มาที่หลังอาจดังกว่า

ปิด "ระเบียงรถใหม่" ในเดือนที่ราคาทองคำอาจทะยานผ่านหลัก 30,000 บาทไปแล้ว ด้วยรถยนต์นั่งพลังไฟฟ้าแบบแรกในประวัติศาสตร์ 1 ศตวรรษของค่าย ฟอร์ด ซึ่งเพิ่งอวดตัวเป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ครั้งล่าสุด เมื่อกลางเดือนมกราคมปีกระต่าย และขณะนี้กำลังจะออกจำหน่ายแล้ว เป็นหัวขบวนของรถไฟฟ้า และรถไฮบริด ที่ยักษ์รองเมืองมะกันเคยประกาศว่า จะนำออกสู่ตลาดทั้งในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรปภายในปี 2013 เอาเข้าจริงกลับทำได้เร็วกว่า คือ จะออกจำหน่ายในเมืองมะกันก่อนสิ้นปี 2011 แต่เร็วยังไง ก็ยังเร็วไม่เท่าคู่แข่งตัวเอ้อย่าง เจเนอรัล มอเตอร์ส ซึ่งเริ่มขายรถพลังไฟฟ้า เชฟโรเลต์ โวลท์ (CHEVROLET VOLT) ไปแล้วตั้งแต่ตอนต้นปี ยักษ์รองของเมืองมะกัน จะใช้โรงงานซึ่งตั้งอยู่ในรัฐมิชิแกนเป็นที่ผลิตรถไฟฟ้าแบบนี้ เป็นโรงงานที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และส่วนหนึ่งของพลังงานที่ใช้ได้มาจากโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ส่วนรถที่จะออกจำหน่ายในตลาดยุโรป ซึ่งรายละเอียดอาจเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะผลิตที่ไหน "โฟคัส อีเลคทริค คือ รถธงของกองทัพรถพลังไฟฟ้า ที่แสดงให้เห็นในความมุ่งมั่นของเรา ที่จะเสนอทางเลือกแก่ลูกค้า ผู้ต้องการรถประหยัดเชื้อเพลิง หรือรถที่ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงเลย" เดอร์ริค คูแซค (DERRICK KUZAK) รองประธานของค่ายยักษ์รองซึ่งรับผิดชอบดูแลด้านการพัฒนาสินค้ากล่าว "ระบบขับอันก้าวล้ำนำสมัย ให้ผลลัพธ์เป็นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดคาร์บอนไดออกไซด์ โดยไม่สูญเสียความเพลิดเพลินใดๆ ในการขับขี่" ไม่ใช่รถไฟฟ้าที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งคันเหมือน เชฟโรเลต์ โวลท์ และ โอเพล อัมเพรา ของค่ายยักษ์ใหญ่ หรือ นิสสัน ลีฟ ของญี่ปุ่น แต่พัฒนาจากรถ ฟอร์ด โฟคัส แฮทช์แบค รุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งเพิ่งออกจำหน่ายในเมืองมะกันในฐานะรถรุ่นปีโมเดล 2012 โดยติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,999 ซีซี 160 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้าผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ POWERSHIFT ติดป้ายค่าตัว 18,200-22,700 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือประมาณ 0.55-0.68 ล้านบาท ระบบขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ของ ฟอร์ด โฟคัส อีเลคทริค เป็นระบบขับอย่างที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า PERMANENT MAGNETIC ELECTRIC TRACTION ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 92 กิโลวัตต์/123 แรงม้า ซึ่งให้แรงบิดสูงสุด 246 นิวตัน-เมตร หรือ 25.1 กก.-ม. ทำงานร่วมกับแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน (LITHIUM-ION) ขนาด 23 กิโลวัตต์ชั่วโมง เป็นแบทเตอรีระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งประกอบขึ้นจากเซลล์อันเป็นผลิตผลของ LG CHEM LTD บริษัทเคมีรายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ การประจุไฟด้วยไฟบ้าน 240 โวลท์ จะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง คือเพียงครึ่งเดียวของรถไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น นิสสัน ลีฟ (NISSAN LEAF) ที่กำลังขายดีจนผลิตแทบไม่ทันขาย แต่ถ้าใช้ไฟ 120 โวลท์ จะต้องเพิ่มเวลาอีกหลายเท่าตัว คือ 18-20 ชั่วโมง นอกเหนือจากระบบขับด้วยพลังไฟฟ้าดังที่กล่าวข้างต้น กลไกอื่นๆ ของระบบเลี้ยวระบบบังคับเลี้ยวและระบบห้ามล้อ เกือบทั้งหมดยกชุดมาจากรถรุ่นสามัญ ด้วยเหตุนี้ผู้ผลิตจึงโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่า การขับรถไร้เครื่องยนต์ติดโลโกวงรีสีฟ้า จะไม่ทำให้ผู้ขับสูญเสียรสชาติของการขับรถแต่อย่างใด จุดที่เปลี่ยนไปแน่นอนและคงจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งจึงจะคุ้นเคย คือ การที่รถวิ่งโดยแทบจะไม่มีเสียง ยักษ์รองเมืองมะกันยืนยันว่าการใช้รถ ฟอร์ด โฟคัส อีเลคทริค จะสิ้นเปลืองพลังงานน้อยกว่ารถ เชฟโรเลต์ โวลท์ และสู้กันได้สบายมากกับรถไฟฟ้าทุกแบบที่มีขายในโลกขณะนี้ แต่ในข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ ไม่มีตรงไหนเลยที่บอกว่าเมื่อประจุไฟเต็มหม้อ รถไฟฟ้าซึ่งมีขนาดตัวถังยาว 4.361 ม. กว้าง 1.839 ม. สูง 1.496 ม. มีน้ำหนักตัวประมาณ 1,675 กก. และนั่งได้รวม 5 คนนี้ จะวิ่งได้ไกลแค่ไหน ? เพียงแต่บอกว่าสามารถทำความเร็วสูงสุด 136 กม./ชม.