รถคูเป ซีรีส์-3 กรัน ตูริสโม จะออกโชว์รูมกลางปีงูเล็ก

เยอรมนี-ยอดผู้ผลิตรถหรูของเมืองเบียร์ เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้อยากเป็นเจ้าของรถเล็กแต่หรู โดยเปิดเผยโฉมหน้าและรายละเอียดของรถแบบใหม่เอี่ยมแกะกล่อง คือ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-3 กรัน ตูริสโม (BMW 3-SERIES GRAN TURISMO) พร้อมประกาศยืนยันว่า จะนำตัวจริงเสียงจริงออกสู่โชว์รูมในเมืองเบียร์ตอนกลางปี 2013 โดยมีรถให้เลือกใช้รวม 5 โมเดล หลังจากนำรถ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-3 (BMW 3-SERIES) รุ่นล่าสุด ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 6 ออกสู่ตลาดไปเรียบร้อยแล้วทั้งในตัวถังซีดานและตัวถังตรวจการณ์ เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี่เอง ค่าย "ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว" ก็เพิ่มความหลากหลายให้แก่รถเก๋งเล็กสุดหรูอนุกรมนี้ โดยเปิดเผยโฉมหน้าของตัวถังแบบที่ 3 คือ ตัวถัง 4 ประตูคูเป 5 ที่นั่ง ซึ่งจะนำออกจำหน่ายพร้อมกับป้ายชื่อ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-3 กรัน ตูริสโม (BMW 3-SERIES GRAN TURISMO) เป็นรถที่ยอดผู้ผลิตรถหรูของเมืองเบียร์อวดโอ่ว่า ผสมผสานไดนามิคของรถซีดานเข้ากับประโยชน์ใช้สอยของรถตรวจการณ์และรูปลักษณ์ของรถคูเป ได้อย่างเหมาะเจาะและสมบูรณ์แบบ ตัวถังซึ่งติดตั้งประตูแบบไร้กรอบหน้าต่างและมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศระหว่าง 0.28-0.30 มีขนาดยาว 4.824 ม. กว้าง 1.828 ม. และสูง 1.508 ม. คือ ยาวกว่ากัน 20.0 ซม.กว้างกว่ากัน 1.7 ซม. และสูงกว่ากัน 7.9 ซม. เมื่อเทียบกับตัวถังตรวจการณ์ซึ่งเป็นที่มา ในขณะที่ช่วงฐานล้อก็ยาวขึ้นถึง 11.0 ซม. คือ จาก 2.810 เป็น 2.920 ม. ผลลัพธ์สำคัญของความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ คือ พื้นที่วางเข่าของผู้โดยสารบนเบาะหลังที่เพิ่มขึ้นถึง 7.0 ซม. เมื่อเทียบกับตัวถังอีก 2 แบบ ทำให้ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-3 กรัน ตูริสโม มีพื้นที่ตอนหลังที่นั่งยืดแข้งยืดขาได้สบายกว่ารถซีดาน บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-5 (BMW 5-SERIES) ด้วยซ้ำ จะมีรถให้ลูกค้าในเมืองแม่เลือกใช้รวม 5 โมเดล คือ BMW 320I GRAN TURISMO ติดตั้งเครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,997 ซีซี 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า BMW 328I GRAN TURISMO ติดตั้งเครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,997 ซีซี 180 กิโลวัตต์/245 แรงม้า BMW 335I GRAN TURISMO ติดตั้งเครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC 