4 สูบ ติดเทอร์โบ แรงจัดประหยัดกว่า 6 สูบ

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จัดกิจกรรม THE BMW 5 SERIES THE ICON OF INNOVATION ที่โบนันซา อินเตอร์เนชันแนล สปีดเวย์ เตรียมพร้อมรถให้ขับหลายรุ่น ทั้งแบบซีดาน และทัวริง บีเอมดับเบิลยู พัฒนาเครื่องยนต์ ทวินเพาเวอร์ เทอร์โบ (TWINPOWER TURBO มาจาก TWINPOWER และ TURBO) ทั้งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว ใหม่ เพื่อมาทดแทนเครื่องยนต์แบบ 6 สูบแถวเรียง ในรุ่นเดิม โดยเน้นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ทวินเพาเวอร์ แบ่ง 2 ส่วน คือ 1. ระบบวาล์วแปรผันไอดี/ไอเสีย ดับเบิล-วาโนส (DOUBLE-VANOS) วาล์วทรอนิค (VALVETRONIC) ในเครื่องยนต์เบนซิน และระบบคอมมอนเรล เจเนอเรชันที่ 3 ในเครื่องยนต์ดีเซล 2. ระบบหัวฉีดแบบฉีดตรง (HIGH PRECISION INJECTION) HCCI หรือ HOMOGENOUS CHARGE COMPRESSION IGNITION ในเครื่องยนต์เบนซิน และหัวฉีด PIEZO INJECTORS ในเครื่องยนต์ดีเซล ส่วนเทอร์โบ มีทั้ง เทอร์โบตัวเดียว (SINGLE TURBO) เทอร์โบชาร์จเชื่อมต่อกับท่อร่วมไอเสีย 2 พอร์ท (TWIN-SCROLL TURBO) เทอร์โบคู่ หรือ ทวินเทอร์โบ (TWIN TURBO) และ เทอร์โบ 3 ตัว หรือ ทไรเทอร์โบ (TRI TURBO) สำหรับรุ่น 520 ไอ (520I), 528 ไอ (528I), 528 ไอ สปอร์ท (528I SPORT) และ 520 ไอ ทัวริง สปอร์ท (520I TOURING SPORT) ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบชาร์จ 1 ตัว เชื่อมต่อกับท่อร่วมไอเสีย 2 พอร์ท ซึ่งสามารถผลิตแรงดันได้เร็วกว่าพอร์ทเดียว รุ่น 520 ดี (520D), 520 ดี ทัวริง สปอร์ท (520D TOURING SPORT) และ 520 ดี (525D) ใช้เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบเดียว ส่วน 525 ดี (525D) ใช้เทอร์โบคู่ นอกจากนี้ ซีรีส์ 5 ยังติดตั้งระบบดับเครื่องยนต์เมื่อหยุดรถ AUTO START/STOP พร้อมกับโหมดการขับแบบประหยัดพลังงาน ECO PRO ที่แสดงผลในด้านอัตราการประหยัดเชื้อเพลิง เพิ่มจากสถานะของการรีชาร์จแบทเตอรีในขณะที่เบรค หลากหลายกิจกรรมใน โบนันซา อินเตอร์เนชันแนล สปีดเวย์ ประกอบด้วย เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน (LANE CHANGE) สลาลอม (SLALOM) จับคู่จับเวลา (DRAG) และขับรอบสนาม (CIRCUIT) สถานีแรกเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน 2 ครั้งต่อเนื่องกันที่ความเร็ว 50-60 กม./ชม. ด้วย 520 ไอ ทัวริง สปอร์ท และ 520 ดี ทัวริง สปอร์ท ตกแต่งชุด M SPORT PACKAGE ล้อแมก 19 นิ้ว คล่องแคล่ว และเฉียบคมไม่ต่างกับรุ่นซีดาน แม้ว่าด้านท้ายจะอวบอ้วนตามสไตล์สเตชันแวกอน ถัดมาเป็นขับแบบสลาลอม ด้วยซีดาน รุ่น 528 ไอ สปอร์ท ที่มีระบบเลี้ยวล้อหลัง (INTEGRAL ACTIVE STEERING) ด้วยระบบไฟฟ้า 3 องศาในทิศทางตรงกันข้ามกับล้อหน้า เมื่อใช้ความเร็วน้อยกว่า 60 กม./ชม. เพิ่มความสะดวกเมื่อจอด แต่จะเลี้ยวไปในทิศทางเดียวกันกับล้อหน้า เมื่อเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูง ช่วยให้การเลี้ยวเบาแรง และใช้องศาพวงมาลัยน้อยกว่า 520 ไอ ที่ไม่มีระบบนี้ แต่ต้องใช้เวลาในการปรับตัว ก่อนจะปิดท้ายด้วยการขับรอบสนาม บีเอมดับเบิลยู ก็จัดให้เปรียบเทียบอัตราเร่งบนทางตรงประมาณ 130 ม. ระหว่าง 523 ไอ เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 24 วาล์ว 204 แรงม้า ตัวเดิมกับ 520 ไอ 4 สูบ 16 วาล์ว ทวินเพาเวอร์ เทอร์โบ ที่มีพละกำลัง 184 แรงม้า แต่ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 8.0 วินาที เร็วกว่า 0.5 วินาที (ตัวเลขจากผู้ผลิต) งานนี้เครื่องยนต์เล็กเข้าเส้นชัยก่อนทุกรอบ ในการขับรอบสนาม ตัวแรงอย่าง 528 ไอ สปอร์ท แม้ว่าจะใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เหมือนกับ 520 ไอ แต่พละกำลัง 218 แรงม้า ตั้งแต่รอบต่ำ ตอบสนองฉับไว ครั้งนี้ตามติดด้วย 525 ดี เทอร์โบคู่ 204 แรงม้า ที่มีแรงบิด 38.7 กก.-ม. ตั้งแต่ 1,750 รตน. ส่วนตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอย่างไม่เป็นทางการที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. เบนซิน 4 สูบ อยู่ระหว่าง 12-14 กม./ลิตร ดีเซล 4 สูบ ค่อนข้างหรู 16-17 กม./ลิตร ดีกว่ารุ่นเดิม 1-2 กม.