่ายในเมืองน้ำหอมได้ไม่กี่เดือนเช่นเดียวกัน ตัวถังทรงสองกล่อง ยาว 4.122 ม. กว้าง 1.778 ม. และสูง 1.566 ม. มีรูปทรงองค์เอวที่ดูดีในทุกมุมมอง และมีรายละเอียดของตัวถังภายนอกในบางจุดที่ไม่เคยพบเคยเห็นกันมาก่อนในรถแบบใดๆ ของค่ายนี้ ตัวอย่าง คือ การออกแบบดวงโคมไฟท้ายให้แยกเป็น 2 ส่วน อย่างที่เรียกขานกันในภาษาอังกฤษว่า TWO-PART HORIZONTAL REAR LIGHTS ทำให้มีประตูบานหลังที่ค่อนข้างกว้าง ส่วนภายในห้องโดยสารที่ออกแบบให้นั่งได้รวม 5 คน แต่ผู้โดยสารบนเบาะหลังต้องนั่งเบียดกันหน่อย ก็มีคุณลักษณ์ 2 อย่าง ที่ยักษ์ใหญ่ของเมืองน้ำหอมบอกว่าหาได้ยากมากในรถแบบอื่นๆ และเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก คือ ผ้าหุ้มเบาะติดซิพที่สามารถถอดออกเพื่อทำความสะอาดหรือสลับสับเปลี่ยนได้ กับ EASY LIFE GLOVE BOX หรือกล่องเก็บของที่จุถึง 11 ลิตร และผู้ขับสามารถเอื้อมมือไปเปิดฝาได้โดยไม่จำเป็นต้องขยับก้นจากที่นั่ง ชุดที่จำหน่ายในเมืองน้ำหอม แบ่งการตกแต่ง/อุปกรณ์เป็น 4 ระดับ กำกับด้วยรหัส LIFE-ZEN-BUSINESS-INTENS และมีเครื่องยนต์ให้เลือกรวม 3 ขนาด คือ เครื่องเทอร์โบเบนซิน DOHC 3 สูบเรียง 898 ซีซี 66 กิโลวัตต์/90 แรงม้า เครื่องเทอร์โบเบนซิน DOHC 4 สูบเรียง 1,197 ซีซี 88 กิโลวัตต์/120 แรงม้า และเครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง SOHC 4 สูบเรียง 1,461 ซีซี 66 กิโลวัตต์/90 แรงม้า ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้ามี 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ สนนราคาค่าตัวซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่มของเมืองน้ำหอมไว้เรียบร้อยแล้ว เริ่มต้นที่ 15,500 ยูโร หรือประมาณ 620,000 บาท ในรถโมเดลพื้นฐาน คือ RENAULT CAPTUR LIFE ENERGY TCE 90 ไปจนถึง 22,700 ยูโร หรือประมาณ 908,000 บาท ในรถโมเดลหัวกะทิ คือ RENAULT CAPTUR INTENS DCI 90 EDC2 ในส่วนของระบบภาษี BONUS-MALUS ก็เช่นเดียวกับรถ เปอโฌต์ 2008 (PEUGEOT 2008) ที่เพิ่งผ่านตาไป ผู้ซื้อรถ เรอโนลต์ กัปตืร์ เกือบทุกคนจะได้รับเงินโบนัสจำนวน 200 ยูโร เนื่องจากอัตราคาร์บอนไดออกไซด์ของรถแบบนี้มีค่าระหว่าง 95 ถึง 125 กรัม/กม.