6 สูบเรียง 2,979 ซีซี 225 กิโลวัตต์/306 แรงม้า BMW 318D GRAN TURISMO ติดตั้งเครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,995 ซีซี 105 กิโลวัตต์/143 แรงม้า และ BMW 320D GRAN TURISMO ติดตั้งเครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,995 ซีซี 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า ระบบเกียร์มาตรฐานที่ติดตั้งในรถทุกโมเดล คือ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และมีระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เป็นออพชันพิเศษให้เลือกใช้ ระบบเกียร์ทั้ง 2 แบบนี้ทำงานร่วมกับระบบ AUTO START-STOP ซึ่งช่วยประหยัดเชื้อเพลิง เช่นเดียวกับตัวถังซีดานและตัวถังตรวจการณ์ ในเมืองเบียร์ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-3 ในตัวถังแบบใหม่นี้ แบ่งการตกแต่งและอุปกรณ์เป็น 3 ระดับ กำกับด้วยรหัส SPORT LINE-LUXURY LINE-MODERN LINE รวมทั้งจะมีการตกแต่งแบบพิเศษ คือ M SPORT PACKAGE ให้เลือกด้วย * ญี่ปุ่น-ในรอบปีงูใหญ่ที่เพิ่งผ่านพ้นไป นโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการใช้รถสะอาด ส่งผลให้รถไฮบริด โตโยตา ปรีอุส (TOYOTA PRIUS) สามารถยึดครองตำแหน่งรถขายดีที่สุดในญี่ปุ่นติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ด้วยยอดขายรวม 317,675 คัน หรือ 870 คัน/วันโดยเฉลี่ย รวมทั้งส่งผลให้รถไฮบริด โตโยตา อควา (TOYOTA AQUA) ซึ่งเพิ่งออกจำหน่ายเป็นปีแรกมียอดขายที่สูงถึง 266,567 คัน ตามตัวเลขของ JADA (JAPAN AUTOMOBILE DEALERS ASSOCIATION) หรือ สมาคมผู้แทนจำหน่ายรถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น ในรอบปี 2012 รถขายดีที่สุดในเมืองยุ่น 30 อันดับแรก (ไม่รวมรถขนาดมีนีซึ่งเสียภาษีอัตราต่ำเป็นพิเศษ) ประกอบด้วย 1. โตโยตา ปรีอุส 317,675 คัน 2. โตโยตา อควา 266,567 คัน 3. ฮอนดา ฟิท 209,276 คัน 4. ฮอนดา ฟรีด 106,316 คัน 5. โตโยตา วิทซ์ 105,611 คัน 6. นิสสัน เซเรนา 96,020 คัน 7. นิสสัน โนท 85,330 คัน 8. โตโยตา โคโรลลา 80,459 คัน 9. ฮอนดา สเตพ แวกอน 63,707 คัน 10. โตโยตา เวลล์ไฟร์ 58,513 คัน 11. มาซดา เดมีโอ 57,820 คัน 12. โตโยตา ปาสโซ 52,281 คัน 13. ซูบารุ อิมพเรซา 52,017 คัน 14. โตโยตา วอกซี 50,539 คัน 15. ซูซูกิ สวิฟท์ 43,108 คัน 16. โตโยตา แรคทิส 43,011 คัน 17. โตโยตา อัลฟาร์ด 41,471 คัน 18. นิสสัน คิวบ์ 40,680 คัน 19. นิสสัน มาร์ช 39,694 คัน 20. โตโยตา เอสตีมา 39,331 คัน 21. ซูซูกิ โซลีโอ 38,877 คัน 22. โตโยตา โนอาห์ 36,764 คัน 23. โตโยตา วิช 36,513 คัน 24. มาซดา ซีเอกซ์-5 35,438 คัน 25. นิสสัน จูค 33,648 คัน 26. โตโยตา คราวน์ 29,926 คัน 27. โตโยตา ซีเอนตา 29,926 คัน 28. นิสสัน เอกซ์-ทเรล 28,325 คัน 29. โตโยตา สเปด 26,539 คัน 30. ซูบารุ เลกาซี 26,008 คัน * เยอรมนี- ในรอบปี 2012 มีการจดทะเบียนรถใหม่ในเมืองเบียร์รวมทั้งสิ้น 3,082,504 คัน หรือลดลงร้อยละ 3 จากตัวเลขในรอบปีก่อนหน้านั้น รถเก๋งเล็ก โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ (VOLKSWAGEN GOLF) ครองตำแหน่งรถยอดนิยมเป็นปีที่ 32 ติดต่อกัน และมีรถแบบอื่นๆ ที่มียอดจดทะเบียนสูงสุด 20 อันดับแรก ดังนี้ 1. โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ/เจททา 240,702 คัน 2. โฟล์คสวาเกน พาสสัท 89,333 คัน 3. โฟล์คสวาเกน โพโล 76,507 คัน 4. เมร์เซเดส ซี-คลาสส์ 69,052 คัน 5. โอเพล อัสตรา 66,981 คัน 6. บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-3 62,506 คัน 7. เมร์เซเดส บี-คลาสส์ 59,420 คัน 8. บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-1 59,241 คัน 9. เอาดี เอ 4 57,633 คัน 10. โอเพล โคร์ซา 55,747 คัน 11. โฟล์คสวาเกน ทีกวน 55,615 คัน 12. โฟล์คสวาเกน ตูรัน 53,025 คัน 13. เอาดี เอ 6/เอ 7 52,710 คัน 14. ฟอร์ด ฟิเอสตา 50,874 คัน 15. บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-5 48,107 คัน 16. ฟอร์ด โฟคัส 47,935 คัน 17. สโกดา อคตาวีอา 46,318 คัน 18. เอาดี เอ 3 45,999 คัน 19. เมร์เซเดส อี-คลาสส์ 45,841 คัน 20. โฟล์คสวาเกน อัพ ! 42,842 คัน * ยุโรป-ตามตัวเลขของ JATO DYNAMICS บริษัทเอกชนผู้ชำนาญการด้านข้อมูลของอุตสาหกรรมรถยนต์ ในรอบปีงูใหญ่ที่เพิ่งผ่านพ้นไป 30 ประเทศในทวีปยุโรป (ออสเตรีย เบลเยียม คโรเอเชีย ไซปรัส สาธารณรัฐเชค เดนมาร์ค เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ กรีก ฮังการี ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลัทเวีย ลิธัวเนีย ลักเซมเบิร์ก นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส โรมาเนีย เซอร์เบีย สโลวะเกีย สโลเวเนีย สเปน สวีเดน สวิทเซอร์แลนด์ และ เนเธอร์แลนด์) สามารถขายรถใหม่ได้รวมทั้งสิ้น 12,573,842 คัน หรือลดลงถึงร้อยละ 7.9 จากตัวเลขในรอบปี 2011 ตลาดใหญ่ที่สุด 5 อันดับแรก คือ เยอรมนี 3,082,504 คัน อังกฤษ 2,044,609 คัน ฝรั่งเศส 1,898,771 คัน อิตาลี 1,410,302 คัน และ สเปน 701,026 คัน เมื่อแยกตามยี่ห้อของรถ ก็ปรากฏว่ารถขายดีที่สุด 10 อันดับแรกประกอบด้วย 1. โฟล์คสวาเกน 1,613,913 คัน 2. ฟอร์ด 953,174 คัน 3. โอเพล/วอกซ์ฮอลล์ 838,206 คัน 4. เรอโนลต์ 816,933 คัน 5. เปอโฌต์ 795,839 คัน 6. เอาดี 705,739 คัน 7. ซีตรอง 674,688 คัน 8. บีเอมดับเบิลยู 641,378 คัน 9. เมร์เซเดส-เบนซ์ 598,301 คัน 10. เฟียต 582,995 คัน และเมื่อแยกตามรุ่นของรถ ก็ปรากฏว่ารถขายดีที่สุด 10 อันดับแรกประกอบด้วย 1. โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ 431,742 คัน 2. ฟอร์ด ฟิเอสตา 306,405 คัน 3. โฟล์คสวาเกน โพโล 287,828 คัน 4. โอเพล/วอกซ์ฮอลล์ โคร์ซา 265,297 คัน 5. เรอโนลต์ กลีโอ 244,280 คัน 6. ฟอร์ด โฟคัส 241,862 คัน 7. โอเพล/วอกซ์ฮอลล์ อัสตรา232,645 คัน 8. นิสสัน กัชไก 207,885 คัน 9. เรอโนลต์ เมกาน 199,167 คัน 10. โฟล์คสวาเกน พาสสัท 195,617 คัน * สหรัฐอเมริกา-ในรอบปี 2012 มีการจดทะเบียนรถใหม่ในเมืองมะกันรวม 14,491,873 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 14 จากตัวเลขเมื่อปี 2011 และเป็นยอดทะเบียนรถสูงสุดนับแต่ปี 2007 รถพิคอัพ ฟอร์ด เอฟ-ซีรีส์ (FORD F-SERIES) ครองตำแหน่งรถขายดีที่สุดเป็นปีที่ 31 ติดต่อกันด้วยยอดจดทะเบียน 645,316 คัน รถพิคอัพ เชฟโรเลต์ ซิลเวอราโด (CHEVROLET SILVERADO) ตามมาในอันดับสอง 418,312 คัน ส่วนรถแบบอื่นๆ ที่มียอดจดทะเบียนสูงสุด 25 อันดับแรก มีดังนี้ 1. ฟอร์ด เอฟ-ซีรีส์ 645,316 คัน 2. เชฟโรเลต์ ซิลเวอราโด418,312 คัน 3. โตโยตา แคมรี 404,886 คัน 4. ฮอนดา แอคคอร์ด 331,872 คัน 5. ฮอนดา ซีวิค 317,909 คัน 6. นิสสัน อัลตีมา 302,934 คัน 7. ดอดจ์ แรม 293,363 คัน 8. โตโยตา โคโรลลา 290,947 คัน 9. ฮอนดา ซีอาร์-วี 281,652 คัน 10. ฟอร์ด เอสเคพ 261,008 คัน 11. ฟอร์ด โฟคัส 245,922 คัน 12. ฟอร์ด ฟิวชัน 241,263 คัน 13. เชฟโรเลต์ ครูซ 237,758 คัน 14. ฮันเด โซนาตา 230,605 คัน 15. เชฟโรเลต์ อีควินอกซ์ 218,621 คัน 16. เชฟโรเลต์ มาลิบู 210,951 คัน 17. ฮันเด เอลันทรา 202,034 คัน 18. โตโยตา รัฟโฟร์ 171,877 คัน 19. โฟล์คสวาเกน เจททา 170,424 คัน 20. เชฟโรเลต์ อิมพาลา 169,351 คัน 21. โตโยตา ปรีอุส 160,257 คัน 22. ฟอร์ด เอกซ์พลอเรอร์ 158,344 คัน 23. จีเอมซี สิเอร์รา 157,185 คัน 24. จีพ กแรนด์ เชอโรคี 154,734 คัน 25. เกีย ออพทิมา 152,399 คัน * สาธารณรัฐประชาชนจีน-หลังจากที่เคยมีอัตราการเติบโตเป็นเลข 2 หลัก ในรอบปีงูใหญ่ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ยอดขายรถใหม่ในเมืองมังกรเริ่มลดดีกรีความร้อนแรงลงบ้างแล้ว ตามตัวเลขที่เผยแพร่ในเวบไซท์ BESTSELLINGCARSBLOG.COM ในรอบปี 2012 ตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถขายรถยนต์นั่งได้รวมทั้งสิ้น 14,682,215 คัน หรือเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 6 จากตัวเลขในรอบปี 2011 และรถที่ขายดีที่สุด 30 อันดับแรก ประกอบด้วย 1. ฟอร์ด โฟคัส 296,360 คัน 2. เชฟโรเลต์ เซล 279,740 คัน 3. บิวอิค เอกซ์เซลล์ 277,071 คัน 4. โฟล์คสวาเกน ลาวิดา 246,687 คัน 5. โฟล์คสวาเกน เจททา 242,528 คัน 6. โฟล์คสวาเกน พาสสัท 233,321 คัน 7. เชฟโรเลต์ ครูซ 232,592 คัน 8. โฟล์คสวาเกน โบรา 222,735 คัน 9. ฮันเด เอลันทรา ยูดง 213,974 คัน 10. ฮันเด เวอร์นา 201,746 คัน 11. โฟล์คสวาเกน ซาจิทาร์ 196,293 คัน 12. โฟล์คสวาเกน มาโกทัน 173,667 คัน 13. บิวอิค เอกซ์เซลล์ เอกซ์ที/จีที173,312 คัน 14. โฟล์คสวาเกน ทีกวน 173,062 คัน 15. ฮอนดา ซีอาร์-วี 169,037 คัน 16. โตโยตา โคโรลลา 151,887 คัน 17. เอมกแรนด์ อีซี 7 146,516 คัน 18. โตโยตา แคมรี 145,402 คัน 19. เอฟเอดับเบิลยู เอน 3/เอน 5144,462 คัน 20. นิสสัน ทิอิดา 144,215 คัน 21. เชอรี คิวคิว 143,974 คัน 22. เกีย เค 2 143,206 คัน 23. เอาดี เอ 6 แอล 138,024 คัน 24. โฟล์คสวาเกน โพโล 137,949 คัน 25. นิสสัน ซันนี 137,820 คัน 26. สโกดา อคตาวีอา 137,616 คัน 27. กเรท วอลล์ โวลีกซ์ ซี 30 136,502 คัน 28. นิสสัน ซิลฟี 133,823 คัน 29. โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ 127,376 คัน 30. บีวายดี เอฟ 3 124,870 คัน * ญี่ปุ่น-โตโยตา มอเตอร์ คอร์พอเรชัน บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยผลประกอบการในรอบปี 2012 โดยระบุว่า สามารถผลิตรถทุกชนิดได้รวมทั้งสิ้น 8,736,529 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 26.1 จากตัวเลขในรอบปี 2011 โดยแยกออกได้เป็นยอดผลิตในญี่ปุ่น 3,492,913 คัน (ร้อยละ 40.0) และยอดผลิตนอกญี่ปุ่น 5,243,616 คัน (ร้อยละ 60.0) ในรอบปีดังกล่าวยักษ์ใหญ่รายนี้สามารถขายรถในตลาดทั่วโลกได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 8.717 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22.8 จากยอดขายในรอบปี 2011 แยกออกได้เป็นยอดขายในญี่ปุ่น 1.692 ล้านคัน (ร้อยละ 19.4) และยอดขายนอกญี่ปุ่น 7.025 ล้านคัน (ร้อยละ 80.6) เมื่อรวมกับยอดขายของรถอีก 2 ยี่ห้อซึ่งอยู่ในเครือข่าย คือ ไดฮัทสุ (DAIHATSU) ซึ่งขายทั่วโลกได้ประมาณ 0.876 ล้านคัน และ ฮีโน (HINO) ซึ่งขายทั่วโลกได้ประมาณ 0.155 ล้านคัน ก็จะสรุปได้ว่า โดยเฉลี่ยยักษ์ใหญ่รายนี้สามารถขายรถได้ 1 ฟคันในทุกๆ 3.0 วินาที * ญี่ปุ่น-ยักษ์รองของเมืองยุ่นคือ ฮอนดา มอเตอร์ ก็เปิดเผยผลประกอบการในรอบปี 2012 แล้วเช่นกัน โดยระบุว่าสามารถขายรถในตลาดทั่วโลกได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 3.817 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 23 จากตัวเลขในรอบปี 2011 โดยแยกได้เป็นยอดขายในญี่ปุ่น 0.745 ล้านคัน (ร้อยละ 19.5) และยอดขายนอกญี่ปุ่น 3.072 ล้านคัน (ร้อยละ 80.5) ตลาดนอกญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดคือสหรัฐอเมริกาซึ่งมียอดขาย 1.422 ล้านคัน ถัดไปคือสาธารณรัฐประชาชนจีน